ASTVผู้จัดการ-โซ่ข้อกลาง กลายเป็นโซ่ข้อกลวง หลังจิ๋วแบกสังขารเข้า พท. “มาร์ค” ยินดีคุย แต่เมินคุย “นช.แม้ว” ปิดทางนิรโทษกรรมอ้างเป็นเรื่องระดับประเทศ คุยส่วนตัวไม่ได้ เย้ยหนีออกนอเอง หากกลับต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม “เด็กห้อย”เย้ย“เพื่อไทย”ระส่ำไร้หัว ขุดของเก่าดึง “พ่อใหญ่” ร่วมสังฆกรรมกันพรรคขาลอย ซัดหาตำแหน่งการเมืองนั่งหลังตกเป็นผู้ต้องหา 7 ตุลาฯ “เด็กปชป.”เปรียบรถเสียศูนย์ แนะทำสี-ปะผุใหม่ คนเพื่อแม้วหวั่น จิ๋ว สละเรืออีก
วานนี้ (4 ต.ค.) รายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามเรื่องที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธที่กลับมาเล่นการเมือง และเป็นแกนนำสำคัญพรรคเพื่อไทย เพื่อต้องการมาเจรจาเรื่องปัญหาการเมือง ว่า ยังไม่ทราบ เรื่องการเจรจาหรือไม่อย่างไร แต่เห็นว่าพล.อ.ชวลิตเป็นถึงอดีตนายกฯ มีลักษณะบุคลิกที่ประนีประนอม ถ้าคุยกันจะเป็นเรื่องที่ดี ทั้งฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลก็ดีอยู่แล้ว แม้กระทั่ง ส.ส. ฝ่ายค้านที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม มีปัญหา ก็มาพบตนการเมืองก็ต้องมีการพูดคุยกัน
ส่วนจะโยงถึงพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าที่บอกจะมาเจรจา จะเจรจาเรื่องอะไร แต่ว่าจุดยืนของตนคือว่าเราก็ต้องยึดกฎหมายในการบริหารราชการแผ่นดิน หลักของการบริหารจัดการที่ดี ถ้ามาบอกจะเจรจากับตน ซึ่งตนไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรเกี่ยวข้อง ถ้าเป็นเรื่องที่ว่าเกี่ยวข้องส่วนตัว อย่างนี้ก็พูดคุยเจรจาได้ แต่ว่าถ้าเป็นเรื่องหลักของบ้านเมือง เป็นเรื่องของผลประโยชน์ของประชาชน จะเอาอะไรไปแลกก็ไม่ได้ทั้งนั้น
**ปิดทางนิรโทษกรรม นช.แม้ว
ถามว่า เจรจาเพื่อให้อดีตนายกฯ เดินทางกลับประเทศไทย คือการนิรโทษกรรม นายกฯกล่าวว่า ขอทำความเข้าใจก่อน ที่บอกให้กลับ จริง ๆ แล้วอดีตนายกฯเป็นฝ่ายที่ออกไป ไม่ใช่บางทีพูดกันจนไปเข้าใจว่าใครไปบังคับให้ท่านออกไป ไม่ใช่ ท่านออกไปเอง เนื่องจากศาลตัดสินว่าท่านผิด แล้วท่านก็ออกไป คำถามก็คือว่ากระบวนการ ก็ต้องเป็นกระบวนการของกฎหมาย ศาลตัดสินก็ต้องมาปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ส่วนจะมีกระบวนการขออภัยโทษอะไรต่าง ๆ ก็ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย ไม่ได้จะต้องไปเจรจาว่ากลับได้ไม่ได้ เพราะว่ารัฐบาลให้กลับหรือไม่ให้กลับ นิรโทษกรรมนี้มันเป็นเรื่องซึ่งต้องถามว่าเป็นกฎหมายที่จะเขียนขึ้นมาในลักษณะที่เขียนแบบไหน นิรโทษกรรมใคร เรื่องอะไร เพราะว่ากรณีของท่านอดีตนายกฯ ไม่ได้มีคดีเดียว มีอีกหลายคดี ซึ่งถ้ากลับมาก็จะต้องมาพิจารณาต่อ อย่างเมื่อสัปดาห์นี้มีคดีหวยบนดิน ที่ร่วมเป็นจำเลยอยู่ แต่ว่าท่านไม่อยู่ก็จำหน่ายคดีไป แต่ถ้าท่านกลับมาก็ต้องกลับมานี้อีก
