ปชป.หนุน รบ.ประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงในการประชุมอาเซียน ต.ค.นี้ มั่นใจความเชื่อมั่นประเทศกลับคืน พร้อมประเมิน 4 สถานการณ์ที่ไม่น่าจับตาเกี่ยวกับความมั่นคง หนุนทีมที่ปรึกษา สธ.ไขก๊อก ยกแผง อ้างเปิดทางให้ตรวจสอบ หากไม่ผิดพร้อมกลับมาใหม่
วันนี้ (6 ต.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมพรรค ว่า ที่ประชุมได้รับฟังรายงานสถานการณ์ทางการเมือง จาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง โดยพรรคได้รับทราบ และสนันสนุนการประกาศพื้นที่ควบคุมตามพระราชบัญญัติความมั่นคง ในเขตดุสิต ในจังหวัดเพชรบุรี และ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในช่วงสัปดาห์ ที่ 2-4 ของเดือน ต.ค.นี้ โดยมีการประเมินว่า สถานการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้ มี 4 ปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญ และไม่ควรประมาท กล่าวคือ 1.การเตรียมการชุมนุมใหญ่หลายครั้งในเดือนตุลาคม ในขณะที่จะมีการจัดประชุมระดับภูมิภาค ถือว่าเป็นการเตรียมการสุ่มเสี่ยงก่อความวุ่นวาย ในขณะที่สื่อมวลชนโลกจับตามองประเทศไทย หากเกิดความเสียหาย ก็จะเป็นความเสียหายที่ส่งผลสูงสุดในวงกว้าง ต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
2.การเคลื่อนไหวในต่างประเทศ เพื่อที่จะส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของประเทศ ทั้งการออกมาพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ออกมาบอกว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าไปสู่ความวุ่นวายอีกครั้งหนึ่ง โดยอ้างชื่อนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน
3.การปล่อยข่าวอย่างเป็นระบบ พุ่งเป้าไปที่การทำงานของรัฐบาล ทั้งในส่วนของพรรคร่วมและในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นเอกภาพ ทั้งภายในพรรค และทั้งการทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล และ
4.มีความพยามที่จะปลุกกระแสเรื่องที่มีทั้งจริงผสมเท็จ โดยให้มีเชื่อเกิดขึ้นว่ามีกระบวนการทุจริตภายใต้โครงการสำคัญของรัฐบาล ทั้งที่ข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และไม่มีมูลความจริงในหลายข้อกล่าวอ้าง
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้พรรคประเมินว่า เป็นการขับเคลื่อนเพื่อหวังผลขัดขวางการทำงานของรัฐบาลทุกรูปแบบ และพรรคก็มีความกังวลว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นจะส่งผลลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ เพราะความสำเร็จที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพหลายครั้งในการประชุมในช่วงเดือนตุลาคมนี้ จะส่งผลโดยตรงกับการ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เตรียมการ ไปหลายประเทศ เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของประเทศในการประชุมหลายครั้ง
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่รัฐบาลได้มีมาตรการแก้ปัญหาความปลอดภัย จากการเกิดอุบัติเหตุของรถไฟแห่งประเทศไทย โดยพรรคสนับสนุนให้ รัฐบาลเดินหน้าปฏิรูประบบขนส่งระบบรางทั้งหมด เพราะว่ามีความไม่ปลอดภัยสูงกว่ามาตรฐานสากลหลายเท่าตัว จึงอยากให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยด่วนในการแก้ไขปัญหา
นพ.บุรณัชย์ กล่าวถึงกรณีการตัดสินใจลาออกที่คณะทำงานและเลขานุการ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่า พรรคสนับสนุนแนวทางการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยยึดแนวทางของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ที่ได้วางกรอบไว้ และมองว่า การตัดสินใจของคณะทำงานและเลขานุการ เป็นการแสดงความจริงใจ ในการที่จะให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินการได้อย่างโปร่งใส และสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่าการตรวจสอบจะไม่มีการแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งแนวทางดังกล่าวถือว่าเป็นบรรทัดฐานของพรรคในการที่จะสร้างความมั่นใจให้ประชาชน