อย่าหาว่าใจไม้ไส้ระกำเลยหนา!!!
เพราะหนี้เลือดระหว่างเขาและเรามันเข้มข้นเสียจนอดรนทนไม่ไหว ต้องนำข่าวสารล่าสุดจากขอบเตียงมาเล่าสู่กันฟัง
เวลานี้ “ชมพู่” กำลังนอนนับถอยหลัง รอวันคืนสู่ผืนดินอย่างช้าๆ ที่โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่ง แม้จะออกจากห้อง I C U ไปอยู่ห้องพักคนไข้แล้วก็ตาม ทว่าอาการโดยทั่วไปไม่ได้ดีขึ้น เพราะขั้วตับที่เป็นมะเร็งกำลังลามหนัก ตัวตับเกือบไม่ทำงานแล้ว สารพิษจึงคั่งค้างไปทั่วทั้งร่างกาย โดยเฉพาะมีสารแอมโมเนียคั่งอยู่จำนวนมาก เมื่อตับไม่สามารถทำลายสารตัวนี้ได้ จึงเป็นผลให้สมองทำงานช้าลง คนไข้จึงซึม-เฉื่อย -ช้า
ล่าสุดร่างกายไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้เลย กิน – ถ่าย เองไม่ได้แล้ว สภาพร่างกายซูบผอมจนจำแทบไม่ได้ รูปการณ์โดยทั่วไป เอาแต่นอนนิ่งไม่ไหวติง
เมื่อสมองไม่สามารถสั่งการใดๆ ได้ ปากระรานกับจิตใจดำร้ายของเขา จึงไม่สามารถทำร้ายประเทศชาติ และประชาชนคนดีๆ ได้ต่อไปอีกแล้ว
นาทีสุดท้ายของชีวิตช่างทรมาน น่าอนาถ เงินทองมากมายที่ขนเก็บไว้จากการโกงชาติโกงแผ่นดินไม่สามารถสร้างเสียงสรรเสริญ หรือแม้แต่ยื้อยุดฉุดชีวิตตัวเองไว้ได้จากความตาย ...เวรกรรมไม่ต้องรอชาติหน้าจริงๆ
อโหสิ
มีนักการเมืองอยู่อีกคนที่กำลังต่อสู้อยู่กับเวรกรรมที่ทำด้วยน้ำมือตัวเอง ด้วยการ “ตัดกรรม” ตามกระแสนิยม
ชายคนนี้กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง และเตรียมแข่งรัศมีเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” คนต่อไป แต่จะไปถึงดวงดาวหรือไม่โปรดติดตามต่อไปด้วยความขมขื่น??? บรรดาขุนทหารที่นั่งหน้าเจี๋ยมเจี้ยมให้พี่ฮุนเซนเหยียบจมูกอยู่ฟังไว้
เพราะก่อนหน้านี้หลังการปฏิวัติรัฐประหารของคณะทหารหน่อมแน้ม ชายคนนี้ถูกจับไปปรับความคิดใหม่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งแถวๆ เขาชะโงก ขากลับก่อนถูกทหารจับมาส่งที่ “ราชดำเนิน” ชายคนนี้ถูกหิ้วปีกในขณะมีผ้าปิดตาไปยังที่แห่งหนึ่ง เมื่อทหารปลดผ้าออก ดวงตาชั่วร้ายสองข้างของเขาเห็น “พระบรมรูป รัชกาลที่ 5” เต็มๆ ตา
โดยไม่ต้องมีใครสั่ง ชายคนนี้ก้มกราบถวายบังคมองค์พระปิยมหาราชทันทีด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา แต่ในใจจะพูดว่ากระไรไม่มีใครหยั่งรู้ ทว่าหลังจากกลับบ้านกลับช่องเรียบร้อยโดยไม่มีใครจับ “แก้ผ้า” ให้อุจาดตา ชายคนนี้ก็ปรี่ไปหาพ่อมดหมอผีรดนำมูกเป่าน้ำมนต์ล้างซวย ช่วยตรวจดวงชะตา และทำพิธี “ตัดกรรม” สะเดาะเคราะห์