ถามว่าดูเหมือนกับว่า ทางฝ่ายค้านก็ยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจน แต่เหมือนกับว่าต้องการให้เกิดยกเลิกกระบวนการที่แล้วมา ตั้งแต่รัฐประหารแล้วกลับมาตั้งต้นใหม่ นายกฯ กล่าวว่า คือเรียนอย่างนี้ ฝ่ายต่าง ๆ ในสังคม ก็หลายปีที่ผ่านมานี้ก็มีสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าไม่ถูกต้อง ไม่พอใจเยอะ ก็มีทั้งที่เห็นว่ามีเหตุผลเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ บางเรื่องก็อาจจะไม่เห็นด้วย มันไปขีดเส้นกันก็ไม่จบไม่สิ้น คือบางฝ่ายก็บอกว่าให้ขีดเส้นที่รัฐประหาร บางฝ่ายเขาบอกไม่ใช่ก่อนรัฐประหารมีเรื่องผิดตั้งเยอะแยะ ยังไม่ได้สะสาง คือมันไม่จบ เราก็ต้องยึดตามกระบวนการที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ถามย้ำว่า คือเดินตามกระบวนการก่อน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดินตามกระบวนการก่อน แล้วสิ่งที่อยากจะย้ำอีกครั้งก็คือว่า ถ้าเรายังให้สังคมหมกมุ่นอยู่กับตรงนี้ แล้วเมื่อไรเราจะเดินหน้า วันนี้ก็พยายามเดินหน้าในเรื่องของการแก้ปัญหา ทุกข์ของประชาชนจริง ๆ วันนี้ น้ำท่วม ความเดือดร้อนของประชาชนจากเศรษฐกิจ ก็กำลังเดินหน้าไป ถ้าเกิดไปเขย่าให้เกิดเงื่อนไข ให้เกิดความขัดแย้งกันอีก เพื่ออะไร
**ย้ำ พท.-ปชปช.คนละขั้ว
ถามย้ำว่า นายกฯอยากจะคุยกับพลเอก ชวลิตฯหรือพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ อย่างไรเพื่อให้บเนเมืองสงบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คือจริง ๆ คิดว่าความต้องการของใครมันก็แสดงออกกันอยู่แล้ว ส่วนพล.อ. ชวลิต ใรฐานะะประธานที่ปรึกษาหรืออะไร ถ้าท่านคิดว่าอยากจะพูดคุยสนทนากับตน ก็ยินดีไม่มีปัญหา
ถามว่า คำตอบนายกฯเมื่อวานนี้ที่ระบุว่า “ไม่มีวันที่เพื่อไทยกับประชาธิปัตย์จะจับมือกัน” นายกฯกล่าวว่า ในขณะนี้เราต้องเคารพกระบวนการของประชาธิปไตยเหมือนกัน การที่การแข่งขันในการหาเสียงเลือกตั้งกันมา ประชาธิปัตย์กับพลังประชาชนในขณะนั้นก็บอกกันว่าไม่มีการ คือเสนอตัวแข่งขันกัน ก็ฝ่ายหนึ่งเป็นอีกฝ่ายหนึ่งก็ตรวจสอบ อยู่ที่เสียงข้างมากของสภาฯ จะเป็นคนกำหนดว่าฝ่ายใดเป็นรัฐบาล ฝ่ายใดเป็นฝ่ายค้าน เราก็ทำงานอย่างนี้ ทีนี้วันข้างหน้าการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองจะเป็นอย่างไร การหาเสียงจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่ในระหว่างนี้ถามว่า จะให้เป็นรัฐบาลกันทุกพรรคไม่มีฝ่ายค้าน ตนไม่ได้คิดว่ามันเป็นคำตอบ มีแต่ประชาชนจะมองว่าเป็นเรื่องฮั้วกันของนักการเมืองอีกหรือเปล่า แล้วใครจะตรวจสอบในเรื่องปัญหาต่าง ๆ ความโปร่งใสการทุจริต ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในการบริหารราชการแผ่นดิน
เมื่อถามว่า คนเสื้อแดงเขาก็บอกว่าเดือนตุลานี้จะมีการเคลื่อนไหว มากขึ้นเรื่อย ๆ กว่าในช่วงที่ผ่านมา หรือเป็นเดือนแตกหักหรือไม่ประการใด นายกฯกล่าวว่า ก็เห็นเคลื่อนไหวอย่างนี้มาระยะหนึ่งแล้ว เป็นหน้าที่รัฐบาลดูแลความสงบเรียบร้อย และก็เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องการให้ประเทศเดินหน้า
