xs
xsm
sm
md
lg

สัมภาษณ์พิเศษ:อดิศักดิ์ โรหิตะศุนชูไอเดียเพิ่มขีดแข่งขันชิงประธานสภาอุตฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การชิงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่กำลังจะมีขึ้น ปีนี้มีหลายบุคคลเสนอตัวเข้าชิงตำแหน่งดังกล่าว หนึ่งในนั้นคือ อดิศักดิ์ โรหิตะศุน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมถึงรองประธานกรรมการบริหารระดับสูง บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัดแนวทางการทำงานของอดิศักดิ์นับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

สาเหตุที่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานสภาฯ

ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในด้านของการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมในประเทศเราให้ทัดเทียมกับประเทศชั้นนำอื่นๆ ให้ได้ หากมองย้อนหลังกลับไปในอดีต ขีดความสามารถของเราไม่ได้แตกต่างกับเกาหลี ไต้หวันและยังเหนือกว่ามาเลเซีย จีนและอินเดีย แต่วันนี้เราสู้หลายประเทศไม่ได้และบางประเทศที่เคยสู้เราไม่ได้ก็ไล่ตามหลังมาติดๆ

ขณะนี้สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไป การผลิตระดับโลกจะย้ายฐานมาที่เอเชียโดยเฉพาะที่จีน อินเดีย และอาเซียนไทยจะต้องเร่งทบทวนและปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมให้พร้อมที่จะแข่งขันได้ บทบาทของสภาอุตสาหกรรมคือต้องร่วมมือกับภาครัฐ และประสานงานกับภาคเอกชนเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโลก โอกาสทางการตลาดและคู่แข่ง และนำมาวิเคราะห์เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับอุตสาหกรรมไทยเพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศเหล่านั้นให้ได้

ชูวิสัยทัศน์การสมัครครั้งนี้ไว้อย่างไร

วางวิสัยทัศน์ “ อุตสาหกรรมนำความสุขสู่สังคมไทย ” โดยมีแนวทางการแก้ปัญหาระยะสั้น คือช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลก โดยการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ เพราะปัญหาเร่งด่วนในปัจจุบันคือ การที่ธุรกิจประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้ยอดขายลดลง ต้นทุนสูงขึ้นและสภาพคล่องตึงตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจ SME ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด ดังนั้นในระยะสั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องสร้างสภาพคล่องให้กับธุรกิจ SME ที่มีปัญหาจากภาวะวิกฤติ

สภาอุตสาหกรรมต้องทำงานประสานกับสมาคมธนาคารไทยใกล้ชิดมากขึ้นรวมทั้งต้องปรึกษา หารือกับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทยในการหาวิธีการหรือขอคำแนะนำเพื่อให้สามารถผ่อนปรนเงื่อนไขในการปล่อยกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ SME หากติดเงื่อนไขทางด้านกฎหมาย หรือกฎระเบียบใดๆที่ทำให้สถาบันการเงินไม่สามารถปล่อยกู้ได้ ควรเสนอให้รัฐบาลตั้งกองทุนชั่วคราวเพื่อปล่อยกู้แทนสถาบันการเงิน โดยมีการบริหารจัดการโดยมืออาชีพจากภาคการเงิน และกำหนดเงื่อนไขเบื้องต้นในการพิจารณาให้กู้กับธุรกิจที่มีผลประกอบการที่ดี มีศักยภาพในการเติบโตในภาวะก่อนวิกฤติ

รวมถึงการปรับโครงสร้างธุรกิจ ลดต้นทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน ภายหลังจากที่เสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจแล้ว สิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนต่อไปคือ ช่วยเหลือผู้ประกอบการในการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อให้สามารถลดต้นทุนอย่างเป็นระบบ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจเพื่อให้เหมาะสมกับการแข่งขันในอนาคตต่อไป