หมอดูจะคู่กับหมอเดาก็สุดจะเดาได้...ไม่ช้าชายคนนี้ก็เก็บตัวไปจากสังคมการเมือง และใช้ชีวิตยืนหยัดอยู่กับการเดินทางไปแสวงบุญที่พุทธคยา อินเดีย ทุกๆ เดือน บางเดือนไปสองครั้ง!!! ตัดกรรมของเขาแต่เราได้รับกรรม
ชายคนนี้ในเครื่องแบบ “สีขาว” เอาแต่เฝ้ากราบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วทุกหนแห่งในอินเดีย โดยเฉพาะที่เสาอโศกมหาราช เขาจะสวดมนต์ แล้วก้มศีรษะเอาหัวโขกพื้นเบาๆ สามครั้ง แถมเดินวนจงกลมอีกสามรอบ และทำอย่างนี้เช่นเดียวกับที่สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน
แว่วมาว่าหมอดูสั่งให้ทำเพื่อความเป็นสิริมงคล ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย คิดสิ่งใดจะสมความปรารถนา คิดเงินได้เงิน คิดทองได้ทอง คิดถึงตำแหน่งได้ตำแหน่ง แต่ถ้าคิดถึง หลุดคดี - แก้รัฐธรรมนูญ–ขยายสนามบินกับรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันจะได้ด้วยหรือไม่? บอกไม่ได้จริงๆ อันนี้ให้ไปถาม “อภิสิทธิ์”
ชายคนนี้เฝ้าทำบุญไหว้พระดี - เจดีย์ดังไปทั่วทุกสารทิศ ทั้งในและต่างประเทศตลอดทั้งปี และทุกปีจนถึงบัดเดี๋ยวนี้ เพียงเพราะหมอดูบอกว่า “ชะตาถึงฆาต”
แต่ชาติไทยจะพลิกคว่ำตะแคงหงายเพราะชายหน้าแปลกตัดกรรมอย่างไร หมอดูไม่ได้บอก แต่พวกเราคงบอกกันเองได้อย่างไม่ต้องสงสัยว่า ตายหยังเขียดคือเราหาใช่เขา
แปลกแต่จริง...ทำไปทำมา...ชายคนนี้ที่ใครต่อใครคิดว่า ขอมดำดินจะสิ้นแสงแล้ว ดันผ่ากลับมาได้ดิบได้ดีราว ผีดิบคืนชีพ ตอนนี้เขาเป็นใหญ่เป็นโต โก้เก๋หรูหรา และทำท่าจะได้เป็นใหญ่เหนือใครในการเมืองไทยเสียด้วย!!!
จากเด็กเกเรกลางเมืองอีสานติดเขมร มาสู่หนุ่มน้อยในมาดนักเลงหัวไม้ไล่ทุบไล่ตีเขาไปทั่ว ขยับวิทยฐานะไปสู่สภาหินอ่อนด้วยแรงผลักของบิดา และการล่าซื้อเสียง จนในที่สุดก็สร้างตำนานและฝากรอยแผลให้คนเก่งจากธนาคารแห่งประเทศไทยต้องจำขึ้นใจด้วยความสยดสยองไปจนวันตายกับกรณี “กรุงเทพฯ พาณิชย์การ” พร้อมเพื่อน 16 คนของเขา
ทั้งหมดนั้นคือส่วนหนึ่งของชีวิตชายคนนี้-ชายหน้ายี้ ที่เคยเป็นคนใกล้ชิดของ “นายใหญ่ – นายหญิง” แถมยังถีบตัวเองด้วยการทรยศต่อผู้มีพระคุณ จับมือกับ “สีเขียว” จนขึ้นมาจนกุม “อำนาจ” การเมืองไทยไว้ในกำมือ เวลานี้เขาเป็นคนเดียวที่สามารถชี้เป็นชี้ตายให้กับใครต่อใครที่กระเหี้ยนกระหือรืออยากได้ดิบได้ดีมีโครงการใหญ่!!!