**โฆษกมาร์ค เปรียบลุงจิ๋วรถหมดอายุ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้พรรคเพื่อไทยถึงเรื่องการยุติการวิพากษ์วิจารณ์พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ในฐานะเป็นผู้อาวุโสว่า หากเข้ามาสู่วงการเมือง ก็ต้องรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะเมื่อพล.อ.ชวลิต เคยล้างวงการการเมืองไป ก็ไม่เห็นมีใครมาวิจารณ์ แต่ตนเห็นอาการของคนพรรคเพื่อไทย ออกมากระโดดโลดเต้นดีใจ เหมือนลิงได้แก้ว โดยไม่รู้ว่าแก้วที่ได้มาร้าวไปแล้ว ทางเลือกของพล.อ.ชวลิต มีอยู่ 2 ทาง คือ เข้าวัดกับเลี้ยงหลาน แต่การเข้าวัดเข้าไปแล้ว เหลือแต่เลี้ยงหลาน แต่พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการที่เอา พล.อ.ชวลิต เข้ามาเป็นเรื่องที่เหมาะสม พรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นด้วย ยินดีต้อนรับ แต่ถ้าหากเปรียบเป็นรถ ก็เหมือนรถที่เคยเกิดอุบัติเหตุมาแล้ว คลัทช์ซีคด ต้องดัดใหม่ โดยพรรคเพื่อไทยจะนำไปเคาะ ปะผุ ไปโป๊วสี ทำใหม่ก็ไม่เป็นปัญหา สามารถทำงานกับพรรคเพื่อไทยได้
**ภูมิใจห้อยไม่หวั่น “จิ๋ว” คุมอีสาน
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต เป็นบุคลากรที่มีคุณค่าทางการเมือง แม้วัยจะมากแต่ไฟก็ยังมีอยู่ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเหมือนกับไม่มีผู้นำที่แท้จริง คือขาดหัวก็หวังว่า พล.อ.ชวลิต คงจะมาทำหน้าที่เป็นผู้นำของพรรคต่อไป แม้ว่าที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิตจะได้รับการทาบทามจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชิวัตรให้มาเป็นหัวหน้าพรรค แต่ในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณไปเลือกนายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นหัวหน้าพรรคแทน การที่พ.ต.ท.ทักษิณไปดึงพล.อ.ชวลิตให้มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย คงไม่เป็นเรื่องการเตรียมพร้อมในการเลือกตั้ง แต่เป็นการสร้างความ มั่นใจให้กับสมาชิกพรรคที่ค่อนข้างจะเรรวนหวั่นไหวว่า พรรคเพื่อไทยจะเดินไปทางใด สามารถหาบุคคลมาชี้นำว่าพรรคจะทิศทางใดหรือไม่ แต่ทั้งนี้ก็น่าเป็นห่วง เนื่องจาก พล.อ.ชวลิต มีวิธีคิดในการทำงานของท่าน ขณะที่ในพรรคเพื่อไทยยังค่อนข้าง ไม่เป็นเอกภาพกลัวว่า พล.อ.ชวลิตน้อยใจจะลาออกไป ก็เป็นที่น่าเสียดายแทน พรรคเพื่อไทย
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า วิธีการเลือกผู้แทนฯชาวอีสาน จะเลือกคนแล้วสามารถไปทำงานได้ มีนโยบายที่ดี เพราะฉะนั้นในช่วงที่พรรคความหวังใหม่มีนโยบายอีสานเขียวก็ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาก แต่เมื่อพรรคไทยรักไทย มีนโยบายออกมาเพื่อคนอีสาน คนอีสานแทนที่จะเลือกพรรคความหวังใหม่ก็มาเลือกพรรคไทยรักไทย วันนี้ประชาชนได้สัมผัสอย่างหนึ่งว่า รัฐบาลปัจจุบัน พรรคการเมืองที่สามารถ ทำงานให้กับพี่น้องได้เป็นรูปธรรมไม่ใช่พรรคความหวังใหม่ในอดีตหรือพรรคไทยรักไทยหรือพรรคพลังประชาชน และกลายมาเป็นพรรคเพื่อไทยแต่อาจจะเป็น พรรคภูมิใจไทย
