xs
xsm
sm
md
lg

“กอร์ปศักดิ์”นั่งเลขาฯ"มาร์ค"ปล่อยนิพนธ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการ - ท่ามกลางกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ โดยให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ออกมานั่งตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทน“นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์” ที่ นายกฯ เปรย “ชัดเจนแล้ว” หรือลาออกแน่นอน พร้อมยืนยันทั้งวันว่า วันจันทร์จะได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุด ก่อนย่องพบ”กอร์ปศักดิ์” ที่บ้านพักโดยอ้างว่ามาคุยกันเรื่องงาน ขณะที่ รองฯนายกฯ ระบุยังไม่มีอะไรแน่นอน

วานนี้(4 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่องนี้ในรายการ”เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์”ถึงกรณีนายนิพนธ์ ลาออก ว่า “มีความชัดเจนแล้ว”
ส่วนเรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ที่ยังไม่ลงตัว ขอยืนยันว่าการบริหารจัดการต้องดำเนินการไปตามขั้นตาม ได้กำชับรักษาการ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ให้เร่งจัดการปัญหาเฉพาะหน้ากิจการภายใน ทั้งเรื่องปัญหาอาชญากรรม กวาดล้างอบายมุข โดยตั้งใจว่าจะมีตำแหน่งรักษาการ ผบ.ตร.ให้สั้นที่สุด ส่วนที่ยังมีปัญหามาถึงทุกวันนี้ก็เพราะ ก.ต.ช.ไม่ได้ความเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีได้เสนอไป เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ที่จะเสนอชื่อ
ทั้งนี้ การลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ของนายนิพนธ์แม้จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลราชการ แต่ขอยืนยันว่าจะบริหารจัดการได้ นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือสื่อ อยากให้ถามเรื่องเนื้องานอย่าใช้กระแสเป็นตัวตั้ง อย่างเช่นบางสื่อได้กล่าวหาว่า นายกฯมัวหมกหมุ่นอยู่แต่เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คนเสื้อแดง หรือการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ขอยืนยันว่าไม่ได้คิดเรื่องเหล่านี้เลย แต่สื่อมักจะตั้งคำถามนำและหากเป็นไปได้ขอใช้สิทธิ์ไม่ตอบคำถามบ้างได้หรือไม่ ส่วนเรื่อง คลิปคนรูปหล่อในพรรคประชาธิปัตย์ ตามที่นายจตุพร พรมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ออกมากุข่าวก็ไม่ทราบว่ามีที่มาอย่างไร แต่สุดท้ายจะเป็นเครื่องสะท้อนพฤติกรรมคนที่ออกมาปล่อยข่าวเอง
สำหรับปัญหาการแต่งตังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ากำลังดำเนินการอยู่ ตนเองเห็นว่าแม้จะเป็นตำแหน่งสำคัญ แต่ปัญหาที่สำคัญมากกว่าของประชาชนคือตำรวจต้องดูแลยาเสพติด ตู้ม้า

**ย่องพบ”กอร์ปศักดิ์” อ้างคุยงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของนายอภิสิทธิ์ หลังออกจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อาคารมาลีนนท์ ถนนพระราม 4 แล้ว เวลาประมาณ 10.30 น. นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปยังบ้านพักของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่ซอยรามคำแหง 21 แยก 3 ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับ ครม. โดยอาจจะมีการโยกให้นายกอร์ปศักดิ์มานั่งตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทนนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ ที่ลาออกไป โดยนายอภิสิทธิ์ได้ใช้เวลาหารือกับ นายกอร์ปศักดิ์ประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 12.00 น. ก็ได้ขอเวลาส่วนตัวเพื่อไปรับประทานอาหารกับครอบครัว โดยยังไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ เกี่ยวกับประเด็นที่หารือกับนายกอร์ปศักดิ์ จากนั้นเวลา 14.00 น. นายอภิสิทธิ์ เดินทางมาเยี่ยมโครงการสื่อวัยใสยุติความรุนแรง ในโรงเรียน และร่วมรับฟังข้อเสนอจากเยาวชนจากประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย 5 ประเทศ ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์
นายอภิสิทธิ์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวก่อนพบกับนายกอร์ปศักดิ์ถึงความชัดเจน เกี่ยวกับการลาออกของนายนิพนธ์ ว่า “พรุ่งนี้ครับ”เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าจะมีการโยกให้นายกอร์ปศักดิ์ มาทำหน้าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีแทน นายอภิสิทธ์ กล่าวย้ำว่า “ก็พรุ่งนี้ชัดเจนไงครับ”เมื่อถามถึงข่าวการปรับ ครม. นายอภิสิทธิ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว เพียงแต่ยิ้มและรีบเดินเลี่ยงไปขึ้นรถออกไปทันที