ต้องนี่เลย...ไปหา “เขา” แล้วจะ “เอา” อะไรก็ได้ก็ได้ทั้งนั้น
แต่....โลกนี้ไม่มีอะไรฟรีนะจ๊ะ ทุกอย่างต้องมีของแลกเปลี่ยน
ถ้าวันนี้คุณอยากได้ตำแหน่งอะไร โปรเจกต์ไหน ในกระทรวงที่เขาครอบครอง ให้ตรงดิ่งไปที่คลองหลอดรอพบกับ “นายหน้าค้าอำนาจ” ตัวจริงของเขา แล้วเจรจาแลกเปลี่ยนกันในวงสนทนาที่ถูกข้าราชการขนานนามว่า “ดนตรีปีศาจ” ซึ่งมีที่มาจากการเปิดเพลงคาราโอเกะฝึกร้องทุกเย็นย่ำพร้อมกร่ำโอสถทิพย์ขณะ “เจรจา” ในห้องทำงานหรูหรากลางกระทรวงคาตาข้าราชการดีๆ หลายคน ที่บนบานต่อ “กรมดำรง” ให้ทรงหักคอมัน!!!
ก่อนที่พวกมันจะถูกหักคอ หรือกฎหมาย “ลากคอ” มันเข้าตะราง ปรากฏว่า คนพวกนี้อิ่มหมีพีมันกันถ้วนหน้าจากโครงการต่างๆ ทุกกระทรวงที่ครอบครอง ในสนนราคาที่ “คุณหญิงพี่” ได้ยินต้องสำลักในฐานะเป็น “ต้นแบบ” คือ 30% ขาดตัวห้ามต่อ จ่ายสดล่วงหน้า ช้าหมดอดกิน!!!
นี่คือ หนังตัวอย่าง แต่ของจริงคือ ทุกเก้าอี้ในวงราชการมีราคา ทุกโครงการทุกกระทรวงมีใต้โต๊ะ ฟังเขาเล่ามาแล้วหดหู่
ก็ให้มันรู้กันไปทีว่า คนไทยยุคนี้มีความรู้มากมาย แต่อ่อนแอเหลวไหลนั่งนิ่งดูดาย จนปล่อยคนชั่วเข้ามาโลดแล่นกับเกมการเมืองเพื่อโกงอำนาจ โกงภาษีของเราไปเข้ากระเป๋าพวกมันแต่เพียงถ่ายเดียว โดยไม่เหลียวแลความเป็นความตายของประเทศชาติ และทุกข์สุขของประชาชนคนไทยตาดำๆ ที่นับวันจะล่มจมลงไปอย่างช้าๆ...ก็ให้มันรู้กันไป ว่าเราจะกลัว และไม่สู้กับคนชั่ว
เอาที่ “วงไวน์” แถวซอยรางน้ำอีกเรื่องไหม เพื่อคนดีจะคึกขึ้นมาคะนองบ้าง เพราะทุกคืนของที่นั่นในห้องอาหารพิเศษหรูหรา จะคับคั่งไปด้วยนักการเมืองปากเยิ้ม พ่อค้าเจ้าเล่ห์ ข้าราชการฉ้อฉล ครบไตรภาคีของวงจรอุบาทว์
เมียงมองไปมาพบว่า เมืองไทยตกอยู่ในอุ้งมือพ่อ-ลูกและพี่น้องชั่วร้ายเพียงไม่กี่ครอบครัว...ประชาธิปไตยของที่นี่ก็กินได้ เหมือนฉบับเจ๊แดง ซาลาเปาเลยพับผ่าสิ
โดยเฉพาะ “คนลูก” ที่มักอ้างกับคนโน้น อวดกับคนนี้ว่ามีดีที่ “เพื่อนสนิท” แล้วเอาชื่อไปทำมาหากิน ทำระยำตำบอนหาประโยชน์ใส่ตัวกับพรรคพวกนั้น จน “เสื่อมเสีย”ไปทั่วพาราณสีแล้ว
ตอนนี้หารู้ไม่ว่า ขี้กลากกำลังขึ้นกบาล เหากำลังกินหัว เมียกำลังมีชู้ เพราะน้องหนูใช้การไม่ได้ แต่ไปนามกระเดื่องกับกรณีอื้อฉาวของ “พี่จุ๋ม”
เพราะทั้งคำอวดอ้าง ทั้งคลิปเสียง ทั้งเอกสาร ทั้งขี้ข้าม้าใช้ที่ทำงานเกินหน้าที่ กำลังจะถูกพิจารณาคดี ถี่ห่างหลังจากนี้ อีกไม่กี่ทิวาราตรี พี่น้องประชาชนคนดีโปรดติดตาม อย่าได้กะพริบตา