นอกจากนี้ยังไม่เชื่อว่า พล.อ.ชวลิตจะเข้ามาเพื่อเปลี่ยนขั้ว แต่ก็อยู่ที่ว่าเวลานี้พรรคใดจะได้คะแนนเสียงมาก น้อย คงไม่ได้หมายความว่าใครเป็นหัวหน้าพรรค เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่า พรรคเพื่อไทย คนที่เป็นหัวหน้าที่แท้จริงคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ถามว่าวันนี้แรงชื่นชอบศรัทธาที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณกับ พล.อ.ชวลิต ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะมีมากกว่า พล.อ.ชวลิตเพราะฉะนั้นถ้าหวังว่า พล.อ.ชวลิตจะมาเป็นผู้นำเพื่อชนะการเลือกตั้งคงไม่น่าจะใช่ แต่คงเพื่อต้องการไม่ให้พรรคแกว่งเพราะขาดหัวเท่านั้นเอง
**สส.เพื่อแม้วหวั่นทิ้งปัญหาถอดใจ
นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯและคณะเข้ามาร่วมงานกับพรรคฯ คาดว่าการประชุมพรรควันที่6ต.ค.น่าจะมีการหารือยุทศาสสตร์เลือกตั้ง แต่โดยส่วนตัวยังคลางแคลงใจกับบทบาทของท่านอยู่เหมือนกัน ในอดีตสมัยท่านเป็นหัวหน้าพรรคความหวังใหม่และเป็นนายกฯ เมื่อโดนกระแสสังคมบีบมากๆ ท่านก็ตัดสินใจลาออกต่อมาร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย ท่านก็ออกไป ทั้งที่ปัญหายังไม่ได้รับการสะสางแก้ไขต่อมาอีกครั้งช่วงที่ร่วมงานกับพรรคพลังประชาชน ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี โดนข้อกล่าวหาเหตุการณ์7ต.ค.51 ท่านก็ลาออกไปก่อน แม้บางส่วนจะมองเป็นการแสดงปิริตก็ตาม
นายไชยากล่าวอีกว่า ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาได้เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิที่ดูไบ พบว่ายังมีความสุขดี ไม่ได้เป็นไปตามข่าวที่บอกว่าป่วย ซึ่งถือเป็นการใส่ร้าย ท่านยังดูแข็งแรงยิ้มแย้มแจ่มใส สุขภาพจิต สุขภาพใจดียามที่ท่านเห็นคนไปเยี่ยมเยียน ท่านยังมั่นใจเลยว่าจะได้กลับมารับใช้ประชาชนแน่นอนในโอกาสต่อไป หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น จะได้กลับไปอยู่กับประชาชน
**“เหนาะ” คิดวางมือการเมือง
ขณะที่ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงการที่ พล.อ.ชวลิต เข้าสมัครเป็น สมาชิกพรรคเพื่อไทย อย่างเป็นทางการ ว่า ขณะนี้ ขื่อแปบ้านเมืองพังหมดแล้ว คงรอเพียงแต่การประกาศวางมือทางการเมืองเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายเสนาะ กล่าวย้ำว่า สาเหตุของการคิดที่จะประกาศวางมือ ทางการเมืองนั้น ไม่เกี่ยวกับสภาพร่างกาย เพราะตนเองยังมีสุขภาพร่างกาย ที่แข็งแรงดีอยู่ เพียงแต่เบื่อกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเท่านั้นเอง
