“กรณ์” แฉบริษัทญาติ “นช.แม้ว” เสียประโยชน์ ปล่อยข่าวโกงชุมชนพอเพียง

“กรณ์” แฉบริษัทญาติ “นช.แม้ว” เสียประโยชน์ ปล่อยข่าวโกงชุมชนพอเพียง ลั่น เดินหน้าโครงการเต็มที่ ไม่หยุด แต่สั่งเพิ่มความรัดกุมจัดซื้อ ชี้ หากพบทุจริตชุมชนใด ให้ระงับโครงการไว้ก่อน รอจนผลสอบกระจ่าง จึงค่อยดำเนินการต่อทีหลัง ขณะที่ “กอร์ปศักดิ์” หลบหน้าสื่อ ไม่ยอมปริปาก แต่ยันกับ ส.ส.พรรค “น้องชาย” ไม่มีส่วนเอี่ยวเรื่องโกง

วันนี้ (14 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุม ส.ส.กทม.ของพรรค โดยมี นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้ง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี และบรรดา ส.ส.กทม.ของพรรคเข้าร่วมประชุม นอกจากนี้ ยังมีการเชิญ นายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการชุมชนพอเพียงอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้ นายกอร์ปศักดิ์ ได้เดินทางออกไปก่อนในเวลา 10.30 น. และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ

สำหรับประเด็นสำคัญในการประชุมครั้งนี้ ทาง ส.ส.กทม.ได้ถามถึงหลักเกณฑ์ในการจัดซื้อในโครงการชุมชนพอเพียงดังกล่าว ซึ่งนายกอร์ปศักดิ์ ได้กล่าวยืนยันในที่ประชุม ว่า โครงการนี้ไม่เกี่ยวกับน้องชายของตน แต่ขบวนการที่ไม่หวังดี พยายามจะไปเจาะข้อมูลว่ามีการทุจริตในพื้นที่เขตจ.อยุธยา และพื้นที่ กทม. โดยโยงว่าโครงการดังกล่าวเมื่อเทียบกับโครงการเอสเอ็มแอลที่เป็นการโยนเงินให้กับท้องถิ่นแล้ว โครงการเอสเอ็มแอลยังดีกว่า เพราะมีการจัดซื้อเองโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ แต่สำหรับโครงการชุมชนพอเพียงนั้น มีเงื่อนไขให้ชุมชนต้องทำประชาคมและเสนอโครงการสั่งซื้อสินค้า รวมทั้งบริษัทสินค้าต่างๆ ก็จะมาเสนอขายของ ซึ่งก็ทำให้มีคนสมหวัง และผิดหวัง โดยหนึ่งในบริษัทที่ผิดหวัง เป็นเครือญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 1 ราย และเป็นบริษัทของอดีตนักการเมืองใหญ่ 1 ราย ที่เข้ามาเสนอขายของในโครงการดังกล่าว แต่ไม่ได้ จึงออกมาเปิดเผยเรื่องราว เพราะเสียผลประโยชน์ ซึ่งทางบรรดา ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่เห็นว่าหากมีการทุจริตมาก ก็ควรจัดการกับต้นตอปัญหาอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายกรณ์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการนัดหารือของ ส.ส.กทม.ทั้งหมด โดยมีหลายวาระ อาทิ การชี้แจงเกี่ยวกับการนำงบประมาณปี 53 ที่จะนำมาใช้ และผลกระทบต่อการใช้เงินงบประมาณ การรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการลงทุนรถไฟฟ้า สายสีม่วง ที่จะเชื่อมโยงการคมนาคมฝั่งธนบุรีเข้าสู่พื้นที่กทม.ชั้นใน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนไทยเข้มแข็ง 2555 โดยทำการเปิดตัวโครงการดังกล่าวในวันที่ 28 ส.ค.ที่จะถึงนี้

