กรมศุลกากร แถลงจับกุมงาช้าง, โทรศัพท์มือถือ ละเมิดลิขสิทธิ์ และสินค้าต้องห้าม ซุกคลังสินค้าสนามบินสุวรรณภูมิ ยึดของกลางงาช้าตัดท่อน มูลค่า 50 ล้าน โทรศัพท์มือถือพร้อมอุปกรณ์ครบชุด มูลค่า 4 ล้าน
วันนี้ (21 ส.ค.) นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รองอธิบดีด้านปราบปรามกรมศุลกากร แถลงข่าวการจับกุมงาช้าง, โทรศัพท์มือถือ ละเมิดลิขสิทธิ์ และสินค้าต้องห้าม ต้องกำจัดในการนำเข้า ณ อาคารสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รองอธิบดีด้านปราบปราม กรมศุลกากร กล่าวว่า ตามที่ กรมศุลกากร ได้กำหนดนโยบายในการเร่งรัด การปราบปรามสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงอากร และสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี และปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม โดย นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้ร่วมกันจับกุมผู้กระทำผิดโดยได้ประสานกับ นายธนัท สุวัธนเมธากุล ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมกับได้มอบหมายให้ นายอนุชาติ ประยูรทอง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมดำเนินการวางแผนจับกุมโดยมีผลการจับกุมสินค้าต้องห้ามต้องกำกัด โดยพบสินค้าดังกล่าวอยู่ในคลังสินค้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ และไม่พบบุคคลในแสดงตัวเป็นเจ้าของในการนำเข้า ได้แก่
1.งาช้าตัดท่อน จำนวน 316 ท่อน บรรจุมาในลังเหล็ก จำนวน 7 หีบห่อ น้ำหนักรวม 2,000 กิโลกรัมมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท
2.โทรศัพท์มือถือพร้อมอุปกรณ์ครบชุด ที่มีเครื่องหมายการค้าละเมิดลิขสิทธิ์และนำเข้าโดยหลีกเลี่ยงข้อกำกัด รวม 1,045 เครื่อง มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รองอธิบดีด้านปราบปราม กรมศุลกากร ยังได้กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวเป็นความผิดฐานลักลอบนำสินค้าต้องห้าม เข้ามาในราชอาณาจักร ตามอนุสัญญา CITES และสินค้าหลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อกำกัด อันเป็นความผิด ตามมาตรา 99, 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา 16,17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482, พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498, พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534, พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535, พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537, พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2543 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รองอธิบดีกล่าวต่อว่า ส่วนผลสรุปในการจับกุมสินค้าลักลอบ สำแดงเท็จ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามข้อกำกัด สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ของสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 ถึงปัจจุบัน จำนวน 180 ราย รวมมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท
วันนี้ (21 ส.ค.) นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รองอธิบดีด้านปราบปรามกรมศุลกากร แถลงข่าวการจับกุมงาช้าง, โทรศัพท์มือถือ ละเมิดลิขสิทธิ์ และสินค้าต้องห้าม ต้องกำจัดในการนำเข้า ณ อาคารสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รองอธิบดีด้านปราบปราม กรมศุลกากร กล่าวว่า ตามที่ กรมศุลกากร ได้กำหนดนโยบายในการเร่งรัด การปราบปรามสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงอากร และสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี และปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม โดย นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้ร่วมกันจับกุมผู้กระทำผิดโดยได้ประสานกับ นายธนัท สุวัธนเมธากุล ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมกับได้มอบหมายให้ นายอนุชาติ ประยูรทอง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมดำเนินการวางแผนจับกุมโดยมีผลการจับกุมสินค้าต้องห้ามต้องกำกัด โดยพบสินค้าดังกล่าวอยู่ในคลังสินค้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ และไม่พบบุคคลในแสดงตัวเป็นเจ้าของในการนำเข้า ได้แก่
1.งาช้าตัดท่อน จำนวน 316 ท่อน บรรจุมาในลังเหล็ก จำนวน 7 หีบห่อ น้ำหนักรวม 2,000 กิโลกรัมมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท
2.โทรศัพท์มือถือพร้อมอุปกรณ์ครบชุด ที่มีเครื่องหมายการค้าละเมิดลิขสิทธิ์และนำเข้าโดยหลีกเลี่ยงข้อกำกัด รวม 1,045 เครื่อง มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รองอธิบดีด้านปราบปราม กรมศุลกากร ยังได้กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวเป็นความผิดฐานลักลอบนำสินค้าต้องห้าม เข้ามาในราชอาณาจักร ตามอนุสัญญา CITES และสินค้าหลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อกำกัด อันเป็นความผิด ตามมาตรา 99, 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา 16,17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482, พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498, พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534, พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535, พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537, พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2543 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รองอธิบดีกล่าวต่อว่า ส่วนผลสรุปในการจับกุมสินค้าลักลอบ สำแดงเท็จ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามข้อกำกัด สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ของสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 ถึงปัจจุบัน จำนวน 180 ราย รวมมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท
