“ธงชัย บุษราพันธ์”เปิดแนวคิดโนเบิล แบรนด์ที่มี รูป รส กลิ่น เสียง

กระแสฮิตคอนโดมิเนียมเริ่มมีขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับราคาขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ระยะเวลาในการเดินทางยังนานขึ้นเพราะรถติด ประกอบกับการเปิดใช้บริการของรถไฟฟ้า BTS ทำให้ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น

ส่วนปรากฏการณ์คนเข้าคิวรอจองห้องชุดตั้งแต่เทียงคืน หรือเปิดขาย 2-3 ชั่วโมงหมดเกลี้ยงก็ต้องนึกถึงเมื่อช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาที่กระแสคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าโดยเฉพาะทำเลถนนสุขุมวิทตอนต้น อาทิ โครงการคอนโดมิเนียมของ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), บริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)และบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เป็นต้น

แต่นับจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 51 เป็นต้นมาหลายโครงการแทบขายไม่ออก คอนโดมิเนียมที่ว่าได้รับความนิยมมากๆ ขายได้อย่างเก่งประมาณ 50-60% ของจำนวนยูนิตทั้งหมดเท่านั้น จนกระทั้งในครึ่งปีหลัง 2552 ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัว ปรากฏการณ์คอนโดมิเนียมฮอตเริ่มกลับมาให้เห็นบ้างแล้ว

และหากจะกล่าวถึงบริษัทที่สร้างกระแสคอนโดมิเนียมฮอตได้เกือบทุกโครงการที่ออกมาสู่ตลาด คงหนีไม่พ้น บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ฯ ที่สร้างความฮือฮาด้วยโครงการแรกโนเบิล รีมิกซ์ สุขุมวิท 36 เปิดขายเมื่อปี 2549วันเดียวหมดเกลี้ยงต่อมาโครงการ โนเบิล รีเฟล็กซ์, โนเบิล รีวิว, โนเบิล รีฟอร์ม และล่าสุดโนเบิล รีไฟน์ ขายหมดภายใน 1 ชั่วโมงแถมลูกค้าแย้งกันเข้าคิวซื้อข้ามวันจนเป็นเหตุให้ลูกค้าที่มาตอนตี 5 ของวันจองไม่พอใจประท้วงผู้บริหาร ทำเอาเจ้าหน้าที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นต้องออกมาระงับเพื่อไม่ให้แขกรายอื่นตื่นตกใจ

ตัวตนของโนเบิล

กระแสคลั่งใคร หรือแฟนคลับของโนเบิลดังกล่าวทำให้ทำให้ ASTVจัดการสุดสัปดาห์ อดที่จะดึงตัว “ธงชัย บุศราพันธ์” กรรมการผู้จัดการโนเบิล มาสอบถามไม่ได้ว่า “โนเบิล” มีแนวคิดในการทำคอนโดมิเนียมแบบไหนถึงได้โดนใจตลาดเกือบทุกโครงการ แถมมีแฟนคลับเฉพาะของตัวเอง แถมยังขายดีมากเช่นนี้

“ธงชัย” กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้โครงการของโนเบิลขายดี นอกจากทำเลโดนใจลูกค้าแล้ว รูปแบบที่แตกต่างไปจากสินค้าทั่วไปในตลาดถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าเลือกโนเบิล สไตล์การพัฒนาโครงการของโนเบิลแต่ละโครงการจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มี brand perception สินค้าของโนเบิล มีรูป รส กลิ่น และเสียง หลายคนบอกว่าเราพัฒนาโครงการเหมือน “ศิลปิน” ลูกค้าของโนเบิลต่างจากยี้ห้ออื่น จะแต่งห้องเอง เพื่อสะท้อนตัวตน ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง แต่ลูกค้าของเราก็ไม่ได้มีจำนวนมากในตลาด ลูกค้าที่ซื้อบ้านของโนเบิลก็จะไม่ซื้อโครงการอื่น

แม้ว่าการพัฒนาหรือออกแบบสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ แต่การดำเนินธุรกิจ โนเบิล กลับใช้สไตล์ “อนุรักษ์นิยม” เติบโตอย่างมั่นคง ความเสี่ยงน้อย แม้ว่าจะไม่โตแบบก้าวกระโดดแบบบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯทำกัน แต่โนเบิลโตขึ้นทุกปีๆ ละ 10-15% เปิดโครงการปีละ 3-4 โครงการซึ่งผู้ถือหุ้นพอใจ ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนเพิ่มทุนเพื่อมีเงินพัฒนาปีละหลายๆ โครงการ