เพราะลูกใคร ใครก็รัก เสี่ยจิ้นรักลูกอย่างไร พ่อชัยรักลูกแค่ไหน พ่อ-แม่คนอื่นเขาก็รักลูกของเขาไม่น้อยไปกว่ากัน เผลอๆ อาจมากกว่าเสียด้วยซ้ำ และการรักลูกผูกจิตนั้นต้อง “รักลูกให้ถูกทาง” ไม่ใช่ทำตัวเป็น “พ่อแม่รังแกลูก” ...เลี้ยงลูกเป็น บ่ ถ้าไม่เป็นรอประเดี๋ยวได้ยินมาว่า กำลังนี้จะมี “คนบางคน” จะมาช่วยชี้แนะให้
ไม่รู้หรือไง!!! ว่าพี่ชาย และน้องสาวของใคร ทำงานอยู่ที่ไหน
รู้หรือไม่ว่า “คำพิพากษาของเวรกรรม” กำลังทำงาน
เพราะหนี้เลือดระหว่างเขาและเรามันเข้มข้นเสียจนอดรนทนไม่ไหว ต้องนำข่าวสารล่าสุดจากขอบเตียงมาเล่าสู่กันฟัง
เวลานี้ “ชมพู่” กำลังนอนนับถอยหลัง รอวันคืนสู่ผืนดินอย่างช้าๆ ที่โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่ง แม้จะออกจากห้อง I C U ไปอยู่ห้องพักคนไข้แล้วก็ตาม ทว่าอาการโดยทั่วไปไม่ได้ดีขึ้น เพราะขั้วตับที่เป็นมะเร็งกำลังลามหนัก ตัวตับเกือบไม่ทำงานแล้ว สารพิษจึงคั่งค้างไปทั่วทั้งร่างกาย โดยเฉพาะมีสารแอมโมเนียคั่งอยู่จำนวนมาก เมื่อตับไม่สามารถทำลายสารตัวนี้ได้ จึงเป็นผลให้สมองทำงานช้าลง คนไข้จึงซึม-เฉื่อย -ช้า
ล่าสุดร่างกายไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้เลย กิน – ถ่าย เองไม่ได้แล้ว สภาพร่างกายซูบผอมจนจำแทบไม่ได้ รูปการณ์โดยทั่วไป เอาแต่นอนนิ่งไม่ไหวติง
เมื่อสมองไม่สามารถสั่งการใดๆ ได้ ปากระรานกับจิตใจดำร้ายของเขา จึงไม่สามารถทำร้ายประเทศชาติ และประชาชนคนดีๆ ได้ต่อไปอีกแล้ว
นาทีสุดท้ายของชีวิตช่างทรมาน น่าอนาถ เงินทองมากมายที่ขนเก็บไว้จากการโกงชาติโกงแผ่นดินไม่สามารถสร้างเสียงสรรเสริญ หรือแม้แต่ยื้อยุดฉุดชีวิตตัวเองไว้ได้จากความตาย ...เวรกรรมไม่ต้องรอชาติหน้าจริงๆ
อโหสิ
มีนักการเมืองอยู่อีกคนที่กำลังต่อสู้อยู่กับเวรกรรมที่ทำด้วยน้ำมือตัวเอง ด้วยการ “ตัดกรรม” ตามกระแสนิยม
ชายคนนี้กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง และเตรียมแข่งรัศมีเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” คนต่อไป แต่จะไปถึงดวงดาวหรือไม่โปรดติดตามต่อไปด้วยความขมขื่น??? บรรดาขุนทหารที่นั่งหน้าเจี๋ยมเจี้ยมให้พี่ฮุนเซนเหยียบจมูกอยู่ฟังไว้
