“วิทยา” ประกาศกร้าวพร้อมรับผิดชอบหากพบว่าเอี่ยวทุจริตสเปกเครื่องมือแพทย์ด้วยจริง ท้าทายอย่าดีแต่พูด ปัดความผิดยังไม่เกิด แค่แพทย์ชนบทเป็นห่วงส่งสัญญาณตั้งราคาสูงเกิน ยันหมอทุกคนโปร่งใส ชี้กระทรวงสาธารณสุขไม่ใช่ของนักการเมือง ส่วนการลาออกของทีมที่ปรึกษาฯ เพื่อทุกอย่างโปร่งใส ส่วนตัวเลขาฯ ลาออกหรือไม่ขอไม่พูดแถลง รอเจ้าตัวแถลงเอง
จากกรณีกระแสข่าวกรณีความไม่ชอบมาพากลในการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ระยะที่ 2 (SP2) ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มูลค่ากว่า 86,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและ นพ.ไพจิตร์ วราชิต รักษาราชการแทนปลัด สธ.มีคำสั่งชะลอการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ตามโครงการเอสพี 2 จำนวน 6 รายการ ที่มีปัญหาไม่โปร่งใส ราคาแพงเกินจริง ไม่มีความจำเป็น และล็อคสเปก ขณะที่ล่าสุด คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งทั้งคณะนั้น
นายวิทยา แก้วภารดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งคณะกรรมการฯขึ้นสอบทั้งหมดแล้ว และยืนยันเบื้องต้นโครงการไทยเข้มแข็งยังไม่ได้มีการจัดซื้อจัดจ้างอะไรเลย เพียงแต่มีการส่งสัญญาณเตือนโดยคณะแพทย์ชนบทมาว่า โครงการบางอย่างตั้งงบประมาณสูงเกินไป ซึ่งปลัด สธ.ได้ตั้งกรรมการฯ สอบทั้งหมด โดยหนึ่งในกรรมการฯ ก็มีแพทย์ชนบท และได้เร่งรัดไปแล้วว่า 2 สัปดาห์ต้องให้รู้เรื่อง
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าได้มีการรายงานนายกรัฐมนตรีว่า มีคนใกล้ชิดเกี่ยวพันในเรื่องนี้ด้วย นายวิทยา กล่าวว่า ตนไม่ได้รายงาน สื่อรายงาน และสอบถามทุกคนที่ใกล้ชิดแล้ว ซึ่งก็ไม่มีใครรับว่าเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ส่วนการที่คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขลาออกนั้น เป็นเรื่องที่ทีมที่ปรึกษาฯได้หารือกันแล้ว เดี๋ยววันนี้ (6 ต.ค.) จะแถลงข่าวเอง รอฟังดูเหตุผลจากท่านว่าเพราะอะไร ซึ่งตนได้ถามแล้ว แต่อยากให้ทีมที่ปรึกษาฯ พูดเองดีกว่าเดี๋ยวจะเข้าข้างตนมากไป ซึ่งที่ปรึกษาฯ หลายคนก็เป็นผู้ใหญ่และเป็นคนที่มีหน้ามีตา อย่าง นายพิเชฏฐ พัฒนโชติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็เป็นรองประธานรัฐสภามาก่อน นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ เคยอยู่ในองค์กรสิทธิมนุษยชน นพ.ธวัช สุนทรจารย์ ซึ่งก็เป็นผู้ใหญ่หมด และข่าวออกมาว่าคนใกล้ชิด รมต.สาธารณสุขมีส่วนเกี่ยวข้องเขาก็จำเป็นต้องทำให้ตัวเองโปร่งออกมาทั้งหมด ด้วยกระทรวงสอบโดยไม่ต้องเกรงใจใคร
ส่วนเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต้องลาออกด้วยหรือไม่ รอให้ท่านแถลงเองดีกว่า อย่าให้ตนแถลงแทน
เมื่อถามว่า การลาออกเช่นนี้เป็นการหนีปัญหา เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการฯสอบหาผู้กระทำความผิดหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า มองได้ 2 มุม คือ ถ้าอยู่กันต่ออีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าได้ แต่ถ้าลาออกก็บอกว่ามีปัญหา มันต้องมีจุดลงตัว ทุกอย่างต้องโปร่งใสในการสอบ
“กระทรวงสาธารณสุขไม่ใช่ของนักการเมืองของพวกผม หมอทุกคนต้อง โปร่งใสในการทำงาน และนับแต่วันนี้เป็นต้นไปกระบวนการตรวจสอบต้องชัดเจน ประชุมสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศได้ยืนยันว่า ถ้ามีการแอบอ้างทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เกี่ยวกับทางการเมืองท่านต้องกล้าแจ้งต่อคณะกรรมการฯ และกรรมการฯที่ตั้งขึ้นมาก็ล้วนแต่หมอทั้งนั้นที่เป็น มีแพทย์ชนบทอยู่ด้วย ไม่ต้องไม่อายที่จะแจ้งความจริงกัน” นายวิทยา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในส่วนของตัว รมว.สาธารณสุขเอง จะถูกกดดันให้มากกว่าความรับผิดชอบเพียงแค่การตั้งคณะกรรมการฯ สอบ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ตนคิดว่าที่ตนรับผิดชอบคือการทำให้กระทรวงสาธารณสุขปลอดจากการทุจริต จนถึงวันนี้ถ้ามีใครตรวจสอบว่า ตนทุจริตได้ จะรับผิดชอบ แต่ไม่ใช่ดีแต่พูด ต้องเอาให้จริง
