โฆษกพรรคภูมิใจไทย เย้ยเพื่อไทยระส่ำหนักขุดของเก่าดึง “บิ๊กจิ๋ว” สวมหัวโขนตามบัญชา “พ่อแม้ว” เหน็บจำเป็นต้องหาตำแหน่งการเมืองนั่งหลังตกเป็นผู้ต้องหาของ ป.ป.ช.คดี 7 ตุลา ย้อนถามจะตอบสังคมอย่างไรในฐานะลูกป๋า หลังแปรพักตร์จับมือเพื่อไทย-เสื้อแดงจาบจ้วงสถาบันหลัก
วันนี้ (4 ต.ค.) นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ตัดสินใจเข้าเป็นสมาชิกพรรคพรรคเพื่อไทยว่า ต้องยอมรับว่า พล.อ.ชวลิต เป็นบุคลากรที่มีคุณค่าทางการเมือง แม้วัยจะมากแต่ไฟก็ยังมีอยู่ ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเหมือนกับไม่มีผู้นำที่แท้จริง คือขาดหัวก็หวังว่า พล.อ.ชวลิตคงจะมาทำหน้าที่เป็นผู้นำของพรรคต่อไป แม้ว่าที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิตจะได้รับการทาบทามจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชิวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้มาเป็นหัวหน้าพรรค แต่ในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณไปเลือกนายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นหัวหน้าพรรคแทน
เมื่อถามว่ามองหรือไม่ว่าการที่พรรคเพื่อไทยดึง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มาช่วยงานเต็มที่และเปิดตัวมากขึ้นเหมือนเป็นการเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า คงไม่ใช่เป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง แต่ต้องการที่จะสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกพรรค ที่ค่อนข้างจะเรรวนหวั่นไหวว่า พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปทางใด สามารถที่จะมีบุคคลมาชี้นำว่าพรรคจะทิศทางใด แต่ทั้งนี้ก็น่าเป็นห่วง เนื่องจาก พล.อ.ชวลิต มีวิธีคิดในการทำงานของท่าน ขณะที่ในพรรคเพื่อไทย ยังค่อนข้างไม่เป็นเอกภาพกลัวว่า พล.อ.ชวลิตน้อยใจจะลาออกไป ก็เป็นที่น่าเสียดายแทนพรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนว่า พล.อ.ชวลิต จะมาดูแลพื้นที่อีสานโดยตรง ตรงนี้พรรคภูมิใจไทยจะทำอย่างไร นายศุภชัยกล่าวว่า ลักษณะวิธีการเลือกผู้แทน หรือเลือกพรรคการเมืองของพี่น้องชาวอีสาน หลักสำคัญของคนอีสาน คือ เลือกคนแล้วสามารถไปทำงานได้ มีนโยบายที่ดี เพราะฉะนั้น ในช่วงที่พรรคความหวังใหม่มีนโยบายอีสานเขียวก็ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาก แต่เมื่อพรรคไทยรักไทยมีนโยบายคนอีสานแทนที่จะเลือกพรรคความหวังใหม่ก็มาเลือกพรรคไทยรักไทย วันนี้ประชาชนได้สัมผัสอย่างหนึ่งว่ารัฐบาลปัจจุบัน พรรคการเมืองที่สามารถทำงานให้กับพี่น้องได้เป็นรูปธรรม ไม่ใช่พรรคความหวังใหม่ในอดีตหรือพรรคไทยรักไทยหรือพรรคพลังประชาชนและกลายมาเป็นพรรคเพื่อไทย แต่อาจจะเป็นพรรคภูมิใจไทย
“มาวันนี้ก็ต้องทำงานแข่งกัน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าพรรคการเมืองน่าจะทำประโยชน์ให้เขาได้มากกว่ากัน พรรคภูมิใจไทยถือว่าการที่พรรคเพื่อไทยมีหัวหน้าพรรคแล้ว ไปบอกว่าจะทำโน่นทำนี้ให้กับพี่น้องประชาชน ขณะที่พรรคภูมิไทยเองได้ทำให้เห็นก็เลยไม่กลัว เพราะว่าพี่น้องประชาชนคนอีสานฉลาดในการที่จะเลือก อย่างไรก็ตาม ยังเป็นที่แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยยังมีกลุ่มทหาร โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อน พ.ต.ท.ทักษิณ ยังผู้ที่ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยพอสมควร ก็ถือว่าเป็นการผนึกกำลัง แต่วันนี้ทหารกำลังหลักไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ รวมถึงเวลานี้พรรคเพื่อไทยก็แยกกันไม่ออกว่าพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มเสื้อแดง คำถามคือกลุ่มเสื้อแดงรวมถึงพรรคเพื่อไทยที่มีพฤติการณ์ค่อนข้างชัดว่า เป็นปฏิปักษ์กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ พล.อ.เปรมเป็นที่เคารพรักของทหารจำนวนมาก รวมถึง พล.อ.ชวลิต ที่เคารพท่านด้วย ถามว่าวันนี้ พล.อ.ชวลิตจะไปกำหนดบทบาทท่าทีพรรคเพื่อไทยอย่างไร ที่จะไม่มีท่าทีสร้างความรู้สึกแคลงใจของ พล.อ.เปรม ในเรื่องที่ พล.อ.ชวลิตไปอยู่พรรคเพื่อไทย” นายศุภชัยกล่าว
เมื่อถามว่าเป็นการฉวยโอกาสเปิดจังหวะ ช่วงที่ผู้นำรัฐบาลกำลังเจอมรสุม นายศุภชัยกล่าวว่า คงไม่ใช่ แต่เป็นจังหวะที่มีสถานการณ์บางอย่างที่ทำให้ พล.อ.ชวลิต ต้องตัดสินใจกลับเข้ามาและหาช่องทางในการลงเล่นการเมือง เพราะท่านเองก็ประสบวิบากกรรมเรื่องของ 7 ต.ค.ตกเป็นผู้ต้องหาของ ป.ป.ช. ซึ่งท่านเองต้องหาสถานะทางการเมืองแทนที่จะขาลอย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรคเพื่อไทยดึง พล.อ.ชวลิตเข้ามาร่วมพรรคประสานพรรคร่วมเพื่อที่จะเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาล และคิดว่าจะมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะนำพาให้พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลครั้งหน้า นายศุภชัยกล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่า พล.อ.ชวลิตจะเข้ามาเพื่อเปลี่ยนขั้ว แต่ก็อยู่ที่ว่าเวลานี้พรรคใดจะได้คะแนนเสียงมากน้อย คงไม่ได้หมายความว่าใครเป็นหัวหน้าพรรค เพราะใครๆ ก็รู้พรรคเพื่อไทยคนที่เป็นหัวหน้าที่แท้จริง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ถามว่าวันนี้แรงชื่นชอบศรัทธาที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ กับ พล.อ.ชวลิต ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะมี พล.อ.ชวลิต เพราะฉะนั้นถ้าหวังว่า พล.อ.ชวลิตจะมาเป็นผู้นำเพื่อชนะการเลือกตั้งคงไม่น่าจะใช่ แต่คงเพื่อต้องการไม่ให้พรรคแกว่งเพราะขาดหัวเท่านั้นเอง