เพราะก่อนหน้านี้หลังการปฏิวัติรัฐประหารของคณะทหารหน่อมแน้ม ชายคนนี้ถูกจับไปปรับความคิดใหม่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งแถวๆ เขาชะโงก ขากลับก่อนถูกทหารจับมาส่งที่ “ราชดำเนิน” ชายคนนี้ถูกหิ้วปีกในขณะมีผ้าปิดตาไปยังที่แห่งหนึ่ง เมื่อทหารปลดผ้าออก ดวงตาชั่วร้ายสองข้างของเขาเห็น “พระบรมรูป รัชกาลที่ 5” เต็มๆ ตา
โดยไม่ต้องมีใครสั่ง ชายคนนี้ก้มกราบถวายบังคมองค์พระปิยมหาราชทันทีด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา แต่ในใจจะพูดว่ากระไรไม่มีใครหยั่งรู้ ทว่าหลังจากกลับบ้านกลับช่องเรียบร้อยโดยไม่มีใครจับ “แก้ผ้า” ให้อุจาดตา ชายคนนี้ก็ปรี่ไปหาพ่อมดหมอผีรดนำมูกเป่าน้ำมนต์ล้างซวย ช่วยตรวจดวงชะตา และทำพิธี “ตัดกรรม” สะเดาะเคราะห์
หมอดูจะคู่กับหมอเดาก็สุดจะเดาได้...ไม่ช้าชายคนนี้ก็เก็บตัวไปจากสังคมการเมือง และใช้ชีวิตยืนหยัดอยู่กับการเดินทางไปแสวงบุญที่พุทธคยา อินเดีย ทุกๆ เดือน บางเดือนไปสองครั้ง!!! ตัดกรรมของเขาแต่เราได้รับกรรม
ชายคนนี้ในเครื่องแบบ “สีขาว” เอาแต่เฝ้ากราบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วทุกหนแห่งในอินเดีย โดยเฉพาะที่เสาอโศกมหาราช เขาจะสวดมนต์ แล้วก้มศีรษะเอาหัวโขกพื้นเบาๆ สามครั้ง แถมเดินวนจงกลมอีกสามรอบ และทำอย่างนี้เช่นเดียวกับที่สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน
แว่วมาว่าหมอดูสั่งให้ทำเพื่อความเป็นสิริมงคล ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย คิดสิ่งใดจะสมความปรารถนา คิดเงินได้เงิน คิดทองได้ทอง คิดถึงตำแหน่งได้ตำแหน่ง แต่ถ้าคิดถึง หลุดคดี - แก้รัฐธรรมนูญ–ขยายสนามบินกับรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันจะได้ด้วยหรือไม่? บอกไม่ได้จริงๆ อันนี้ให้ไปถาม “อภิสิทธิ์”
ชายคนนี้เฝ้าทำบุญไหว้พระดี - เจดีย์ดังไปทั่วทุกสารทิศ ทั้งในและต่างประเทศตลอดทั้งปี และทุกปีจนถึงบัดเดี๋ยวนี้ เพียงเพราะหมอดูบอกว่า “ชะตาถึงฆาต”
แต่ชาติไทยจะพลิกคว่ำตะแคงหงายเพราะชายหน้าแปลกตัดกรรมอย่างไร หมอดูไม่ได้บอก แต่พวกเราคงบอกกันเองได้อย่างไม่ต้องสงสัยว่า ตายหยังเขียดคือเราหาใช่เขา
แปลกแต่จริง...ทำไปทำมา...ชายคนนี้ที่ใครต่อใครคิดว่า ขอมดำดินจะสิ้นแสงแล้ว ดันผ่ากลับมาได้ดิบได้ดีราว ผีดิบคืนชีพ ตอนนี้เขาเป็นใหญ่เป็นโต โก้เก๋หรูหรา และทำท่าจะได้เป็นใหญ่เหนือใครในการเมืองไทยเสียด้วย!!!
