xs
xsm
sm
md
lg

เชื่อนักลงทุนสน"กองทีโลจิส"ที่ตั้งคลังสินค้าเอื้อยักษ์ใหญ่ค้าปลีกจ่อเช่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้บริหาร TICON เผย "กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์ " อยู่ระหว่างขออนุมัติจาก ก.ล.ต. เชื่อนักลงทุนตอบรับดี เหตุโครงการเด่นด้านทำเลที่ตั้ง คุณภาพคลังสินค้าได้มาตรฐานสากล และระบบสาธารณูปโภคที่ดี ฟุ้งยักษ์ใหญ่ค้าปลีกจ่อคิวขอเช่าอีกหลายราย ขณะผลงานปี 52 เข้าเป้า 2,500 ล้านบาทและปี 53 โตต่อเนื่อง

นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON เปิดเผยว่า ทิศทางโลจิสติคส์และการขนส่งที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์หรือทีโลจิส (TLOGIS) ที่มีขนาดกองทุนประมาณ 1,535 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างขออนุมัติจัดตั้งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนแน่ เนื่องจากกองทุนดังกล่าวฯ จะเข้าไปลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดินและคลังสินค้าใน 2 โครงการ คือ โครงการเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ ทีพาร์ค วังน้อย จังหวัดอยุธยา และโครงการเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ ทีพาร์ค บางนา ซึ่งทั้ง 2 โครงการมีจุดเด่นในเรื่องทำเลที่ตั้ง คุณภาพคลังสินค้าแบบมาตรฐานสากล และระบบสาธารณูปโภคที่ดี ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของคลังสินค้าเหมาะแก่การเป็นศูนย์จัดเก็บสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางอากาศ การขนส่งทางบก และการขนส่งทางน้ำ

" ความโดดเด่นด้านทำเลที่ตั้ง และศักยภาพของทรัพย์สิน ทำให้มั่นใจว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ทีโลจิสจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีผู้ประกอบการค้าปลีกและค้าส่งรายใหญ่ เช่น คาร์ฟูร์ และแม็คโคร ต่างก็ทำสัญญาเช่าคลังสินค้าระยะยาวเพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ " กรรมการผู้จัดการ TICON กล่าว

สำหรับสถานการณ์การเช่าพื้นที่คลังสินค้าในช่วงที่เหลือของปีนี้ TICON ประเมินว่า ยังมีแนวโน้มที่ดี โดยบริษัทฯ ได้รับความสนใจจากลูกค้าเข้ามาใหม่หลายรายในส่วนของการเช่าคลังสินค้าทั้งธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจนำเข้าและส่งออก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวส่งผลให้ความต้องการเช่าพื้นที่เพิ่มมากขึ้น

ปัจจุบันการขนส่งสินค้าถือเป็นหัวใจสำคัญ และสร้างความเป็นต่อในการแข่งขันให้กับธุรกิจไม่เฉพาะแต่การแข่งขันกันทั้งในและต่างประเทศ เพราะต้นทุนสินค้าของไทย 20% เป็นต้นทุนด้านการจัดการโลจิสติคส์ ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งหลายๆประเทศที่มีต้นทุนด้านการขนส่งต่ำกว่าระดับ 10% และช่วงที่ผ่านมาพบว่าผู้ใช้บริการคลังสินค้ามีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยปี 52 TICON มั่นใจว่าจะทำผลงานได้เข้าเป้าที่ตั้งไว้ 2,500 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากรายได้จากการเช่าโรงงาน รายได้จากการขายคลังสินค้า ( แวร์เฮ้าส์ ) เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ใหม่ รายได้จากการบริหารกองทุน และรายได้จากเงินปันผลจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน ( TFUND ) และการก้าวสู่ธุรกิจให้บริการคลังสินค้า เพื่อให้เช่า และพัฒนาเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ของกลุ่มไทคอน รวมถึงการคาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาสู่ภาวะปกติจะผลักดันการเติบโตของบริษัทฯ ได้ต่อเนื่องในปี 53
กำลังโหลดความคิดเห็น