xs
xsm
sm
md
lg

ผุด1อบต.1ยุ้งฉางช่วยเกษตรกร ขีดเส้น15พ.ย.กม.ค้าปลีกสรุป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“พรทิวา” สั่งกรมการค้าภายใน จัดทำโครงการ 1 อบต. 1 ยุ้งฉาง หวังช่วยเกษตรกรให้มีที่เก็บสินค้าเกษตร ชะลอการขาย ไม่ถูกกดราคารับซื้อ และให้เร่งจัดทำประชาพิจารณ์กฎหมายค้าปลีก ขีดเส้นต้องสรุปและเสนอครม.ได้ก่อน 15 พ.ย.นี้ พร้อมจี้ผู้บริหารกระทรวงใหม่ทำงานหนัก เรียนรู้งานทุกด้าน

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายการทำงานให้กับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ ว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเร่งจัดทำโครงการ 1 อบต. 1 ยุ้งฉาง/โรงสี/ธนาคารข้าว โดยให้แต่ละตำบลมียุ้งฉาง หรือโรงสี หรือธนาคารข้าว เพื่อเก็บข้าว และสินค้าเกษตรอื่นๆ เพื่อชะลอการขาย เพราะปัจจุบันชาวนาไม่มีที่เก็บข้าว หลังการเก็บเกี่ยว ทำให้ต้องรีบขาย ทั้งๆ ที่ยังมีความชื้นอยู่มาก จึงถูกกดราคารับซื้อได้ง่าย โดยคาดว่าจะใช้เงินก่อสร้างแห่งละไม่เกิน 500,000 บาท

“กรมการค้าภายในเคยให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรสร้างยุ้งฉาง หรือโรงสี อย่างที่เห็นมาก็มีที่จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะทำให้เกษตรกรมีที่เก็บข้าว ไม่ต้องเร่งขาย ทำให้ขายได้ราคาดี ที่สำคัญจะช่วยทำให้โครงการประกันราคาสินค้าเกษตรของรัฐบาลประสบความสำเร็จ เพราะหากราคาสินค้าเกษตรไม่ตกต่ำ รัฐบาลก็จะไม่ต้องใช้เงินมาก”นางพรทิวากล่าว

สำหรับการดำเนินโครงการประกันราคาสินค้าเกษตรของรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการน้อยมาก โดยเฉพาะผู้ปลูกข้าว เพราะการทำงานที่ซับซ้อน โดยหลังจากที่เกษตรกรผ่านการประชาคมในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้ว สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กลับตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบซ้ำอีกรอบ ทำให้การขึ้นทะเบียนล่าช้า และชาวนาไม่ได้ร่วมโครงการ แต่ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ผ่อนผันให้ว่า ชาวนารายใดที่ผ่านการประชาคมแล้วก็เข้าร่วมโครงการได้ทันที

นางพรทิวา กล่าวต่อไปว่า ยังได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเร่งรัดการทำประชาพิจารณ์ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีกพ.ศ. ... ที่กำหนดจะทำประชาพิจารณ์ทั่วประเทศ 9 ครั้ง และได้ดำเนินการไปแล้ว 2 ครั้ง เพื่อจะได้นำสิ่งที่ทุกภาคส่วนเสนอแนะมาปรับปรุงแก้ไขร่างกฎหมาย ก่อนที่จะเสนอให้ครม. พิจารณาภายในไม่เกินวันที่ 15 พ.ย.นี้ ตามนโยบายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และเข้าสู่กระบวนการออกกฎหมายต่อไป โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ประกอบการค้าส่ง ค้าปลีก ทั้งรายใหญ่ และรายเล็กทำธุรกิจร่วมกันได้อย่างเท่าเทียมกัน

พร้อมกันนั้น ได้สั่งการให้ผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์ทุกคน ทั้งปลัดกระทรวง รองปลัด และอธิบดีทุกกรม จะต้องมีความรู้ และเข้าใจเรื่องสินค้าเกษตรเป็นอย่างดี โดยเฉพาะโครงการประกันราคาสินค้าเกษตรของรัฐบาล รวมถึงการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ไม่ใช่รู้เฉพาะงานของตัวเองเท่านั้น รวมถึงให้แต่ละกรมส่งข้าราชการรุ่นใหม่เป็นอาสาสมัครออกประชาสัมพันธ์โครงการประกันราคา และเออีซี ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เข้าร่วมโครงการ และเตรียมพร้อมรองรับการเปิดเสรี จากปัจจุบัน ที่ยังมีการรับรู้น้อยมาก

ส่วนกรมส่งเสริมการส่งออก ได้ขอให้จัดทำยุทธศาสตร์การผลักดันการส่งออกสินค้าไทยในปี 2553 มาให้พิจารณาอีกครั้ง หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนอธิบดีคนใหม่ โดยตั้งเป้าหมายให้มูลค่าการส่งออกปีหน้าขยายตัวมากกว่า 10% และขอให้ช่วยกำชับทูตพาณิชย์อย่าเกียร์ว่าง ต้องทำงานเพื่อสนับสนุนการส่งออกอย่างต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น