**ปัดตอบดึง “กอร์ปฯ”นั่ง เลขาฯ
ภายหลังรับประทานอาหารร่วมกับครอบครัวแล้ว นายกฯได้เดินทางไปร่วมงานโครงการสื่อวัยใสยุติความรุนแรงในโรงเรียน ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ โดยปฏิเสธที่จะพูดถึงรายละเอียดการหารือกับ นายกอร์ปศักดิ์ ก่อนบอกว่า ไปคุยกันเรื่องงานสิครับ คุยงานทั้งนั้น มีงานทำนี่ครับ เมื่อถามว่าไม่ได้คุยกันเรื่องตำแหน่งทางการเมืองเลยหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็คุยกันทุกเรื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่าตกลงนายกอร์ปศักดิ์ยอมที่จะมานั่งตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “เดี๋ยวไว้รอวันจันทร์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี และสีหน้าที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ยิ้มได้อย่างนี้เพราะทุกอย่างเรียบร้อย แล้วใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทำไม ยิ้มไม่ได้หรือ คนไปคุยกันไม่ได้เหรอ ท่าน(นายกอร์ปศักดิ์)จะเดินทางไปประเทศอินเดียในวันที่ 6 ต.ค.นี้อยู่แล้ว ซึ่งผมก็ได้ฝากท่านไปคุยเรื่องการค้า

** “กอร์ปศักดิ์” ยันยังไม่มีอะไรแน่นอน
ต่อข้อถามว่าคุยกับนายกอร์ปศักดิ์เรื่องตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ย้อนถามกลับพร้อม อมยิ้มว่า “คุยทำไม”เมื่อถามว่าแล้วทำไม ถึงยิ้มได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ผมยิ้มก็ว่า ไม่ยิ้มก็หาว่าเครียด”
เมื่อย้ำว่าแสดงว่านายกอร์ปศักดิ์ตอบรับตำแหน่งแล้ว ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยได้แต่หัวเราะก่อนเลี่ยงขึ้นรถ เพื่อเดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลให้ผู้ชนะการแข่งขันเทนนิส พีทีที ไทยแลนด์ 2009 ที่อิมแพคเมืองทองธานี ทั้งนี้ในการให้สัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ครั้งนี้ได้พยายาม หลบผู้สื่อข่าวเพื่อไม่ต้องการตอบคำถาม จนถึงขั้นเดินขึ้นรถผิดคัน โดยไปขึ้นนั่งในรถของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแทน
ด้านนายกอร์ปศักดิ์ ปฏิเสธที่จะให้ความชัดเจนเรื่องดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยเมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถาม ก็กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ตอนนี้ยังไม่อยากพูดอะไร เพราะยังไม่มีอะไรแน่นอน”

**เทือก ปัดถกแกนำพรรคร่วม ปรับ ครม.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกำหนดนัดหมายของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในเย็นวันนี้ (4 ต.ค.) ที่บ้านพิษณุโลก ว่า นายกรัฐมนตรี มีบัญชาให้ตนนัดหมายแกนนำคนสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อหารือถึงแนวทางในการปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนจะปรึกษาอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้กำหนด
ส่วนที่มีกระแสข่าวระบุการนัดหมายวันนี้เป็นการหรือเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรีนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีการหารือเรื่องการปรับ ครม.แน่นอน จะหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น
เมื่อถามว่าหลังจากนัดฝ่ายรัฐบาลในวันนี้จะนัดคุยกับฝ่ายค้านด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าว่า ยังไม่มีกำหนดนัดหมาย การทำงานเรื่องรัฐธรรมนูญมีสองเวที คือ ที่ประชุมร่วมวิปสามฝ่าย ซึ่งกลไกของวิปได้ทำงานอยู่แล้ว และเวทีของพรรคร่วมรัฐบาล

