xs
xsm
sm
md
lg

6 คลัสเตอร์-สถาบันการศึกษาเชียงใหม่นัดแสดงจุดยืน 11 ส.ค./จี้ทุกขั้วหยุด-ก่อนตายทั้งระบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มเสื้อแดงในเชียงใหม่ ที่หลายครั้งกลายเป็นเหตุรุนแรงกลางเมือง ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของเชียงใหม่อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว-โรงแรม และยังก่อให้เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น ๆ อย่างมากมาย
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เครือข่ายองค์กรภาคเอกชน 6 คลัสเตอร์/สถาบันการศึกษา ฯลฯ นัดรวมตัว 11 สิงหาฯนี้ ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน-ยื่นข้อเสนอยุติข้อขัดแย้งในสังคม-วิกฤตการเมือง หลังกระทบเศรษฐกิจเมืองเชียงใหม่ระนาว ทำโรงแรมแทบร้าง แถมเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ทุกภาคส่วน

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ในวันที่ 11 ส.ค.52 ที่จะถึงนี้เครือข่ายองค์กรภาคเอกชนต่างๆ ในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่ม 6 คลัสเตอร์ ทั้งหอการค้าจังหวัดฯ ,สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯ, ชมรมธนาคาร ,สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ,สมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ และ NORMAX หรือกลุ่มผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมในเชียงใหม่ ที่มีเครือข่ายผู้ประกอบการมากกว่า 300 กว่าราย ตลอดจนสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ จะร่วมกันแสดงจุดยืน รวมทั้งออกแถลงการณ์ข้อเรียกร้องต่าง ๆ ให้รัฐบาล ตลอดจนกลุ่มความขัดแย้งต่าง ๆ ในสังคม

โดยจะมีการยื่นเรื่องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เสนอต่อไปยังนายกรัฐมนตรี พร้อม ๆ กับเชิญสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ เข้าร่วมงาน – เผยแพร่ข้อเรียกร้องของตัวแทนองค์กรเครือข่าย

โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ตัวแทนองค์กรเครือข่ายเหล่านี้ ได้ประชุมหารือเพื่อจัดทำแถลงการณ์ดังกล่าวแล้ว มีข้อสรุปว่า เป็นแถลงการณ์ที่ทำขึ้นทั้งภาษาไทย – คำเมือง – ภาษาอังกฤษ เพื่อนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาข้อขัดแย้งในสังคม โดยไม่มีการแบ่งแยกสีใด สีหนึ่ง แต่จะเป็นข้อเรียกร้องให้ทุกกลุ่มก้อนการเมืองที่ออกมารเคลื่อนไหวอยู่นำไปพิจารณาดำเนินการ ก่อนที่จะส่งผลเสียต่อประเทศชาติ และประชาชนโดยส่วนรวมมากไปกว่านี้

โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ที่การเคลื่อนไหวทางการเมืองในระยะที่ผ่านมา ซึ่งหลายครั้งเป็นการเคลื่อนไหวเกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนด หรือละเมิดกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง

ซึ่งที่เห็นชัดเจนที่สุด ก็คือ ภาคการท่องเที่ยวและโรงแรม ที่แทบจะกลายเป็นโรงแรมร้าง มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในช่วงนี้เพียง 20% ในกลุ่มโรงแรมระดับ 2-3 ดาว ส่วนโรงแรม 4-5 ดาว ยิ่งได้รับผลกระทบมากกว่า เพราะจับตลาดต่างประเทศ ที่ไม่เพียงจะได้รับผลกระทบจากบรรยากาศทางการเมืองในพื้นที่เท่านั้น ยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกตกต่ำ – ปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ด้วย

จนทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ หลายรายที่เริ่มแบกรับภาระไม่ไหวและประกาศขายกิจการ มีทั้งกลุ่มโรงแรมระดับ 2-3 ดาว และผู้ประกอบการที่เป็นโรงแรมเชนระดับใหญ่ 4-5 ดาว แม้กระทั่งโรงแรมหรูอย่าง “โอเรียนเต็ลแมนดารินดาราเทวี” ซึ่งเป็นคนไทยแต่ให้เชนต่างชาติบริหารก็ยังต้องเผชิญปัญหา และล่าสุดต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้เช่นกัน

“เชียงใหม่ระยะนี้ ถ้าไม่มีแพนด้าน้อย เชื่อว่าสถานการณ์จะเลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่นี้อีกมากแน่นอน” แหล่งข่าวสมาชิก 6 คลัสเตอร์ของเชียงใหม่ กล่าวกับ “ASTVผู้จัดการ”

และแน่นอนว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวที่ตกต่ำอย่างหนักของเชียงใหม่นี้ ย่อมจะส่งผลกระทบไปถึงการจ้างงานในธุรกิจโรงแรม และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องอื่น ๆ อย่างเลี่ยงไม่พ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ผลกระทบขยายวงกว้างออกไปอย่างมากในอนาคตอันใกล้นี้

แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวอีกว่า การสร้างกระแสแบ่งฝัก แบ่งฝ่าย โดยไร้ความรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมืองของกลุ่มก้อนทางการเมืองในขณะนี้ ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างหนัก จึงจำเป็นต้องออกมารวมตัวแสดงจุดยืน โดยที่ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เสนอแนวทางแก้ปัญหาให้กับสังคม
กำลังโหลดความคิดเห็น