**“นพดล” ยัน “แม้ว” ยังหลบดูไบ
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ระหว่างการตัดสินใจย้ายที่พำนักไปประเทศอื่น เนื่องจากฑูตไทยถูกกดันว่า ได้ตรวจสอบ กับพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่ อย่างเป็นปกติที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และยังสามารถเดินทางไปไหนมาไหน ได้ตามปกติ ไม่มีการกดดันใดๆจากใครทั้งสิ้น
วานนี้ (4 ต.ค.) รายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามเรื่องที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธที่กลับมาเล่นการเมือง และเป็นแกนนำสำคัญพรรคเพื่อไทย เพื่อต้องการมาเจรจาเรื่องปัญหาการเมือง ว่า ยังไม่ทราบ เรื่องการเจรจาหรือไม่อย่างไร แต่เห็นว่าพล.อ.ชวลิตเป็นถึงอดีตนายกฯ มีลักษณะบุคลิกที่ประนีประนอม ถ้าคุยกันจะเป็นเรื่องที่ดี ทั้งฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลก็ดีอยู่แล้ว แม้กระทั่ง ส.ส. ฝ่ายค้านที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม มีปัญหา ก็มาพบตนการเมืองก็ต้องมีการพูดคุยกัน
ส่วนจะโยงถึงพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าที่บอกจะมาเจรจา จะเจรจาเรื่องอะไร แต่ว่าจุดยืนของตนคือว่าเราก็ต้องยึดกฎหมายในการบริหารราชการแผ่นดิน หลักของการบริหารจัดการที่ดี ถ้ามาบอกจะเจรจากับตน ซึ่งตนไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรเกี่ยวข้อง ถ้าเป็นเรื่องที่ว่าเกี่ยวข้องส่วนตัว อย่างนี้ก็พูดคุยเจรจาได้ แต่ว่าถ้าเป็นเรื่องหลักของบ้านเมือง เป็นเรื่องของผลประโยชน์ของประชาชน จะเอาอะไรไปแลกก็ไม่ได้ทั้งนั้น
**ปิดทางนิรโทษกรรม นช.แม้ว
ถามว่า เจรจาเพื่อให้อดีตนายกฯ เดินทางกลับประเทศไทย คือการนิรโทษกรรม นายกฯกล่าวว่า ขอทำความเข้าใจก่อน ที่บอกให้กลับ จริง ๆ แล้วอดีตนายกฯเป็นฝ่ายที่ออกไป ไม่ใช่บางทีพูดกันจนไปเข้าใจว่าใครไปบังคับให้ท่านออกไป ไม่ใช่ ท่านออกไปเอง เนื่องจากศาลตัดสินว่าท่านผิด แล้วท่านก็ออกไป คำถามก็คือว่ากระบวนการ ก็ต้องเป็นกระบวนการของกฎหมาย ศาลตัดสินก็ต้องมาปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ส่วนจะมีกระบวนการขออภัยโทษอะไรต่าง ๆ ก็ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย ไม่ได้จะต้องไปเจรจาว่ากลับได้ไม่ได้ เพราะว่ารัฐบาลให้กลับหรือไม่ให้กลับ นิรโทษกรรมนี้มันเป็นเรื่องซึ่งต้องถามว่าเป็นกฎหมายที่จะเขียนขึ้นมาในลักษณะที่เขียนแบบไหน นิรโทษกรรมใคร เรื่องอะไร เพราะว่ากรณีของท่านอดีตนายกฯ ไม่ได้มีคดีเดียว มีอีกหลายคดี ซึ่งถ้ากลับมาก็จะต้องมาพิจารณาต่อ อย่างเมื่อสัปดาห์นี้มีคดีหวยบนดิน ที่ร่วมเป็นจำเลยอยู่ แต่ว่าท่านไม่อยู่ก็จำหน่ายคดีไป แต่ถ้าท่านกลับมาก็ต้องกลับมานี้อีก
