บลูมเบิร์ก – เฮนรี่ ซี เจ้าอาณาจักรห้างค้าปลีกและเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในฟิลิปปินส์ เตรียมผลักดันธุรกิจในเครือเอสเอ็มเจาะตลาดจีน พร้อมวางแผนเปิดห้างสรรพสินค้าเพิ่มอีก 3 แห่งในแดนมังกร ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจแห่งแรกที่ฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซา
ฮันส์ ซี ประธานบริษัท เอสเอ็ม ไพรม์ โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เอสเอ็ม อินเวสเมนท์ คอร์ป ของเฮนรี่ ซีผู้เป็นพ่อให้สัมภาษณ์ว่า “เรามีห้างค้าปลีกในฟิลิปปินส์แล้ว 34 แห่ง ส่วนจีนนั้นเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่กว่าฟิลิปปินส์ในแง่ของจำนวนประชากรถึง 13 เท่า นับเป็นตลาดที่ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนมาก” ซึ่งทางบริษัทของซีนั้นจะทุ่มงบลงทุนถึง 5,500 ล้านเปโซ (115 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในประเทศจีนปีนี้
โดยบริษัทแม่อย่าง เอสเอ็ม อินเวสต์เมน์ ได้เพิ่มงบลงทุนปี 2552 ขึ้นอีกราว 1 ใน 3 เพื่อขยายธุรกิจในจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก "ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจช่วยเปิดโอกาสสำหรับธุรกิจอื่นๆ ของครอบครัวตระกูลซีให้เข้าสู่ตลาดจีนด้วย" ตามที่เทเรซิต้า ซี-โคซัน ลูกสาวคนโตของเฮนรี่ ซี และยังเป็นรองประธานของเอสเอ็ม อินเวสต์เมนท์กล่าว
“ห้างสรรพสินค้าจะเป็นกองหน้าสำหรับกลุ่มธุรกิจเอสเอ็ม” อเล็กซ์ โพแมนโต นักยุทธศาสตร์ชาวฟิลิปปินส์จากแม็คไควรีย์ กรุ๊ปกล่าว พร้อมเสริมว่า “ธุรกิจค้าปลีกจะเป็นตัวเบิกทางสำรวจตลาดผู้บริโภคจีน และกลายเป็นสปริงบอร์ดสำหรับธุรกิจอื่นๆ ในเครือเอสเอ็มต่อไป”
โดยเอสเอ็ม ไพรม์ วางแผนเปิดห้างสรรพสินค้าในจีนปีละ 1 แห่งเริ่มตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นไป และอาจเพิ่มเป็น 3 แห่งต่อปีภายในปี 2556 ตามที่ฮันส์ ซีกล่าว
ปัจจุบัน เอสเอ็ม ไพรม์ ได้เพิ่มสัดส่วนเงินลงทุนในประเทศจีนมากขึ้น เนื่องจากบริษัทได้ซื้อที่สำหรับขยายกิจการในจีนไว้มากมาย โดยซีเอฟโอ โฮเซ ซิโอเปิดเผยว่า การลงทุนในจีนปีนี้คิดเป็น 46% ของเงินลงทุนทั้งสิ้น 12,000 ล้านเปโซที่เอสเอ็ม ไพรม์จะใช้ขยายธุรกิจ
เอสเอ็ม ไพรม์ ที่เพิ่งเพิ่มจำนวนห้างสรรพสินค้าในฟิลิปปินส์อีก 2 แห่งในปีนี้ เริ่มรุกเข้าตลาดจีนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2550 หลังจากซื้อห้างของเฮนรี่ ซีในเมืองเซี่ยเหมิน, จินเจียง และเฉิงตูเป็นมูลค่า 252 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทจะเพิ่มขนาดห้างในเซี่ยเหมินเป็นเท่าตัวในเดือนตุลาคมนี้ และวางแผนเปิดห้างอีกแห่งในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซูในปี 2553 และในเมืองฉงชิ่งและจื่อปอภายในปี 2555
ทั้งนี้ เฮนรี่ ซีวัย 84 ปี อพยพจากจีนมาอยู่ฟิลิปปินส์ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ และได้ก่อตั้งบริษัทจดทะเบียนใหญ่อันดับ 4 ของฟิลิปปินส์ โดยเริ่มต้นธุรกิจร้านรองเท้าตั้งแต่ปี 2491 นิตยสารฟอร์บส์คาดการณ์มูลค่าธุรกิจโดยรวมทั้งหมดของเฮนรี่ ซีน่าจะประมาณ 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐ
ด้านซีเอฟโอ โฮเซ ซิโอ เปิดเผยว่า เอสเอ็ม อินเวสต์เมนท์ของเฮนรี่ ซีที่มีฐานอยู่ในมะนิลานั้น มีสินทรัพย์รวมทั้งธนาคารที่ใหญ่สุดของฟิลิปปินส์ในแง่ของสินทรัพย์ ซูเปอร์มาเก็ตและห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยซิโอคาดว่ากำไรในปีนี้น่าจะโตประมาณ 12-14%