**วันเกิดเนวิน พึ่งพากันมากอยู่แล้ว
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 51 ปี ของนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์คงไม่ได้ส่งตัวแทนไปอวยพรวันเกิดนายเนวิน ปกติกรณีเช่นนี้ตนและนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะทำหน้าที่ไปอวยพรวันเกิดเพื่อแสดงน้ำใจ ซึ่งตัวเองไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการจัดงานวันเกิด ดังนั้น ในวันเกิดของตนจึงไม่ได้เชิญใคร และไม่คาดหวังให้ใครมาอวยพร แต่เมื่อทำงานการเมืองคงต้องแสดงน้ำใจ แต่วันเกิดนายเนวินปีนี้ ตนไม่ทราบว่าจัดที่ไหน ทราบจากข่าวว่าจัดที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งคงไปไม่ไหว แต่คงไม่มีปัญหาอะไร และเชื่อว่า นายเนวินคงไม่ว่าอะไร เพราะคงไม่คาดหวังว่า จะมีใครมาอวยพร
ผมทำเท่าที่สะดวก ไม่เสแสร้งแกล้งทำ สำหรับคำอวยพร คงปรารถนาให้เพื่อนฝูงทุกคนทำงานสำเร็จ เป็นกำลังของประเทศชาติบ้านเมือง เป็นกำลังของแผ่นดิน ผมคิดว่านี่คือพรที่ประเสริฐสุดที่คนทำงานการเมืองอยากได้” นายสุเทพ กล่าวและว่าส่วนจะ อยากได้อะไรจากนายเนวินหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี ปกติก็รู้จักกัน ทำงานด้วยกัน พึ่งพาอาศัยกันในทางการเมืองเท่านั้น

**หารือแกนนำพรรคร่วมแค่ 30 นาที
เวลา 18.30 น.ที่บ้านพิษณุโลก ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรค จำนวน 11 คน ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯในฐานะเลขาธิการพรรคปชป. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา นายเนวิน ชิดชอบ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายสุวิทย์ คุณกิตติ แกนนำพรรคกิจสังคม นายบรรหาร ศิลปอาชา และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นายพินิจ จารุสมบัติและนายไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดินโดยเบื้องต้นคาดว่า เข้าร่วมหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นเดียว
ทั้งนี้หลังจากหารือเพียง 30 นาที ในเวลา 18.55 น. แกนนำพรรคร่วมก็ทยอยออกมาจากบ้านพิษณุโลกจนหมดโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ซึ่งนายเนวิน ระบุว่า ไม่มีการหารือท่าทีเรื่องการปรับ ครม.ของพรรคร่วมและเรื่องของนายนิพนธ์
เวลา 19.00 น. แกนนำทั้งหมด ได้เดินทางไปยังโรงแรมพลาซ่า แอทธินี แต่นายอภสิทธิ์และนายเนวินไม่ได้เดินทางไปด้วย อย่างไรก้ตามทั้งก่อนและหลังการหารือทั้งหมดมีสีหน้าเคร่งเครียด