จากกรณีกระแสข่าวกรณีความไม่ชอบมาพากลในการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ระยะที่ 2 (SP2) ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มูลค่ากว่า 86,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและ นพ.ไพจิตร์ วราชิต รักษาราชการแทนปลัด สธ.มีคำสั่งชะลอการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ตามโครงการเอสพี 2 จำนวน 6 รายการ ที่มีปัญหาไม่โปร่งใส ราคาแพงเกินจริง ไม่มีความจำเป็น และล็อคสเปก ขณะที่ล่าสุด คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งทั้งคณะนั้น
นายวิทยา แก้วภารดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งคณะกรรมการฯขึ้นสอบทั้งหมดแล้ว และยืนยันเบื้องต้นโครงการไทยเข้มแข็งยังไม่ได้มีการจัดซื้อจัดจ้างอะไรเลย เพียงแต่มีการส่งสัญญาณเตือนโดยคณะแพทย์ชนบทมาว่า โครงการบางอย่างตั้งงบประมาณสูงเกินไป ซึ่งปลัด สธ.ได้ตั้งกรรมการฯ สอบทั้งหมด โดยหนึ่งในกรรมการฯ ก็มีแพทย์ชนบท และได้เร่งรัดไปแล้วว่า 2 สัปดาห์ต้องให้รู้เรื่อง
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าได้มีการรายงานนายกรัฐมนตรีว่า มีคนใกล้ชิดเกี่ยวพันในเรื่องนี้ด้วย นายวิทยา กล่าวว่า ตนไม่ได้รายงาน สื่อรายงาน และสอบถามทุกคนที่ใกล้ชิดแล้ว ซึ่งก็ไม่มีใครรับว่าเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ส่วนการที่คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขลาออกนั้น เป็นเรื่องที่ทีมที่ปรึกษาฯได้หารือกันแล้ว เดี๋ยววันนี้ (6 ต.ค.) จะแถลงข่าวเอง รอฟังดูเหตุผลจากท่านว่าเพราะอะไร ซึ่งตนได้ถามแล้ว แต่อยากให้ทีมที่ปรึกษาฯ พูดเองดีกว่าเดี๋ยวจะเข้าข้างตนมากไป ซึ่งที่ปรึกษาฯ หลายคนก็เป็นผู้ใหญ่และเป็นคนที่มีหน้ามีตา อย่าง นายพิเชฏฐ พัฒนโชติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็เป็นรองประธานรัฐสภามาก่อน นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ เคยอยู่ในองค์กรสิทธิมนุษยชน นพ.ธวัช สุนทรจารย์ ซึ่งก็เป็นผู้ใหญ่หมด และข่าวออกมาว่าคนใกล้ชิด รมต.สาธารณสุขมีส่วนเกี่ยวข้องเขาก็จำเป็นต้องทำให้ตัวเองโปร่งออกมาทั้งหมด ด้วยกระทรวงสอบโดยไม่ต้องเกรงใจใคร
ส่วนเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต้องลาออกด้วยหรือไม่ รอให้ท่านแถลงเองดีกว่า อย่าให้ตนแถลงแทน
เมื่อถามว่า การลาออกเช่นนี้เป็นการหนีปัญหา เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการฯสอบหาผู้กระทำความผิดหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า มองได้ 2 มุม คือ ถ้าอยู่กันต่ออีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าได้ แต่ถ้าลาออกก็บอกว่ามีปัญหา มันต้องมีจุดลงตัว ทุกอย่างต้องโปร่งใสในการสอบ
“กระทรวงสาธารณสุขไม่ใช่ของนักการเมืองของพวกผม หมอทุกคนต้อง โปร่งใสในการทำงาน และนับแต่วันนี้เป็นต้นไปกระบวนการตรวจสอบต้องชัดเจน ประชุมสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศได้ยืนยันว่า ถ้ามีการแอบอ้างทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เกี่ยวกับทางการเมืองท่านต้องกล้าแจ้งต่อคณะกรรมการฯ และกรรมการฯที่ตั้งขึ้นมาก็ล้วนแต่หมอทั้งนั้นที่เป็น มีแพทย์ชนบทอยู่ด้วย ไม่ต้องไม่อายที่จะแจ้งความจริงกัน” นายวิทยา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในส่วนของตัว รมว.สาธารณสุขเอง จะถูกกดดันให้มากกว่าความรับผิดชอบเพียงแค่การตั้งคณะกรรมการฯ สอบ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ตนคิดว่าที่ตนรับผิดชอบคือการทำให้กระทรวงสาธารณสุขปลอดจากการทุจริต จนถึงวันนี้ถ้ามีใครตรวจสอบว่า ตนทุจริตได้ จะรับผิดชอบ แต่ไม่ใช่ดีแต่พูด ต้องเอาให้จริง