ถามว่าดูเหมือนกับว่า ทางฝ่ายค้านก็ยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจน แต่เหมือนกับว่าต้องการให้เกิดยกเลิกกระบวนการที่แล้วมา ตั้งแต่รัฐประหารแล้วกลับมาตั้งต้นใหม่ นายกฯ กล่าวว่า คือเรียนอย่างนี้ ฝ่ายต่าง ๆ ในสังคม ก็หลายปีที่ผ่านมานี้ก็มีสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าไม่ถูกต้อง ไม่พอใจเยอะ ก็มีทั้งที่เห็นว่ามีเหตุผลเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ บางเรื่องก็อาจจะไม่เห็นด้วย มันไปขีดเส้นกันก็ไม่จบไม่สิ้น คือบางฝ่ายก็บอกว่าให้ขีดเส้นที่รัฐประหาร บางฝ่ายเขาบอกไม่ใช่ก่อนรัฐประหารมีเรื่องผิดตั้งเยอะแยะ ยังไม่ได้สะสาง คือมันไม่จบ เราก็ต้องยึดตามกระบวนการที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ถามย้ำว่า คือเดินตามกระบวนการก่อน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดินตามกระบวนการก่อน แล้วสิ่งที่อยากจะย้ำอีกครั้งก็คือว่า ถ้าเรายังให้สังคมหมกมุ่นอยู่กับตรงนี้ แล้วเมื่อไรเราจะเดินหน้า วันนี้ก็พยายามเดินหน้าในเรื่องของการแก้ปัญหา ทุกข์ของประชาชนจริง ๆ วันนี้ น้ำท่วม ความเดือดร้อนของประชาชนจากเศรษฐกิจ ก็กำลังเดินหน้าไป ถ้าเกิดไปเขย่าให้เกิดเงื่อนไข ให้เกิดความขัดแย้งกันอีก เพื่ออะไร
**ย้ำ พท.-ปชปช.คนละขั้ว
ถามย้ำว่า นายกฯอยากจะคุยกับพลเอก ชวลิตฯหรือพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ อย่างไรเพื่อให้บเนเมืองสงบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คือจริง ๆ คิดว่าความต้องการของใครมันก็แสดงออกกันอยู่แล้ว ส่วนพล.อ. ชวลิต ใรฐานะะประธานที่ปรึกษาหรืออะไร ถ้าท่านคิดว่าอยากจะพูดคุยสนทนากับตน ก็ยินดีไม่มีปัญหา
ถามว่า คำตอบนายกฯเมื่อวานนี้ที่ระบุว่า “ไม่มีวันที่เพื่อไทยกับประชาธิปัตย์จะจับมือกัน” นายกฯกล่าวว่า ในขณะนี้เราต้องเคารพกระบวนการของประชาธิปไตยเหมือนกัน การที่การแข่งขันในการหาเสียงเลือกตั้งกันมา ประชาธิปัตย์กับพลังประชาชนในขณะนั้นก็บอกกันว่าไม่มีการ คือเสนอตัวแข่งขันกัน ก็ฝ่ายหนึ่งเป็นอีกฝ่ายหนึ่งก็ตรวจสอบ อยู่ที่เสียงข้างมากของสภาฯ จะเป็นคนกำหนดว่าฝ่ายใดเป็นรัฐบาล ฝ่ายใดเป็นฝ่ายค้าน เราก็ทำงานอย่างนี้ ทีนี้วันข้างหน้าการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองจะเป็นอย่างไร การหาเสียงจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่ในระหว่างนี้ถามว่า จะให้เป็นรัฐบาลกันทุกพรรคไม่มีฝ่ายค้าน ตนไม่ได้คิดว่ามันเป็นคำตอบ มีแต่ประชาชนจะมองว่าเป็นเรื่องฮั้วกันของนักการเมืองอีกหรือเปล่า แล้วใครจะตรวจสอบในเรื่องปัญหาต่าง ๆ ความโปร่งใสการทุจริต ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในการบริหารราชการแผ่นดิน
เมื่อถามว่า คนเสื้อแดงเขาก็บอกว่าเดือนตุลานี้จะมีการเคลื่อนไหว มากขึ้นเรื่อย ๆ กว่าในช่วงที่ผ่านมา หรือเป็นเดือนแตกหักหรือไม่ประการใด นายกฯกล่าวว่า ก็เห็นเคลื่อนไหวอย่างนี้มาระยะหนึ่งแล้ว เป็นหน้าที่รัฐบาลดูแลความสงบเรียบร้อย และก็เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องการให้ประเทศเดินหน้า
