xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองไทยยุค“สามก๊ก”กับ“หนึ่งพรรค”!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล - ทักษิณ ชินวัตร
“สอดแนมการเมือง
โดย ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

“สอดแนม”ลึกลงไปในการเมืองไทย ก็จ๊ะเอ๋เอากับ“สามก๊ก”และอีก“หนึ่งพรรค”ที่จะต่อกรกันในอนาคตครับ

ก๊กแรก-ก๊กของนักโทษชาย“หน้าเหลี่ยม” ที่ชนะการเลือกตั้งด้วยการโกง จนโดนจับได้คาหนังคาเขา พรรคจึงถูกยุบถึงสองครั้งสองครา จนต้องเปลี่ยนป้ายชื่อเป็น..พรรคเพื่อชิน..เอ๊ย..เพื่อไทยครับ

รัฐบาลนักโทษชายและนอมีนีของเขาคนนี้ ถูกขนานนามให้เป็นรัฐบาลทุนนิยมสามานย์เผด็จการรัฐสภา ถูกครหาเรื่องความไม่โปร่งใส มีการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบายมากมาย อีกทั้งยังใช้เงินงบประมาณแผ่นดินฟุ่มเฟือยเกินตัว ไปกับโครงการประชานิยมอย่างบ้าคลั่ง จนบ้านเมืองใกล้จะล่มจมไปเลยครับ

ก๊ก“หน้าเหลี่ยม”ผู้นี้..ตกจากอำนาจนานแล้ว แต่ด้วยมีเงินไม่โปร่งใสกักตุนไว้มากมาย เขาจึงใช้ไปกับการโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ โค่นล้มรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งพรรคภูมิใจไทย และนายสนธิ ลิ้มทองกุล กับเหล่าแกนนำพันธมิตรฯ

ทั้งหมดของแผนการหวังเพียง หนึ่ง-ทำทุกวิถีทาง-ใช้ทุกวิธีการ-ทั้งลับ-เปิดเผย ฯลฯ เพื่อ“คนหน้าเหลี่ยม”จะได้หลุดพ้นจากความผิดทั้งมวล สอง-ต้องได้เงิน7หมื่นกว่าล้านบาท ที่โดนอา
ยัดกลับคืนสู่กระเป๋าตระกูลชิน

สาม-“คนหน้าเหลี่ยม”เชื่อมั่นเป็นพิเศษว่า วันใดที่รัฐบาลรูปหล่อมาร์คอดรนทนไม่ได้จนต้องยุบสภา “คนหน้าเหลี่ยม”มั่นใจว่า..พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง และคน“หน้าเหลี่ยม”จะได้กลับมาเป็นนายกฯผู้ยิ่งใหญ่ ในประเทศชื่อไทยอีกครั้งไงล่ะครับ

ทว่า..ตอนนี้..ก๊ก“หน้าเหลี่ยม”ได้เกิดเรื่องสับสน จนไม่รู้ว่า“เหลี่ยม-หลอกใช้-จิ๋ว”หรือ“จิ๋ว-หลอกกินเงิน-เหลี่ยม” เพราะ“ขงเบ้งจิ๋ว”ได้กลับเข้าซบอก“หน้าเหลี่ยม”อีกครา หลังถูกข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจาก ป.ป.ช. จากการสั่งปราบปรามประชาชนที่มีเพียงสองมือเปล่า ในครั้งที่เป็นรองนายกฯรัฐบาล“สมชาย ณ ซาลาเปาแดง” เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551

งานนี้ “คนหน้าเหลี่ยม”หวังเอา“บิ๊กจิ๋ว”มาดึงคะแนนนิยมจากคนอีสาน แต่คอการเมืองกลุ่มหนึ่งเชื่อว่า“คนหน้าเหลี่ยม”พลาดอย่างจัง เพราะ“ปู่จิ๋ว”ในวันนี้ไม่มีทั้ง“น้ำพริก-น้ำยา”แล้ว งานนี้จึงกลายเป็นโอกาสให้“ขงเบ้งชราตาฟาง-จิ๋ว” ชวนเพื่อนพ้องน้องพี่มาตั้งวงหลอกต้มกินเงิน “คนหน้าเหลี่ยม” กันอย่างสนุกสนามแบบ “รถไฟเที่ยวสุดท้าย”ไงล่ะครับ