**จับตา ครม.ปชป.กระเพื่อมทั้งสัปดาห์

แหล่งข่าวจากพรรค ปชป. ให้ข้อมูลว่า มีความเป็นไปได้สูงว่า กระแสการปรับครม.ในโควต้าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้มข้นขึ้นตลอดสัปดาห์นี้ หลังจากมีการยืนยันว่า นายนิพนธ์ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจริง จะมีการปรับ ครม.ในโควตาของพรรค โดยให้ปรับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวะสุ รองนายกรัฐมนตรี ออกหลังจากมีข่าวฉาวการทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง เพื่อให้ มาทำหน้าที่เลขาฯนายกฯ พร้อมทั้งเตรียมเสนอชื่อ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน หรือ นายเกียรติ สิทธีอมร ขึ้นมาเป็นรองนายกฯแทน แต่หากนายอภิสิทธิ์ ไม่ยอมปรับนายกอร์ปศักดิ์ ก็จะเสนอชื่อ นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก ขึ้นมาแทนเช่นกัน
ขณะอีกตำแหน่งที่ต้องจับตาเช่นเดียวกันคือ ตำแหน่งของนายสาทิตย์ วงษ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากพบมีล้มเหลวในหลายๆด้านในการประชาสัมพันธ์ อย่างไรก้ตามจะไม่มีการประทบไปยังพรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรค

**คาดผลสอบนายกฯ แทรกแซงตำรวจไม่ผิด
อีกเรื่องหนึ่ง นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี ที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ได้ทำหนังสือร้องเรียนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยกล่าวหา ว่า มีพฤติการ แทรกแซงข้าราชการ ตำรวจ ทั้งในเรื่องการแต่งตั้งรักษาการณ์ผบ.ตร.และให้ผบ.ตร.ในขณะนั้น คือพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ มีเจตนาเข้าไปก้าวกายแทรกแซงในการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ว่า หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว และได้มีการขยายเวลาสอบไปครั้งหนึ่ง ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 8 ต.ค. ซึ่งยังไม่ทราบว่าทางคณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นหรือไม่ หรือหากยังไม่แล้วเสร็จก็ต้องมีเหตุผลในการที่จะขอขยายระยะเวลาออกไปได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกกต.ว่าจะอนุญาตหรือไม่
รายงานข่าวว่าแจ้งว่า สำหรับการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวนี้ ซึ่งคณะกรรมการไต่สวนฯได้ทำหนังสือเชิญให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงหากไม่สะดวกมาชี้แจงด้วยตัวเองก็สามารถทำหนังสือชี้แจงมาก็ได้ ซึ่งทราบว่านายกรัมนตรีก็ได้ชี้แจงมาแล้วว่าเป็นผู้ที่มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูรายงานเอกสารอื่นว่า ในกรณีดังกล่าวนี้การดำเนินการของนายกรัฐมนตรีถือเป็นการแทรกแซงหรือไม่อย่างไร และมีอะไรที่ชี้ชัดว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้แทรกแซงและมีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งหรือไม่อย่างไร แต่เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบยังไม่พบว่า นายกรัฐมนตรีมีพฤติการที่ส่อไปในทางที่มิชอบ เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง จึงไม่ขัดกับมาตรา 266 (2) ประกอบมาตรา 268 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ นายกฯสิ้นสุดลงมาตรา 182(7)

**พท.ยื่นป.ป.ช.ฟัน“มาร์ค” ผิด 157
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ในวันพุธที่ 7 ต.ค.ตนและทนายความจะเดินทางไปยื่นเริ่องต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ให้ตรวจสอบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิคความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใดตาม มาตรา 157 สืบเนื่องจากการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นรักษาราชการการแทน ผบ.ตร. (รรท.ผบ.ตร.) โดยมิชอบ
นายพร้อมพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เดิมมีการประชุมก.ต.ช. เพื่อเลือกผบ.ตร. คนใหม่ แทนพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่เกษียณอายุราชการ แต่ที่ประชุมก.ต.ช. ไม่เห็นชอบกับรายชื่อบุคคลที่นายกรัฐมนตรีนำเสนอคือ พล.ต.อ.ปทีป และโดยหลักปฏิบัติแล้วเมื่อก.ต.ช.ไม่เห็นชอบนายกรัฐมนตรีต้องเสนอชื่อผู้อื่นให้พิจารณา แต่ต่อมากลับปรากฎว่าในการประชุม ก.ต.ช.ครั้งที่ 2 นายกรัฐมนตรีกลับไม่สามารถ เสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมให้ที่ประชุมก.ต.ช.ได้ ซึ่งตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 72(2) ระบุว่าเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องเสนอชื่อผบ.ตร. คนใหม่ให้ทันภายใน 30 ก.ย. 2552 และอยู่ในวิสัยที่นายกรัฐมนตรีสามารถ เรียกประชุม ก.ต.ช.เพื่อให้ความเห็นชอบผบ.ตร.คนใหม่ได้ทันภายในกำหนดเวลาดังกล่าว แต่นายกรัฐมนตรีกลับละเว้น ไม่เรียกประชุม เนื่องจากประเมินแล้วว่า หากเสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีปอาจจะไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม ก.ต.ช. จึงเลือก วิธีการแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ปทีปเป็นรักษาราชการแทนผบ.ตร. เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ต้องเข้า ประชุมก.ต.ช. การกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ที่ไม่อาจมีผบ.ตร. มาเป็นผู้นำองค์กรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ตามกฎหมาย ทั้งยังเป็นการฝ่าฝืนเจตนารมณ์ของกฎหมาย ทำให้เกิดความเสียหายแก่รองผบ.ตร. คนอื่นๆ ที่อยู่ในข่ายได้รับการเสนอชื่อเป็นผบ.ตร.ด้วย

