ASTVผู้จัดการรายวัน – “วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ “ โชว์ฝีมือก่อนอำลาตำแหน่งผลงานจัดเก็บรายได้ 3 เดือนสุดท้ายพุ่งทะลุเป้า ฝากอธิบดีคนใหม่สานต่องานรับหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศแทนภาระกิจจัดเก็บภาษีและแก้ปัญหาทุจริต
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 52 ที่กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งอีกครั้งหนึ่งนั้น สามารถจัดเก็บรายได้ศุลกากรเพิ่มขึ้น 1,057 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.2% โดยภาพรวม 3 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 52 กรมฯ สามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมากว่า 13,000 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีจัดเก็บรายได้ถึง 79,500 ล้านบาท แม้ว่าจะยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 99,600 ล้านบาท แต่จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้ยอดการส่งออกนำเข้าลดลง แต่ทั้งนี้ยังถือว่าสูงกว่าเป้าหมายใหม่ที่เพิ่งปรับไปเมื่อก.ค.ที่ผ่านมา ที่ 76,500 ล้านบาท
โดยเดือนก.ค.ที่ผ่านมา กรมฯ จัดเก็บรายได้รวม 26,567 ล้านบาท สูงกว่าค่าเฉลี่ยช่วงครึ่งปีแรก 4,372 ล้านบาท เดือนส.ค.จัดเก็บรายได้รวม 25,906 ล้านบาทสูงกว่าค่าเฉลี่ยครึ่งปีแรก 3,711 ล้านบาท เท่ากับว่าช่วง 2 เดือนดังกล่าวนี้กรมศุลกากรจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นรวม 8,083 ล้านบาท เทียบกับค่าเฉลี่ยครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 1,769 ล้านบาท และคาดว่าเดือนก.ย.นี้จะเก็บรายได้ 7,500 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 3 เดือนหลังมีรายได้เดือนละ 7,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของช่วง 6 เดือนแรกของปี 52 ที่เก็บได้ 5,800 ล้านบาท หรือสูงขึ้นเดือนละ 1,200 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่ามีการนำเข้าสูงขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับกรมฯมีประสิทธิภาพในการจัดเก็บเพิ่มขึ้นด้วย
“จากนี้ไป เป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมศุลกากรคนใหม่ที่จะเข้ามาสานงานต่อเนื่องให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการปรับบทบาทจากผู้จัดเก็บรายได้ มาเป็นผู้อำนวยความสะดวกทางการค้าให้แก่ภาคเอกชน ส่วนเรื่องการทุจริตต่าง ๆ นั้น ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามที่จะปรับปรุงระบบให้รัดกุม เพื่อปิดช่องทางให้ได้มากที่สุด ส่วนเรื่องคนนั้น เป็นปัญหาที่คงแก้ยาก แต่ทั้งนี้จะพยายามปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้รัดกุมมากขึ้น”
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 52 ที่กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งอีกครั้งหนึ่งนั้น สามารถจัดเก็บรายได้ศุลกากรเพิ่มขึ้น 1,057 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.2% โดยภาพรวม 3 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 52 กรมฯ สามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมากว่า 13,000 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีจัดเก็บรายได้ถึง 79,500 ล้านบาท แม้ว่าจะยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 99,600 ล้านบาท แต่จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้ยอดการส่งออกนำเข้าลดลง แต่ทั้งนี้ยังถือว่าสูงกว่าเป้าหมายใหม่ที่เพิ่งปรับไปเมื่อก.ค.ที่ผ่านมา ที่ 76,500 ล้านบาท
โดยเดือนก.ค.ที่ผ่านมา กรมฯ จัดเก็บรายได้รวม 26,567 ล้านบาท สูงกว่าค่าเฉลี่ยช่วงครึ่งปีแรก 4,372 ล้านบาท เดือนส.ค.จัดเก็บรายได้รวม 25,906 ล้านบาทสูงกว่าค่าเฉลี่ยครึ่งปีแรก 3,711 ล้านบาท เท่ากับว่าช่วง 2 เดือนดังกล่าวนี้กรมศุลกากรจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นรวม 8,083 ล้านบาท เทียบกับค่าเฉลี่ยครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 1,769 ล้านบาท และคาดว่าเดือนก.ย.นี้จะเก็บรายได้ 7,500 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 3 เดือนหลังมีรายได้เดือนละ 7,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของช่วง 6 เดือนแรกของปี 52 ที่เก็บได้ 5,800 ล้านบาท หรือสูงขึ้นเดือนละ 1,200 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่ามีการนำเข้าสูงขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับกรมฯมีประสิทธิภาพในการจัดเก็บเพิ่มขึ้นด้วย
“จากนี้ไป เป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมศุลกากรคนใหม่ที่จะเข้ามาสานงานต่อเนื่องให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการปรับบทบาทจากผู้จัดเก็บรายได้ มาเป็นผู้อำนวยความสะดวกทางการค้าให้แก่ภาคเอกชน ส่วนเรื่องการทุจริตต่าง ๆ นั้น ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามที่จะปรับปรุงระบบให้รัดกุม เพื่อปิดช่องทางให้ได้มากที่สุด ส่วนเรื่องคนนั้น เป็นปัญหาที่คงแก้ยาก แต่ทั้งนี้จะพยายามปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้รัดกุมมากขึ้น”