แต่คอการเมืองอีกกลุ่มท้วงติงว่า แม้น“ขงเบ้งจิ๋ว”จะชราตาฟางไปแล้ว แต่จิ๋วก็ยังแจ๋ว..ยังเล่นกลเกมใต้ดินได้ไม่มากก็น้อย หาก“คนหน้าเหลี่ยม”ยอมส่ง“กระสุนดินดำ”ให้ทีมงาน“ขงเบ้งจิ๋ว” แบบไม่อั้นให้อมบ้าง-ใช้บ้าง-ไม่ยั้งมือ ก็มีโอกาสที่รัฐบาล“หนุ่มมาร์ค”ผู้อ่อนแออาจโดนทีมงาน“บิ๊กจิ๋ว” ลักลอบชกใต้เข็มขัดชนิดไม่เลี้ยงจนรัฐบาลมาร์ค ซวดเซจนล้มลงในเร็ววันนี้ก็ได้นะครับ..อย่าประมาทเชียวนะจะบอกให้...

อย่างไรก็ตาม“หน้าเหลี่ยม”ผสมพันธุ์กับ“บิ๊กจิ๋ว”ครั้งนี้ ก็เล่นเอาหนุ่ม“มาร์ค”เครียดไปเลยครับ

ก๊กสอง-มี“ยี้ห้อย”กุมบังเหียน การพลิกขั้วตีจาก“คนหน้าเหลี่ยม” แล้วหันมาหนุนหนุ่มมาร์ค ณ ปชป.เป็นนายกรัฐมนตรี พรรค“ยี้ห้อย”จึงได้รับการสนองคุณด้วยการคุมกระทรวงสำคัญๆ มากมายอย่าง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย ทำให้พรรคภูมิใจยี้ห้อยกระเป๋าตุง และมีอำนาจล้นฟ้าท่วมดินในยามนี้

นอกจากนั้น..เทพเทือกยังประเคนตำแหน่งตำรวจ ให้ “ยี้ห้อย”ได้จัดวางกำลังของตนลงตามจุดที่ต้องการอีกต่างหาก แถม“ยี้ห้อย”ยังมีนายทหารใหญ่บางคนหนุนหลัง แม้นจะหนุนกันแบบลับๆล่อๆ..แต่ก็รู้กันจนแซดไปหมด นั่นทำให้พรรคภูมิใจยี้ห้อยกลายเป็น“ขั้วอำนาจใหม่” ทางการเมืองทันตาเห็น

ดังนั้น..หากไม่มีอะไรแปรเปลี่ยนแบบเหนือความคาดหมาย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหมคนปัจจุบัน คงจะได้แอ่นแอ๊นขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจยี้ห้อย ตัวจริงเสียงจริงในอนาคตอย่างแน่นอน

พรรคภูมิใจยี้ห้อยหรือภูมิใจเนวิน จึงเป็นพรรคดาวรุ่งพุ่งแรงที่เงินถึง..หลังพิงกำแพงสีเขียวก็แข็งแรง แถมกุมกลไกอำนาจรัฐสำคัญๆไว้ในมือ งานนี้..โอกาสที่ก๊ก“ยี้ห้อย”จะดูดคนจากก๊ก“หน้าเหลี่ยม” มาเข้าสังกัดภูมิใจยี้ห้อยนั้น..ก็มีอยู่มิใช่น้อยครับ

ก๊ก“หน้าเหลี่ยม”กับก๊ก“ยี้ห้อย” จะทำให้วันเลือกตั้งอีสานลุกเป็นเงินและลุกเป็นไฟ สนามรบอีสานจะดุเดือดชนิดถึงลูก-ถึงคน-ถึงเลือด-ถึงเนื้อมากที่สุด เพราะเป็นสนามชี้ขาดว่า..ใครจะได้เป็นรัฐบาลไงล่ะครับ