**พท.ร้อง ‘มาร์ค’ปรับ 5 ตำแหน่ง
นายพร้อมพงศ์ แถลงเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาภาวะวิกฤติความเป็นผู้นำและผลงานของรัฐบาลว่า หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ประสบปัญหาขาดภาวะผู้นำ ทำให้กลไกการบริหารของรัฐบาลตกอยู่ในสภาพพิกลพิการ สืบเนื่องจากกรณีที่ไม่สามารถแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ทำให้เกิดผลกระทบต่อการ โยกย้ายในระดับรอง ผบ.ตร.และตำแหน่งอื่นๆ หรือแม้กระทั่งกรณีการลาออกของ นายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่ยังคลุมเครือ และนายอภิสิทธิ์ก็ระบุว่าไม่ทราบว่าลาออกหรือหายไปไหน
ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา การบริหารของรัฐบาลถือว่าไร้ผลงาน พบแต่การ ทุจริตจนโพลสำรวจระบุว่านายอภิสิทธิ์สอบตก คะนนเต็ม 10 ได้เพียง 4 คะแนนกว่านั้น พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์แก้ปัญหาวิกฤติภาวะผู้นำและผลงานรัฐบาลโดยรวมด้วยการปรับครม.โดยนำรัฐมนตรีเหล่านี้ออกไปคือ 1.นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นผู้กำกับดูแลโครงการชุมชนพอเพียง ที่มีการทุจริตไปทั่วประเทศ 2.นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ที่มีปัญหาต่อการรับมือโรคไข้หวัด 2009 ประชาชนเสียชีวิตประมาณ 200 ราย และล่าสุดมีแนวโน้มว่าน่าจะมีการทุจริตในการจัดซื้อครุภัณฑ์ในกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง
3.นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่ไร้ผลงาน สร้างปัญหาในด้านความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน 4.นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังรวมทั้งครม.เศรษฐกิจทั้งชุด เพราะบริหารมา 9 เดือนมีแต่การกู้กับโกง ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน 5.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสื่อ 9 เดือนที่ผ่านมา มีผลงานแค่การใช้งบประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาล ล่าสุดได้ทำโครงการไทยสามัคคี ไทยเข้มแข็งที่เหมือนเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ร้องเพลงชาติเวลา 18.00 น.ใช้งบประมาณ 60 ล้านบาท ถ้าคิดได้แค่นี้ก็ควรออกไป ยุคนี้เป็นยุคที่มีการปิดกั้นสื่อของรับและแทรกแซงสื่อมากที่สุด
และ6.หากนายอภิสิทธิ์ไม่ปรับทั้ง 5 รัฐมนตรีออกจากครม. ก็ควรรับผิดชอบ ต่อการบริหารที่ล้มเหลวในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาด้วยการลาออกและเปิดทางให้มีการ สรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีมีอำนาจแต่ไม่กล้าตัดสินใจ ในเรื่องสำคัญที่มีผลต่อประชาชน แต่กลับไปตัดสินใจอนุมัติในสิ่งที่สังคมกังขาคือ โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันวงเงิน 63,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น