แม้บางธุรกิจจะมีการดำเนินงานเพื่อลดต้นทุนพื้นฐานอยู่แล้ว เช่น การประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ การใช้กระดาษ 2 หน้า แต่สิ่งที่อยากเสนอให้ทำคือการบริหารต้นทุนอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง เพื่อช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเป็นโครงการที่สร้างแนวคิดในการจัดการสมัยใหม่ให้แก่เจ้าของธุรกิจ สร้างระบบการจัดการ และพัฒนาคนไปพร้อมๆกัน

มองว่าจะปรับบทบาทและวิธีการทำงานของสภาอุตสาหกรรมอย่างไร

สภาอุตสาหกรรมจะต้องมีการปรับบทบาทและวิธีการทำงาน กล่าวคือ กรรมการของสภาฯควรจะทำหน้าที่ในการให้นโยบาย ให้คำปรึกษา ติดตามและประเมินผลงานโดยรวม เจ้าหน้าที่ของสภาฯมีอยู่ถึง 200 กว่าคนที่มีความรู้ความสามารถจะต้องให้โอกาสในการทำงานมากขึ้นในการนำนโยบายไปปฎิบัติ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ ของสมาชิก และให้เจ้าหน้าที่ของสภาฯสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและมีเกียรติ

สภาอุตสาหกรรมต้องพร้อมที่จะทำงานเพื่อผลประโยชน์ของสมาชิกส่วนรวมและประเทศชาติ และต้องเป็นที่ปรึกษาที่ดีแก่ภาครัฐในการให้ข้อมูล ความเห็นและข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์อย่างตรงไปตรงมา และสามารถดำรงตนเป็นตัวแทนที่แท้จริงของภาคอุตสาหกรรมไทยและเป็นที่พึ่งพาให้กับสมาชิกได้

ปัจจุบันการเก็บค่าสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมยังมีความซ้ำซ้อนในกรณีของสมาชิกที่อยู่ต่างจังหวัด โดยสมาชิกต้องจ่ายค่าสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมจังหวัด และยังต้องจ่ายค่าสมาชิกรายปีของสภาอุตสาหกรรมส่วนกลาง จึงอยากที่จะลดภาระของสมาชิกในส่วนนี้ให้น้อยลง

แนวทางการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวจะมีอย่างไร

ผลักดันนโยบายยุทธศาสตร์กลุ่มอุตสาหกรรมจังหวัด (Area-based Cluster) ให้เป็นวาระแห่งชาติ ปัจจุบันได้มีการแบ่งกลุ่มอุตสาหกรรมเป็น 19 กลุ่มหรือที่เรียกว่าคลัสเตอร์ ซึ่งจำเป็นจะต้องให้มียุทธศาสตร์ของการขับเคลื่อนในแต่ละคลัสเตอร์อย่างจริงจังในด้าน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วย Creative & Innovative Economy, การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต , การพัฒนาบุคคลากร และการปรับปรุงระบบการจัดส่งสินค้า ตลอดจนถึงการจัดทำ Roadmap ACE & FTA เชิงรุก

การห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคม ยุทธศาสตร์ที่จะถูกกำหนดขึ้นต้องตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มจังหวัด หรือคลัสเตอร์นั้น และกำหนดโดยกลุ่มจังหวัดหรือคลัสเตอร์เอง สภาอุตสาหกรรมจะทำหน้าที่เป็นผู้ผลักดันและสนับสนุนให้สามารถทำเช่นนั้นได้ โดยจะเป็นการกระจายอำนาจไปยังสมาชิกในต่างจังหวัด

สภาอุตสาหกรรมจะต้องทำงานร่วมกับภาครัฐ ซึ่งจะไม่จำกัดอยู่ที่กระทรวงอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่สามารถที่จะร่วมงานกับหน่วยงานอื่นๆด้วยเห็นว่าจะจัดตั้งหน่วยงานเพิ่มเพื่อยกระดับศักยภาพของสภาอุตสาหกรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น