“จะมีการเปิดรับฟังความเห็นและปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในการดำเนินการโครงการชุมชนพอเพียง ซึ่งขอยืนยันว่าโครงการนี้ มีประโยชน์กับคน กทม.เกือบ 2,000 ชุมชน โดยในส่วนของโครงการชุมชนพอเพียง มีการหารือถึงกรอบการพิจารณาว่าจะพิจารณาข้อเสนอโครงการอย่างไรให้รัดกุม และตรงต่อความต้องการของประชาชนในชุมชน กทม.มากที่สุด ซึ่งจะนำความเห็นที่ได้รับไปพิจารณาปรับปรุงให้ตรงกับความต้องการ และคุ้มค่าต่อเม็ดเงินภาษีของประชาชน” นายกรณ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ได้มีการเสนอให้การอนุมัติจัดซื้ออุปกรณ์มีความรัดกุมและรอบคอบมากยิ่งขึ้นหรือไม่ นายกรณ์กล่าวว่า แน่นอน เมื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น เราต้องมีการปรับปรุง ซึ่งเป็นหน้าที่และภาระของผู้บริหารโครงการที่ต้องนำไปแก้ไข แต่อีกส่วนหนึ่งก็ต้องส่งเสริมแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการใช้เม็ดเงินส่วนนี้ด้วย ซึ่งในที่ประชุม ส.ส.กทม.ทุกเขตยืนยันว่าประชาชนในพื้นที่ยังคงต้องการโครงการดังกล่าว เพรามีประโยชน์ต่อชุมชน โดยเราจะร่วมมือกับทางกรุงเทพมหานคร ทำให้โครงการนี้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้แต่ละชุมชนนำเม็ดเงินไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายของรัฐบาลให้ได้

เมื่อถามย้ำว่าหลังจากมีการร้องเรียนว่าโครงการชุมชนพอเพียงมีการทุจริต ส.ส.กทม. มีการเสนอให้ระงับโครงการหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องระงับ เพราะเดินหน้ามาถึงขนาดนี้แล้ว โดยในทางแก้ไข ทำได้เพราะมีหลักเกณฑ์ต่างๆ โดยต้องทำให้เกิดความชัดเจนและเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องทำให้ได้มากกว่าโครงการเอสเอ็มแอลของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกอย่าง จะถูกนำกลับมาทบทวนในทุกขั้นตอนอย่างเป็นเชิงระบบ ซึ่งจะมีคณะกรรมการที่สามารถตรวจสอบได้ ทำหน้าที่คู่ขนานไปด้วย แต่ยังเชื่อว่าโครงการนี้ถ้าถูกนำไปใช้ในวิถีทางตามกรอบที่วางไว้ จะเป็นโครงการที่เกิดประโยชน์สูงสุด และจะช่วยสร้างความเจริญให้แก่ชุมชนทั่วประเทศ

เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้คน กทม.กลับมาเชื่อมั่นโครงการนี้ หลังจากที่มีเรื่องร้องเรียนการทุจริต นายกรณ์ กล่าวว่า ส.ส.กทม. ได้ฝากข้อคิดกับนายกอร์ปศักดิ์ไปว่า โครงการต้องมีความโปร่งใส และพร้อมให้ตรวจสอบ เพื่อสร้างความไว้วางใจให้แก่ประชาชน นอกจากนี้ โครงการที่พบว่าเกิดปัญหาเรื่องการจัดซื้อ จะต้องให้ยุติลง ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อตู้น้ำโซล่าเซลล์ หรืออะไรก็ตาม ให้ระงับการพิจารณาการจัดซื้อทั้งหมด จนกว่าจะมีความชัดเจนว่าโปร่งใสหรือไม่

เมื่อถามว่า ผู้ดูแลบริหารโครงการจำเป็นต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ใดๆ หรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ในส่วนรายละเอียดให้ทาง สพช. รวมถึงผู้ตรวจสอบได้ชี้แจงเรื่องนี้ดีกว่า แต่ตนฝากถึงรัฐบาลว่าให้รีบสร้างความเชื่อใจและความชัดเจนให้แก่โครงการนี้ เพื่อทำให้ประชาชนมีความมั่นใจว่า โครงการนี้สามารถดำเนินต่อไปได้ โดย นายกรณ์ปฏิเสธตอบคำถามกรณีที่ประชุมสภาฯ มีการเปิดเผยรายละเอียดการจัดซื้อรถไถนาในโครงการชุมชนพอเพียง มีราคาสูงเกินกว่าท้องตลาด ซึ่งนายกรณ์ปัดตอบ กล่าวแต่เพียงว่า วันนี้เป็นเพียงการประชุมของ ส.ส.กทม.เท่านั้น