รองนายกฯ ด้านความมั่นคง โยนลูกกระทรวงต่างประเทศแถลงการณ์ตอบโต้กัมพูชา ต้องไม่ซ้ำเติมสถานการณ์ ท่องคาถารายวันต้องรักษาอธิปไตยเหนือพื้นที่ทับซ้อนให้ได้ เกรงใจเขมรเปิดให้ใช้พื้นที่ร่วมกัน
วันนี้ (30 ก.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาเรื่องการก่อสร้างถนนเข้าไปในกัมพูชา และมีการตอบโต้กันระหว่างไทยกัมพูชาว่า เหมือนเดิมเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคือเมื่อกัมพูชาไปปรับ ปรุงถนน ทางฝ่ายไทยเองก็มีการทักท้วงไปแล้ว ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ทำไปตามปกติ แต่เมื่อถนนอยู่ในพื้นที่ทับซ้อนและไทยเองก็เข้าไปใช้ด้วยเพราะจะไปถือว่าเป็นถนนของใครคงไม่ได้ เมื่อถามว่าจะดำเนินการอย่างไรกับแถลงการณ์ที่กัมพูชาออกมา รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้พิจารณาว่า แค่ไหน เพียงไร จึงจะจำเป็นที่จะต้องเนินการ ไทยมีภาระหน้าที่ที่จะต้องดูแลรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ดังนั้นก็ทำไปตามหน้าที่ให้ดีที่สุด กระทรวงต่างประเทศจะเป็นผู้ติดตามดูแลในเรื่องเหล่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำให้ความสัมพันธ์เสื่อมลงหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่หรอก อย่างที่บอกจุดยืนของรัฐบาลไทยก็คือเราพยายามที่รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านทุกด้านเพราะฉะนั้นการพูดจาอะไรเราก็ระมัดระวังไม่ให้กระทบกระเทือกใจกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะละเลยการปกปักรักษาอาณาเขตหรืออธิปไตยของเรา เราก็ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ แต่เราไม่ต้องไปทะเลาะกับเขา
เมื่อถามว่าก่อนที่การเมืองจะรุนแรงขึ้น รัฐบาลได้ดูถึงผลประโยชน์ของคนไทยในกัมพูชาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้าพวกเราตั้งหลักให้ดี ไม่ไปขยายให้เหตุการณ์ดูรุนแรง น่ากลัว ความตึงเครียดก็น่าจะลดลงได้เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้วไม่มีอะไรที่จะต้องเป็นเรื่องร้ายแรงที่จะทำให้ความสัมพันธ์ เสียหาย การทำมาหากินของทั้ง 2 ประเทศก็จะเป็นปกติดี เมื่อถามว่าที่ผ่านมาไม่เห็นทางกระทรวงการต่างประเทศทำอะไรที่จะทำให้ปัญหาที่คาราคาซังอยู่เรียบร้อยได้ รองนายกฯ กล่าวว่า เขาก็ดูอยู่ มีอะไรพวกตนก็ช่วย ๆ กันไป ใครที่จะทำอะไรให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ก็ช่วยกันทำ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ากระทรวงการต่างประเทศเขาละเลยงานในหน้าที่เขา เพราะเขาก็ยังทำหน้าที่ของเขาอยู่
นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ที่ตัดสินให้นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีและนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ มีความผิดในคดีเขาพระวิหารว่า ความจริงก็ติดตามข่าวตามปกติ ซึ่งการพิจารณาของ ป.ป.ช. ทุกอย่างก็มีเหตุมีผลอยู่แล้ว ตนคงไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์อะไร ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โพสต์ทวิสเตอร์บอกว่า ป.ป.ช.ทำเกินไปนั้นนายสุเทพ กล่าวว่า “คุณทักษิณ เขาก็มีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว เขาก็ไม่ยอมรับศาลไทย ไม่ยอมรับองค์กรอิสระใด ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีอยู่ก่อนแล้วทั้งสิ้นตั้งแต่คุณทักษิณยังอยู่ และวันนั้นคุณทักษิณก็ใช้สิ่งเหล่านี้และยอมรับสิ่งเหล่านี้ แต่เมื่อองค์กรเหล่านี้ สถาบันเหล่านี้มีคำวินิจฉัยที่กระทบกระเทือนต่อคุณทักษิณ และบริวาร ก็มักจะออกมาแสดงอาการที่ไม่พอใจ ไม่ยอมรับ ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้ว” นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุผลหนึ่งของ ป.ป.ช.ที่บอกว่าเป็นเพราะนายสมัคร ไปสนับสนุนเรื่องการเลือกตั้งในกัมพูชามองประเด็นนี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเพราะไม่ได้ติดตามรายละเอียด หรือข้อมูลหลักฐานที่เขาเอาไปใช้ในการพิจารณาวินิจฉัย เมื่อถามว่าการที่ ป.ป.ช.ไปก้าวล่วงเรื่องการเมืองของประเทศเพื่อนบ้าน กรณีที่อ้างว่าไปช่วยให้สมเด็จฮุนเซนชนะการเลือกตั้งนั้นดูแล้วแปลกๆ หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่าไม่ทราบจริงๆ และตนก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่วิจารณ์องค์กรกลางอยู่แล้ว เมื่อถามว่าคิดว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งยิ่งขึ้นหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนยังไม่มองไปถึงขนาดนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ทางกลุ่มพันธมิตรฯยังคงมีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับปราสาทพระวิหารอยู่ คิดว่าจะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ไปอีกหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คิดว่าทางกลุ่มพันธมิตรฯ เขาก็ต้องระมัดระวังเรื่องนี้เพราะ นายกฯก็ขอร้องหลายครั้งว่า หากจะดำเนินการใด ๆ ก็ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อย่าให้เหตุการณ์ลุกลามใหญ่โตไป เพราะมันจะเสียหาย