xs
xsm
sm
md
lg

กุนซือวิทยาออกยกชุด บิ๊กสธ.ยัดไส้เครื่องยูวี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน –ทีมที่ปรึกษา รมว.สธ. ไขก๊อกออกยกทีม ลาก “แม่เลี้ยงติ๊ก-สุรเชษฐ์ แวอาแซ” ออกด้วย อ้างเปิดทางให้ตรวจสอบทุจริตได้โปร่งใส ยันไม่ใช่เกมการเมือง “มาร์ค”ฮึ่ม! ไม่นิ่งเฉยหากพบคน ปชป.พันทุจริต วงในแฉบิ๊กสธ.สั่งยัดไส้ซื้อเครื่องยูวี-แฟน รับเกิดความผิดพลาดในการทำรายการครุภัณฑ์ ทำให้ชนิดเดียวกันราคาต่างกัน แพทย์ชนบทปูดอีกเครื่องตรวจปริมาณเม็ดเลือดส่อโกง
วานนี้(6 ต.ค.)นายพิเชฏฐ พัฒนโชติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วยนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู เลขานุการ รมว.สาธารณสุข นายสุรเชษฐ์ แวอะแซ ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข และนายบุญมา เตชะวณิช ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งทางการเมือง ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวว่า บุคคลใกล้ชิดนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งของ สธ.(เอสพี 2)
นายพิเชฏฐ กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวว่านโยบายของรัฐบาลเอสพี2 ของ สธ.มีความไม่โปร่งบางโครงการ และมีการพาดพิงที่ปรึกษา คนใกล้ชิด และเปิดเผยชื่อย่อบางชื่อ คณะที่ปรึกษาจึงมีมติร่วมกันกับนางศิริวรรณ และนายสุรเชษฐ์ในการแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบทางการเมืองและเห็นว่าเรื่องดังกล่าวต้องการการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากคณะที่ปรึกษาฯยังอยู่ในตำแหน่งอาจโดนข้อครหาว่าไม่โปร่งใส เพราะสามารถใช้อำนาจที่มีอยู่แทรกแซงการตรวจสอบได้ ดังนั้น การลาออกจึงเป็นทางที่แสดงความบริสุทธิ์ได้นอกจากนี้ขอเสนอให้นายวิทยาตั้งคณะบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นที่ยอมรับของสังคมให้เป็นคณะกรรมการตรวจสอบโครงการไทยเข้มแข็งทุกโครงการ

**ยันไม่ใช่เกมการเมือง-ไม่หนีไม่ผิด
นายพิเชฏฐ กล่าวต่อว่า การลาออกในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเกมการเมืองไม่ได้ขัดแย้งในการร่วมงานกันแต่อย่างใด ที่ผ่านมามีการทำงานร่วมกับ รมว.สาธารณสุขมาโดยตลอด และไม่ได้เป็นการกดดันใครหรือหนีความผิด เพราะโครงการนี้งบประมาณยังไม่มา ยังไม่ได้เกิดการซื้อของขึ้น แต่เมื่อมีข้อกล่าวหา การแสดงสปิริตลาออกก็น่าเป็นผลดีมากกว่า จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง ว่าไม่ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการตรวจสอบ ไม่ให้ความจริงปรากฏและยืนยันว่าไม่มีหนี เพราะไม่ผิด และยืนยันว่าไม่ได้กดดันใครด้วย
ส่วนการที่ชมรมแพทย์ชนบทเปิดเผยชื่อย่อของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตก็อยากให้มีการเปิดเผยรายชื่อ ข้อมูลทั้งหมดพร้อมกับตรวจสอบให้ถึงที่สุด ว่าใครเป็นผู้กระทำหรืออยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่พูดแต่เพียงลอยๆ อย่างไรก็ตามหากหลังจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริต หากนายวิทยาเห็นว่าสามารถช่วยงานได้ และมอบหมายงานให้ดำเนินการก็ยินดีกลับเข้ามาช่วยงานอีกเหมือนเดิม
ด้านนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู เลขานุการ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า มั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิดใดๆ และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนรู้สึกเสียใจที่มีอักษรย่อชื่อของตนเองเข้าไปเกี่ยวข้อง ด้วยความบริสุทธิ์ใจยินดีอย่างยิ่งในการร่วมมือในการตรวจสอบ และอยากเรียกร้องให้ผู้ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลออกมาระบุว่าเป็นผู้ใด

**ปูดอีกเครื่องตรวจปริมาณเม็ดเลือดส่อโกง
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า การแสดงสปิริตของฝ่ายการเมืองเป็นเรื่องที่ดี เพราะเปิดโอกาสให้เกิดการตรวจสอบได้ชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งต้องจับตามองทีมปรึกษาใหม่ว่าเป็นใครและการดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไปอย่างใกล้ชิด
“ในการนำบุคคลภายนอกมาตรวจสอบเรื่องทุจริตที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นแนวทางที่ดี แต่อย่างไรก็ตามควรให้โอกาสกับข้าราชการ สธ.ที่ได้รับการมอบหมายให้ทำงานก่อน แม้ว่าตำแหน่งผู้ตรวจราชการที่เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีครุภัณฑ์ 6 รายการจะเป็นตำแหน่งที่สามารถได้รับผลกระทบในการแต่งตั้งโยกย้าย จึงอาจไม่กล้าตรวจสอบอย่างเต็มที่”นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้พบว่ามีรายการครุภัณฑ์ที่ผิดสังเกตคือ เครื่องตรวจปริมาณเม็ดเลือด (ซีบีซี ออโต เมด)เครื่องละหลายแสนบาท ซึ่งลักษณะการทุจริตคล้ายคลึงกับเครื่องตรวจวัดปริมาณสารชีวเคมีในเลือด (ออโต เมด) เพราะเป็นเครื่องที่ปัจจุบันสถานพยาบาลต่างๆ จะใช้วิธีจัดซื้อน้ำยาจากบริษัท โดยที่บริษัทจะนำเครื่องมาตั้งให้ฟรี ไม่ต้องซื้อเอง เพราะเครื่องมีราคาสูงมาก แต่ในโครงการดังกล่าวกลับมีการจัดซื้อเครื่องมือดังกล่าว