ก๊กสาม-เทพเทือก-อภิสิทธิ์ ก๊กนี้ควรจะได้เปรียบทางการเมือง แต่กลับเสียเปรียบอย่างเหลือเชื่อ เพราะเทพเทือกผู้จัดการรัฐบาลเอียงข้างพรรคร่วมแบบโงหัวไม่ขึ้น ทำให้ผลงานปชป.ส่อไปในทางรัฐบาลเสียหาย-นายกฯเสียคน เพราะพรรคร่วมรัฐบาลกดดันสารพัด เพื่อนำโครงการที่ส่อไปในทางคอร์รัปชั่น ให้ผ่าน ครม.ครั้งแล้วครั้งเล่าได้อย่างเหลือเชื่อ

ภาพอภิสิทธิ์จากหนุ่มหล่อ-ซื่อสัตย์-ภาพดี กลายเป็น“เด็กชายมือสะอาด”ที่น่าสงสัย แต่ที่แน่ๆ.. อภิสิทธิ์ไม่อาจเป็นตัวของตัวเอง อภิสิทธิ์เป็นเพียงนายกนอมีนี นายกฯ เจว็ด นายกฯ เด็กดื้อ ฯลฯ โดยมีคณะนายกฯตัวจริงจาก 6 คน เหลือเพียง 5 คน ที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง นั่นคือ เทพเทือก-เนวิน-อนุทิน-ประวิตร-อนุพงษ์ ส่วนนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ นั้น..ตกกระป๋องไปแล้วครับ!

ก๊กประชาธิปัตย์จึงมีนายกฯหนุ่ม..แต่ยังจมอยู่กับความคิดเก่าๆ ไม่ได้ทำให้กลไกการเลือกตั้งดีขึ้น-บริสุทธิ์ขึ้น เงินยังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการได้มาซึ่ง สส.เช่นเดิม นายกฯหนุ่ม..ที่ยังจมอยู่แค่การพูดเก่ง-แต่ทำไม่เป็น นายกฯหนุ่ม..ที่ยังจมอยู่กับความขี้ขลาด-ไม่กล้าเท่าที่ควร นายกฯหนุ่ม..แต่กลับไปจมอยู่ใต้อำนาจไม่โปร่งใส ความฉ้อฉลและข้อครหา“ การเลือกตั้งคราวหน้า..โอกาสที่พรรคนี้จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น..หรี่ริบ-ริบหรี่ครับ

หนึ่งพรรค-ชื่อ“การเมืองใหม่” ที่มวลชนพันธมิตรฯทั่วประเทศเป็นผู้ก่อตั้ง และเพิ่งเลือกนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นหัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2552 แกนนำพรรคจะต้องเร่งทำให้พรรคนี้ เป็นพรรคในหัวใจของประชาชนคนไทยให้ได้ หากพรรคนี้สร้างนโยบายที่ดีเพื่อคนไทยทั้งชาติ คนไทยตามภูมิภาค ลงลึกถึงคนไทยในจังหวัดต่างๆ ได้ดี

รวมทั้งส่งคนดีๆ ลงแข่งในสนามเลือกตั้งคราหน้าทัน พรรคนี้ก็มีโอกาสเป็นความหวังของชาติและประชาชนคนไทย

พรรคการเมืองใหม่จะต้องสร้างคนการเมืองที่ดี ให้เป็นทางเลือกที่ดีและเป็นความหวังของคนไทย ที่เบื่อการเมืองน้ำเน่า เบื่อนักการเมืองโกงกินบ้านเมือง เร่งนำประชาชนให้หันมาร่วมกันสร้างการเมืองใหม่ ให้เกิดขึ้นอย่างมั่นคงในผืนแผ่นดินไทยโดยไว

ดังนั้น..ยุค“สามก๊ก-หนึ่งพรรค” กำลังเป็นมิติพิเศษที่จะทำให้การเมืองไทย เกิดการพลิกผันเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน ขอบอกว่า..อย่ากะพริบตานะครับท่านผู้อ่าน!!!
เนวิน ชิดชอบ - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
กำลังโหลดความคิดเห็น