“ถ้าเราจะทำยอดขายปีละเป็นหมื่นล้าน เปิดปีละ 10 โครงการ เราก็ทำได้ และคิดมานานแต่สุดท้ายก็ไม่ทำแบบนั้น เพราะถ้าไม่ได้ของดีมาขายชื่อของโนเบิลก็จะเสีย ถ้าไม่ได้ที่ดินทำเลดีเราก็จะไม่ทำ แถมยังกันลูกค้าที่ซื้อไม่จริงหรือเกรงกำไร ด้วยการกำหนดให้วางเงินจองสูงถึง 30% อีกทั้งกลุ่มลูกค้ายังเป็นกลุ่มเฉพาะ ทำให้มีลูกค้าจำนวนไม่มากในตลาด”

แจงลูกค้าแย่งซื้อโนเบิล รีไฟน์

“ธงชัย” เล่าถึงเหตุการณ์เมือวันที่ 27 กันยายน 52 ที่บริษัทเปิดให้ลูกค้าจองโครงการโนเบิล รีไฟน์ คอนโดติดรถไฟฟ้าต้นซอยสุขุมวิท 26 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์เพียง 180 เมตร จำนวน 243 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.7 ล้านบาท มูลค่ารวมกว่า 1,400 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้คิดวีการจองอยู่นานพอสมควร เพราะเรามีบทเรียนมาจากหลายโครงการที่ผ่านมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด จนกระทั้งมาลงตัวที่ การเปิดให้ลูกค้ามาลงทะเบียนกรอกข้อมูลล่วงหน้าเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 กันยายนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ผลปรากฏว่ามีลูกค้ามาลงทะเบียน 1,500 ราย และกำหนดให้ลูกค้ามาลงทะเบียนมาจองและรับบัตรคิวในวันที่ 27 กันยายน โรงแรมโฟร์ซีซั่น เริ่มเปิดจองตั้งแต่ 09.00 น. เป็นต้นไป และกำหนดให้ 1 คิว จองได้ 3 ห้อง แต่พอเวลา 5 โมงเย็นของวันที่ 26 กันยายน กลับได้รับโทรศัพท์จากทางโรงแรมว่ามีลูกค้ามาเข้าคิวรอถึง 150 คน ซึ่งทางโรงแรมไม่สามารถให้รอได้ เพราะจะเสียภาพลักษณ์และสร้างความตื่นตกใจแก่แขกที่เข้าพักในโรงแรม

“ธงชัย” เล่าต่อว่า ผมจึงรับมาที่โรงแรมและเปิดห้องบอลรูมให้อยู่แต่ทางโรงแรมไม่อนุญาต ต้องเปิดห้องพัก ซึ่งลูกค้าจำนวนมากขนาดนั้นไม่สามารถทำได้จึงได้ขอให้กลับไปก่อน ลูกค้าไม่ยอมกลัวจะไม่ได้คิว จึงตัดสินใจให้ลงชื้อไว้ก่อนแล้วค่อยมาใหม่ในวันรุ่งขึ้น และในช่วงตี 4 มีลูกค้ามารับบัตรคิวกลับพบว่าตนเองเป็นคิวที่ร้อยกว่า ก็สร้างความสงสัยและไม่พอใจเป็นอย่างมาก เข้าใจว่าบริษัทเปิดให้ลูกค้าพิเศษจองไปก่อนจึงรวมตัวประท้วงขึ้น จนต้องเรียกผู้จัดการโรงแรมมาช่วยเลาความจริงและชี้แจงให้ลูกค้าฟัง ซึ่งใช้เวลาเจรจาอยู่นานกว่าจะสรุปได้ว่าให้คนที่มาก่อนจองได้ 1 ยูนิต ส่วนที่เหลือให้จับฉลาก สรุปจองหมดภายใน 3 ชั่วโมงครึ่ง

“สิ่งที่เกิดขึ้นเรารู้สึกเสียใจมาก ต้องขอโทษลูกค้าทุกคนทั้งๆที่คิดว่า วางแผนมาดีแล้ว ซึ่งเราก็ไม่คาดคิดว่าจะมีลูกค้าให้ความสนใจมากขนาดนี้ อีกทางหนึ่งก็ดีใจที่โครงการประสบความสำเร็จ แต่อีกด้านกลับรู้สึกกลัว กลัวว่าโครงการต่อไปจะไม่สำเร็จ เพราะไม่ใช่ว่าเราจะทำสำเร็จทุกโครงการเสมอไป โครงการหน้าก็ต้องมาลุ้นว่าจะดีหรือไม่ แต่ถ้าไม่ดีก็ไม่เสียใจ”

หลายคนบอกว่าเราประสบความสำเร็จเช่นนี้มีรายชื่อลูกค้าอยู่ในมือเราต้องรีบเปิดโครงการต่อไปอย่างแน่นอน แต่สำหรับโนเบิลแล้วไม่ใช่ ถ้าไม่มีที่ดินในทำเลดีๆ หรือดีแต่ราคาแพงเราก็ไม่ทำ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน รอจนกว่าจะหาซื้อที่ดินในทำเลที่คิดว่าดีที่สุดได้ก่อน จึงพัฒนาโครงการ