** “มาร์ค”ยันไม่นิ่งเฉยหากมีปชป.เอี่ยวไม่เลี้ยง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลาออกของทีมที่ปรึกษา รมว.สธ. และเลขานุการฯ เพื่อส่งสัญญาณว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดพร้อมที่จะเปิดทางให้มีการสอบได้อย่างเต็มที่ ซึ่งท่าทีของรัฐบาลได้แสดงออกให้เห็นว่าเอาจริงเอาจัง ไม่เคยเพิกเฉย ส่วนทำอย่างไรจะไม่ให้มีเรื่องเหล่านี้ เป็นเหตุผลที่ต้องสอบให้ได้ว่าเรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งตนตั้งใจจะประสานไปยังแพทย์ชนบทมาให้ข้อมูลกับตนด้วย
“ถ้ามีหลักฐานผมเล่นงานแน่ ซึ่งในส่วนของพรรคจะไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบอีกเพราะมีคณะกรรมการตรวจสอบโครงการไทยเข้มแข็งของ สธ.อยู่แล้ว และไม่มีการกล่าวหาสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในโครงการนี้ แต่หากมีการร้องเรียนว่าสมาชิกพรรคเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องตั้งกรรมการฯ สอบอยู่แล้ว”นายอภิสิทธิ์”กล่าว
นายวิทยา แก้วภารดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า นับแต่วันนี้เป็นต้นไปกระบวนการตรวจสอบต้องชัดเจน และขอว่าไม่ต้องอายที่จะแจ้งความจริง ซึ่งตนต้องรับผิดชอบทำให้ สธ.ปลอดจากการทุจริต จนถึงวันนี้ถ้ามีใครตรวจสอบว่า ตนทุจริตได้ จะรับผิดชอบ แต่ไม่ใช่ดีแต่พูด ต้องเอาให้จริง

** “หมอไพจิตร์”วางกรอบ7,400ครุภัณฑ์เข้ม
นพ.ไพจิตร์ วราชิต รักษาราชการแทนปลัด สธ. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข้มแข็ง มีข้อสรุปให้มีการชะลอทุกกระบวนการในการจัดซื้อครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างทั้งหมด 7,400 รายการ โดยวางกรอบการทำงานให้เน้นทำงานรวดเร็ว ข้อมูลชัดเจน ถูกต้อง โดยให้กรรมการที่เป็นตัวแทนที่มาจากสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน รับผิดชอบศึกษาในแต่ละโครงการอย่างละเอียดให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์
“หากเป็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นเฉพาะทาง เช่น การก่อสร้างตึกอุบัติเหตุที่มีการการออกแบบเฉพาะ จะไม่เข้าไปแตะเพราะเป็นเรื่องเฉพาะของโรงพยาบาลแต่ละแห่ง เปรียบเหมือนเป็นเสื้อตัด ส่วนเสื้อโหล ที่เป็นการก่อสร้างที่มีแบบมาตรฐานสร้างทุกแห่งเหมือนกัน เช่น แฟลตพยาบาล บ้านพักข้าราชการ แพทย์ ให้ดูราคาที่ท้องถิ่นจัดซื้อได้ตามจริงและราคากลางว่าแพงหรือสูงเกินจริงหรือไม่ ส่วนรายการครุภัณฑ์ที่จำนวนมาก 7,400 รายการ ให้เน้นดูว่า ครุภัณฑ์ที่โรงพยาบาลมีความต้องการเหมือนกันหลายแห่งมีราคาแพงหรือมีความจำเป็นหรือไม่”นพ.ไพจิตร์กล่าว

**วงในแฉบิ๊กบริหารสธ.ยัดไส้ยูวี-แฟน
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มี นพ.เสรี หงษ์หยก ผู้ตรวจราชการกระทรวงเป็นประธาน นพ.สุชาติ เลาบริพัตร ผู้อำนวยการสำนักบริหารสาธารณสุขภูมิภาค (สบภ.) ได้ยอมรับกับคณะกรรมการฯว่า เป็นผู้นำรายการครุภัณฑ์บางรายการที่มีปัญหาและกำลังตรวจสอบอยู่ เช่น เครื่องทำลายเชื้อโรคด้วยแสงอัลตราไวโอเลต(ยูวี-แฟน) บรรจุเข้าไปในรายการครุภัณฑ์ เนื่องจากเพราะมีการสั่งจากผู้บริหารระดับสูงกว่า ให้มีการใส่รายการดังกล่าวเข้าไปหลังจากที่รายการดังกล่าวถูกนำออกมาจากรายการครุภัณฑ์แล้วครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ จะมีการสอบสวนต่อว่ารายการครุภัณฑ์อื่นที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีความผิดปกติ
นอกจากนี้ แหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีรองปลัดกระทรวง สธ. อธิบดีทุกกรมและผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วม โดยนพ.ไพจิตร์ วราชิต รักษาราชแทนปลัดสธ.เป็นประธาน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์(สนย.)กล่าวกลางที่ประชุมในทำนองยอมรับว่า เกิดความผิดพลาดขึ้นในระหว่างการจัดทำรายการครุภัณฑ์เสนอของบประมาณภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง จนทำให้รายการครุภัณฑ์ชนิดเดียวกันมีราคาต่างกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น