xs
xsm
sm
md
lg

‘กรณ์’เดินหน้าดูดหมื่นล้าน กล่อมบล.ค้านแปรรูปตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – “กรณ์”เดินเกมรวบหัวหาง ขจัดอุปสรรคแปรรูปตลาดหุ้น 12ต.ค.นี้ประชุมคณะกรรมการตลาดทุนไทย เตรียมคุยนอกรอบกล่อมโบรกเกอร์ที่คัดค้าน หวังแผนดูดหมื่นล้านเข้ารัฐราบรื่น ด้านโบรกฯติง แปรรูปตลท.ไม่มีความจำเป็น เหตุไม่ใช่องค์มุ่งหากำไร อีกทั้งไม่มีใครกล้าให้ความเห็นการดำเนินธุรกิจ

แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า ในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย ซึ่งมีนายกรณ์ จาติกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานซึ่งการประชุมครั้งนี้จะมีการหารือนอกรอบ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของบุคคลในวงการตลาดทุนที่ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์เป็นบริษัทจำกัด (มหาชน) เพื่อชี้แจงเหตุผลในการไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว เพราะเรื่องการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ฯนั้นอยู่ในแผนพัฒนาตลาดทุนไทย

โดยการที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว เพราะหลายคนมองว่า ปกติบริษัทที่จะมีการแปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น เพื่อต้องการที่จะขยายเงินทุนให้มากขึ้น แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯนั้นมีเงินทุนสูงอยู่แล้ว แม้จะมีลดเงินทุน เพื่อนำเงินกองทุนที่มีอยู่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จัดสรร และให้กองทุนพัฒนาตลาดทุน (CMDF)เป็นผู้ดูแลเงินกองทุน

ขณะเดียวกันจากการเดินทางไปต่างประเทศที่มีการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งโบรกเกอร์ต่างประเทศก็ให้ความเห็นว่าไม่ควรที่จะมีการแปรรูป เพราะ เมื่อมีการแปรรูปแล้วโบรกเกอร์ไม่สามารถที่จะให้ความเห็นในเรื่องการดำเนินการของตลาดหลักทรัพย์ได้ เนื่องจากโบรกเกอร์ไม่ได้มีการถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แล้ว

ทั้งนี้ ช่วงจังหวะที่มีการเปลี่ยนตัวประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) จากนายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา มาเป็น นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานตลาดหลักทรัพย์คนใหม่ ฝ่ายบริหารของตลาดหลักทรัพย์ฯได้อนุมัติและเปิดกว้างแนวทางในการทำงานของตลาดหลักทรัพย์ฯให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วยการขยายฐานนักลงทุนต่างประเทศ ให้สามารถส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นมาที่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านระบบของบริษัทหลักทรัพย์(บล.) โดยให้เหตุผลว่าจะเพิ่มความสะดวกในการซื้อขายหุ้นให้กับนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น และทำให้ต้นทุนในการซื้อขายลดลง

ขณะเดียวกันคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์มีมติอนุมัติปรับปรุงเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ เพื่อสนับสนุนการเจ้าจดทะเบียนของบริษัทต่างประเทศ ตามแผนกลยุทธ์การสร้างเครือข่ายพันธมิตรในระดับสากลและการเพิ่มบริษัทจดทะเบียนและลดอุปสรรคการเข้าจดทะเบียน ตามด้วยการลงนามร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกัน เพื่อร่วมผลักดันให้ผู้ประกอบการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(SET)และ MAI โดยได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในลักษณะไม่จำกัดวงเงิน เพื่อเป็นการจูงใจให้ธุรกิจเข้าจดทะเบียนเพิ่มขึ้น แต่เรื่องดังกล่าวสร้างความไม่พอใจแก่ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์อยู่จำนวนหนึ่ง เช่นกัน

“เราไม่รู้ว่าผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์คิดอะไรกันอยู่ แต่จาก 3-4 เรื่องใหญ่ ๆ ที่เสนอมานั้นเท่ากับเป็นการเปิดเสรีตลาดทุนของประเทศไทย สิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์เสนอมานั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก รัฐบาลควรจะเข้ามาดูแล ต้องประเมินผลกระทบต่าง ๆ ที่จะตามมาด้วย ไม่ใช่คิดแล้วเสนอเลยเพื่อสร้างผลงาน แต่สิ่งที่เสนอกับทำให้เกิดผลเสียกับอุตสาหกรรมนี้ทั้งระบบ” ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์กล่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า ความพยายามที่จะแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยการอ้างเหตุผลถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานนั้น เรื่องนี้เคยถูกต่อต้านมาแล้ว แต่เหตุผลสำคัญ เนื่องจากจะมีเงินของบรรดาโบรกเกอร์ที่จ่ายให้กับตลาดหลักทรัพย์ฯตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเป็นเงินหมื่นกว่าล้านบาท เมื่อแปรรูปตลาดเงินก้อนนี้ก็จะต้องย้ายออกไปอยู่ในกองทุนพัฒนาตลาดทุน ซึ่งตรงนี้สามารถนำไปใช้เกื้อหนุนภาคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนได้ อีกทั้งผู้ที่ดูแลในส่วนนี้ได้มีการวางตัวไว้แล้ว ซึ่งก็เป็นคนของภาคการเมืองอีกเช่นกัน

นอกจากนี้ เมื่อมีการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ แต่ว่า คณะกรรมการตลาดก็ยังเป็นชุดเดิม บริหารงานก็แบบเดิมๆ คนในวงการนี้ก็ตั้งคำถามกันว่า ถ้าอย่างนั้นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ทำไมไม่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เพิ่มขึ้นภายใต้โครงสร้างปัจจุบันนี้ ดังนั้น การแปรรูปหรือไม่แปรรูป ตลท.ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็มีค่าเท่ากัน เพราะโครงสร้างใหญ่ของตลาดหุ้นไทย ยังพึ่งพานักลงทุนต่างประเทศเป็นหลักราว 30-40% และตรงนี้บอร์ดของตลาดหลักทรัพย์ก็ยังแก้ปัญหาความตกต่ำของตลาดทุนที่ซื้อขายกันวันละ 3-4 พันล้านบาทยังไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวเชื่อว่า รมว.คลังจะเรียกเงินคืนในกองทุนที่ใช้พัฒนาตลาดทุนจำนวน 1 หมื่นล้านบาทเข้าคลังนั้น คงยังไม่สามารถกระทำได้ในทันที เพราะการแปรสภาพตลาดหุ้นคงจะมีในช่วงปี 2553-2554 ซึ่งถือว่ามีเงื่อนไขของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น