งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 21 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่จัดโดย 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ นับว่าคึกคักกันพอสมควร โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ ที่สร้างคอนโดฯแนวรถไฟฟ้า รวมทั้งระยะใกล้เคียงรถไฟฟ้า ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก ที่แห่จองกันแน่น บางโครงการ มีการเปิดรับใบจอง มีประชาชนเข้าคิวรอกันตั้งแต่ตี 1 จนเกือบวางมวย เพราะเปิดจองเพียงไม่ถึงชั่วโมง จำนวนมากกว่า 200 ยูนิต หมดเกลี้ยงภายในพริบตา ยังกะแจกฟรี
ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คึกคักอย่างมากในช่วงนี้ จนทำให้เอดีบี (ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย)ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงภาคอสังหาฯไทย จะเข้าใกล้ฟองสบู่ ทำให้ทั้งผู้ประกอบการอสังหาฯและสถาบันการเงิน ต่างเรียงคิวออกมาโต้กลับเอดีบี ถึงภาวะอสังหาฯในประเทศไทย มองว่าห่างไกลฟองสบู่ เพราะเกิดจากความต้องการที่อยู่อาศัยจริงๆตามราคาปกติ ไม่ได้ขยับสูงขึ้นเกิดความจำเป็น และที่สำคัญ การซื้อบ้าน และคอนโดฯส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อจากเม็ดเงินที่มีอยู่แล้ว ประชาชนที่มีความพร้อมในการซื้อที่อยู่อาศัย ไม่ได้เข้ากู้เงินจากสถาบันการเงินจนเกินตัว ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดภาวะฟองสบู่แน่นอน
ส่วนในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 21 ที่ผ่านมานี้ ปรากฏว่า ยอดขายในงานประมาณ 2,500 ล้านบาท มียอกสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท จาก 13 สถาบันการเงิน “ มะจัง”ได้สอบถามถึงธนาคารพาณิชย์ต่างๆที่ออกบูธภายในงาน ออกมาบ่นเป็นเสียงเดียวกัน ถึงความต้องการสินเชื่อส่วนใหญ่ไม่คึกคักเหมือนกับการจองซื้อบ้านและคอนโดฯ ส่วนใหญ่จะเป็นรายย่อย ที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรก และมีทำเลที่อยู่ไกลจากตัวเมืองและแนวรถไฟฟ้า ส่วนประชาชนที่ซื้อคอนโดฯแนวรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางมาทำงาน จึงเป็นบ้านหลังที่ 2 และส่วนใหญ่จะซื้อด้วยเงินสด หรือมีการกู้เงินเพียงเล็กน้อย
และที่สำคัญ “มะจัง”ได้มีโอกาสได้คุยกับนักลงทุน ที่เข้ามาจองซื้อคอนโดฯแนวรถไฟฟ้า คนเดียวมากถึง 10 ยูนิต ซึ่งจะมีนักลงทุนประเภทนี้อยู่หลายสิบคน โดยมองว่าราคาหุ้นได้รับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 90 % ทำให้มีผลตอบแทนที่สูง จึงนำเงินมาลงทุนซื้อคอนโดฯให้เช่า โดยได้ผลตอบแทนเฉลี่ยขั้นต่ำมากกว่า 6 % เมื่อเทียบกับการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์แล้วคนละเรื่องกันเลย เฮ้อ!!คุยกับคนรวยก็อย่างนี้แหละค่ะ อะไร อะไร ก็ดูดี ดูง่าย ไปหมด
ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คึกคักอย่างมากในช่วงนี้ จนทำให้เอดีบี (ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย)ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงภาคอสังหาฯไทย จะเข้าใกล้ฟองสบู่ ทำให้ทั้งผู้ประกอบการอสังหาฯและสถาบันการเงิน ต่างเรียงคิวออกมาโต้กลับเอดีบี ถึงภาวะอสังหาฯในประเทศไทย มองว่าห่างไกลฟองสบู่ เพราะเกิดจากความต้องการที่อยู่อาศัยจริงๆตามราคาปกติ ไม่ได้ขยับสูงขึ้นเกิดความจำเป็น และที่สำคัญ การซื้อบ้าน และคอนโดฯส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อจากเม็ดเงินที่มีอยู่แล้ว ประชาชนที่มีความพร้อมในการซื้อที่อยู่อาศัย ไม่ได้เข้ากู้เงินจากสถาบันการเงินจนเกินตัว ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดภาวะฟองสบู่แน่นอน
ส่วนในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 21 ที่ผ่านมานี้ ปรากฏว่า ยอดขายในงานประมาณ 2,500 ล้านบาท มียอกสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท จาก 13 สถาบันการเงิน “ มะจัง”ได้สอบถามถึงธนาคารพาณิชย์ต่างๆที่ออกบูธภายในงาน ออกมาบ่นเป็นเสียงเดียวกัน ถึงความต้องการสินเชื่อส่วนใหญ่ไม่คึกคักเหมือนกับการจองซื้อบ้านและคอนโดฯ ส่วนใหญ่จะเป็นรายย่อย ที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรก และมีทำเลที่อยู่ไกลจากตัวเมืองและแนวรถไฟฟ้า ส่วนประชาชนที่ซื้อคอนโดฯแนวรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางมาทำงาน จึงเป็นบ้านหลังที่ 2 และส่วนใหญ่จะซื้อด้วยเงินสด หรือมีการกู้เงินเพียงเล็กน้อย
และที่สำคัญ “มะจัง”ได้มีโอกาสได้คุยกับนักลงทุน ที่เข้ามาจองซื้อคอนโดฯแนวรถไฟฟ้า คนเดียวมากถึง 10 ยูนิต ซึ่งจะมีนักลงทุนประเภทนี้อยู่หลายสิบคน โดยมองว่าราคาหุ้นได้รับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 90 % ทำให้มีผลตอบแทนที่สูง จึงนำเงินมาลงทุนซื้อคอนโดฯให้เช่า โดยได้ผลตอบแทนเฉลี่ยขั้นต่ำมากกว่า 6 % เมื่อเทียบกับการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์แล้วคนละเรื่องกันเลย เฮ้อ!!คุยกับคนรวยก็อย่างนี้แหละค่ะ อะไร อะไร ก็ดูดี ดูง่าย ไปหมด