**โฆษกมาร์ค เปรียบลุงจิ๋วรถหมดอายุ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้พรรคเพื่อไทยถึงเรื่องการยุติการวิพากษ์วิจารณ์พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ในฐานะเป็นผู้อาวุโสว่า หากเข้ามาสู่วงการเมือง ก็ต้องรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะเมื่อพล.อ.ชวลิต เคยล้างวงการการเมืองไป ก็ไม่เห็นมีใครมาวิจารณ์ แต่ตนเห็นอาการของคนพรรคเพื่อไทย ออกมากระโดดโลดเต้นดีใจ เหมือนลิงได้แก้ว โดยไม่รู้ว่าแก้วที่ได้มาร้าวไปแล้ว ทางเลือกของพล.อ.ชวลิต มีอยู่ 2 ทาง คือ เข้าวัดกับเลี้ยงหลาน แต่การเข้าวัดเข้าไปแล้ว เหลือแต่เลี้ยงหลาน แต่พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการที่เอา พล.อ.ชวลิต เข้ามาเป็นเรื่องที่เหมาะสม พรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นด้วย ยินดีต้อนรับ แต่ถ้าหากเปรียบเป็นรถ ก็เหมือนรถที่เคยเกิดอุบัติเหตุมาแล้ว คลัทช์ซีคด ต้องดัดใหม่ โดยพรรคเพื่อไทยจะนำไปเคาะ ปะผุ ไปโป๊วสี ทำใหม่ก็ไม่เป็นปัญหา สามารถทำงานกับพรรคเพื่อไทยได้
**ภูมิใจห้อยไม่หวั่น “จิ๋ว” คุมอีสาน
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต เป็นบุคลากรที่มีคุณค่าทางการเมือง แม้วัยจะมากแต่ไฟก็ยังมีอยู่ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเหมือนกับไม่มีผู้นำที่แท้จริง คือขาดหัวก็หวังว่า พล.อ.ชวลิต คงจะมาทำหน้าที่เป็นผู้นำของพรรคต่อไป แม้ว่าที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิตจะได้รับการทาบทามจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชิวัตรให้มาเป็นหัวหน้าพรรค แต่ในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณไปเลือกนายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นหัวหน้าพรรคแทน การที่พ.ต.ท.ทักษิณไปดึงพล.อ.ชวลิตให้มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย คงไม่เป็นเรื่องการเตรียมพร้อมในการเลือกตั้ง แต่เป็นการสร้างความ มั่นใจให้กับสมาชิกพรรคที่ค่อนข้างจะเรรวนหวั่นไหวว่า พรรคเพื่อไทยจะเดินไปทางใด สามารถหาบุคคลมาชี้นำว่าพรรคจะทิศทางใดหรือไม่ แต่ทั้งนี้ก็น่าเป็นห่วง เนื่องจาก พล.อ.ชวลิต มีวิธีคิดในการทำงานของท่าน ขณะที่ในพรรคเพื่อไทยยังค่อนข้าง ไม่เป็นเอกภาพกลัวว่า พล.อ.ชวลิตน้อยใจจะลาออกไป ก็เป็นที่น่าเสียดายแทน พรรคเพื่อไทย
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า วิธีการเลือกผู้แทนฯชาวอีสาน จะเลือกคนแล้วสามารถไปทำงานได้ มีนโยบายที่ดี เพราะฉะนั้นในช่วงที่พรรคความหวังใหม่มีนโยบายอีสานเขียวก็ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาก แต่เมื่อพรรคไทยรักไทย มีนโยบายออกมาเพื่อคนอีสาน คนอีสานแทนที่จะเลือกพรรคความหวังใหม่ก็มาเลือกพรรคไทยรักไทย วันนี้ประชาชนได้สัมผัสอย่างหนึ่งว่า รัฐบาลปัจจุบัน พรรคการเมืองที่สามารถ ทำงานให้กับพี่น้องได้เป็นรูปธรรมไม่ใช่พรรคความหวังใหม่ในอดีตหรือพรรคไทยรักไทยหรือพรรคพลังประชาชน และกลายมาเป็นพรรคเพื่อไทยแต่อาจจะเป็น พรรคภูมิใจไทย
