เอเอฟพี – “บลูมเบิร์ก” สำนักข่าวชื่อดังด้านการเงินที่ก่อตั้งโดย ไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก แห่งสหรัฐฯ ประกาศในวันอังคาร (13) ว่าได้ตกลงเข้าซื้อกิจการนิตยสาร บิสซิเนสวีค จากสำนักพิมพ์แมคกรอว์-ฮิลล์แล้ว เพื่อขยายฐานธุรกิจออกไปให้กว้างกว่าส่วนธุรกิจหลักที่เน้นให้บริการข้อมูลการเงิน และแม้จะยังไม่เปิดเผยตัวเลขการซื้อขายกิจการครั้งนี้ แต่มีผู้โพสต์ข้อมูลลงในบล็อกของบิสซิเนสวีคโดยอ้างว่าบลูมเบิร์กนั้นเสนอซื้อด้วยเงินสด “ในราคาระหว่าง 2-5 ล้านดอลลาร์” พร้อมกับตกลงรับภาระหนี้สินซึ่งไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นจำนวนเท่าใด
แดเนียล ด็อกโตรอฟ ประธานบริหารของบลูมเบิร์กกล่าวว่า “การซื้อกิจการครั้งนี้จะเอื้อประโยชน์อย่างมหาศาลให้กับผู้ใช้บริการผ่านจอคอมพิวเตอร์ของบลูมเบิร์ก รวมทั้งส่วนโทรทัศน์ ออนไลน์ และข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือของเรา”
เขาบอกว่า “ถึงแม้บลูมเบิร์กได้สร้างองค์การข่าวขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีนักข่าวอยู่ถึงกว่า 2,200 คน และลูกค้าหลักของเราคือผู้บอกรับสมาชิกบริการข้อมูลสำหรับมืออาชีพ ( ‘บลูมเบิร์ก โปรเฟสชันแนล’ ) จำนวน 300,000 คน” แต่ “บิสซิเนสวีค ก็จะมาเสริมบริการให้กับลูกค้าของเรามากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนข่าวเกี่ยวกับผู้นำองค์กรธุรกิจและบุคคลสำคัญในรัฐบาล เพราะข่าวสารซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและธุรกิจทั้งหลายก็สร้างขึ้นโดยพวกซีอีโอ ซีเอฟโอ นักกฎหมายด้านทำดีล นายธนาคาร และเจ้าหน้าที่รัฐบาล ซึ่งไม่ใช่ลูกค้าที่รับบริการผ่านจอคอมพิวเตอร์”ในแบบฉบับของบลูมเบิร์ก
ปัจจุบัน บิสซิเนสวีค มียอดพิมพ์ 936,000 ฉบับในสหรัฐฯ แต่แมคกรอว์-ฮิลล์ต้องประกาศขายกิจการเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากอุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์ตกต่ำอย่างหนักจากรายได้โฆษณาที่ลดลงและผู้อ่านหันไปอ่านข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์กันมากขึ้น คาดว่าปีนี้กิจการบิสซิเนสวีคจะประสบขาดทุนมากกว่า 40 ล้านดอลลาร์ โดยทำรายรับได้ราว 130 ล้านดอลลาร์
แดเนียล ด็อกโตรอฟ ประธานบริหารของบลูมเบิร์กกล่าวว่า “การซื้อกิจการครั้งนี้จะเอื้อประโยชน์อย่างมหาศาลให้กับผู้ใช้บริการผ่านจอคอมพิวเตอร์ของบลูมเบิร์ก รวมทั้งส่วนโทรทัศน์ ออนไลน์ และข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือของเรา”
เขาบอกว่า “ถึงแม้บลูมเบิร์กได้สร้างองค์การข่าวขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีนักข่าวอยู่ถึงกว่า 2,200 คน และลูกค้าหลักของเราคือผู้บอกรับสมาชิกบริการข้อมูลสำหรับมืออาชีพ ( ‘บลูมเบิร์ก โปรเฟสชันแนล’ ) จำนวน 300,000 คน” แต่ “บิสซิเนสวีค ก็จะมาเสริมบริการให้กับลูกค้าของเรามากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนข่าวเกี่ยวกับผู้นำองค์กรธุรกิจและบุคคลสำคัญในรัฐบาล เพราะข่าวสารซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและธุรกิจทั้งหลายก็สร้างขึ้นโดยพวกซีอีโอ ซีเอฟโอ นักกฎหมายด้านทำดีล นายธนาคาร และเจ้าหน้าที่รัฐบาล ซึ่งไม่ใช่ลูกค้าที่รับบริการผ่านจอคอมพิวเตอร์”ในแบบฉบับของบลูมเบิร์ก
ปัจจุบัน บิสซิเนสวีค มียอดพิมพ์ 936,000 ฉบับในสหรัฐฯ แต่แมคกรอว์-ฮิลล์ต้องประกาศขายกิจการเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากอุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์ตกต่ำอย่างหนักจากรายได้โฆษณาที่ลดลงและผู้อ่านหันไปอ่านข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์กันมากขึ้น คาดว่าปีนี้กิจการบิสซิเนสวีคจะประสบขาดทุนมากกว่า 40 ล้านดอลลาร์ โดยทำรายรับได้ราว 130 ล้านดอลลาร์