นอกจากนี้ยังไม่เชื่อว่า พล.อ.ชวลิตจะเข้ามาเพื่อเปลี่ยนขั้ว แต่ก็อยู่ที่ว่าเวลานี้พรรคใดจะได้คะแนนเสียงมาก น้อย คงไม่ได้หมายความว่าใครเป็นหัวหน้าพรรค เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่า พรรคเพื่อไทย คนที่เป็นหัวหน้าที่แท้จริงคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ถามว่าวันนี้แรงชื่นชอบศรัทธาที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณกับ พล.อ.ชวลิต ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะมีมากกว่า พล.อ.ชวลิตเพราะฉะนั้นถ้าหวังว่า พล.อ.ชวลิตจะมาเป็นผู้นำเพื่อชนะการเลือกตั้งคงไม่น่าจะใช่ แต่คงเพื่อต้องการไม่ให้พรรคแกว่งเพราะขาดหัวเท่านั้นเอง
**สส.เพื่อแม้วหวั่นทิ้งปัญหาถอดใจ
นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯและคณะเข้ามาร่วมงานกับพรรคฯ คาดว่าการประชุมพรรควันที่6ต.ค.น่าจะมีการหารือยุทศาสสตร์เลือกตั้ง แต่โดยส่วนตัวยังคลางแคลงใจกับบทบาทของท่านอยู่เหมือนกัน ในอดีตสมัยท่านเป็นหัวหน้าพรรคความหวังใหม่และเป็นนายกฯ เมื่อโดนกระแสสังคมบีบมากๆ ท่านก็ตัดสินใจลาออกต่อมาร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย ท่านก็ออกไป ทั้งที่ปัญหายังไม่ได้รับการสะสางแก้ไขต่อมาอีกครั้งช่วงที่ร่วมงานกับพรรคพลังประชาชน ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี โดนข้อกล่าวหาเหตุการณ์7ต.ค.51 ท่านก็ลาออกไปก่อน แม้บางส่วนจะมองเป็นการแสดงปิริตก็ตาม
นายไชยากล่าวอีกว่า ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาได้เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิที่ดูไบ พบว่ายังมีความสุขดี ไม่ได้เป็นไปตามข่าวที่บอกว่าป่วย ซึ่งถือเป็นการใส่ร้าย ท่านยังดูแข็งแรงยิ้มแย้มแจ่มใส สุขภาพจิต สุขภาพใจดียามที่ท่านเห็นคนไปเยี่ยมเยียน ท่านยังมั่นใจเลยว่าจะได้กลับมารับใช้ประชาชนแน่นอนในโอกาสต่อไป หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น จะได้กลับไปอยู่กับประชาชน
**“เหนาะ” คิดวางมือการเมือง
ขณะที่ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงการที่ พล.อ.ชวลิต เข้าสมัครเป็น สมาชิกพรรคเพื่อไทย อย่างเป็นทางการ ว่า ขณะนี้ ขื่อแปบ้านเมืองพังหมดแล้ว คงรอเพียงแต่การประกาศวางมือทางการเมืองเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายเสนาะ กล่าวย้ำว่า สาเหตุของการคิดที่จะประกาศวางมือ ทางการเมืองนั้น ไม่เกี่ยวกับสภาพร่างกาย เพราะตนเองยังมีสุขภาพร่างกาย ที่แข็งแรงดีอยู่ เพียงแต่เบื่อกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเท่านั้นเอง
**“นพดล” ยัน “แม้ว” ยังหลบดูไบ
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ระหว่างการตัดสินใจย้ายที่พำนักไปประเทศอื่น เนื่องจากฑูตไทยถูกกดันว่า ได้ตรวจสอบ กับพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่ อย่างเป็นปกติที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และยังสามารถเดินทางไปไหนมาไหน ได้ตามปกติ ไม่มีการกดดันใดๆจากใครทั้งสิ้น