จากเด็กเกเรกลางเมืองอีสานติดเขมร มาสู่หนุ่มน้อยในมาดนักเลงหัวไม้ไล่ทุบไล่ตีเขาไปทั่ว ขยับวิทยฐานะไปสู่สภาหินอ่อนด้วยแรงผลักของบิดา และการล่าซื้อเสียง จนในที่สุดก็สร้างตำนานและฝากรอยแผลให้คนเก่งจากธนาคารแห่งประเทศไทยต้องจำขึ้นใจด้วยความสยดสยองไปจนวันตายกับกรณี “กรุงเทพฯ พาณิชย์การ” พร้อมเพื่อน 16 คนของเขา
ทั้งหมดนั้นคือส่วนหนึ่งของชีวิตชายคนนี้-ชายหน้ายี้ ที่เคยเป็นคนใกล้ชิดของ “นายใหญ่ – นายหญิง” แถมยังถีบตัวเองด้วยการทรยศต่อผู้มีพระคุณ จับมือกับ “สีเขียว” จนขึ้นมาจนกุม “อำนาจ” การเมืองไทยไว้ในกำมือ เวลานี้เขาเป็นคนเดียวที่สามารถชี้เป็นชี้ตายให้กับใครต่อใครที่กระเหี้ยนกระหือรืออยากได้ดิบได้ดีมีโครงการใหญ่!!!
ต้องนี่เลย...ไปหา “เขา” แล้วจะ “เอา” อะไรก็ได้ก็ได้ทั้งนั้น
แต่....โลกนี้ไม่มีอะไรฟรีนะจ๊ะ ทุกอย่างต้องมีของแลกเปลี่ยน
ถ้าวันนี้คุณอยากได้ตำแหน่งอะไร โปรเจกต์ไหน ในกระทรวงที่เขาครอบครอง ให้ตรงดิ่งไปที่คลองหลอดรอพบกับ “นายหน้าค้าอำนาจ” ตัวจริงของเขา แล้วเจรจาแลกเปลี่ยนกันในวงสนทนาที่ถูกข้าราชการขนานนามว่า “ดนตรีปีศาจ” ซึ่งมีที่มาจากการเปิดเพลงคาราโอเกะฝึกร้องทุกเย็นย่ำพร้อมกร่ำโอสถทิพย์ขณะ “เจรจา” ในห้องทำงานหรูหรากลางกระทรวงคาตาข้าราชการดีๆ หลายคน ที่บนบานต่อ “กรมดำรง” ให้ทรงหักคอมัน!!!
ก่อนที่พวกมันจะถูกหักคอ หรือกฎหมาย “ลากคอ” มันเข้าตะราง ปรากฏว่า คนพวกนี้อิ่มหมีพีมันกันถ้วนหน้าจากโครงการต่างๆ ทุกกระทรวงที่ครอบครอง ในสนนราคาที่ “คุณหญิงพี่” ได้ยินต้องสำลักในฐานะเป็น “ต้นแบบ” คือ 30% ขาดตัวห้ามต่อ จ่ายสดล่วงหน้า ช้าหมดอดกิน!!!
นี่คือ หนังตัวอย่าง แต่ของจริงคือ ทุกเก้าอี้ในวงราชการมีราคา ทุกโครงการทุกกระทรวงมีใต้โต๊ะ ฟังเขาเล่ามาแล้วหดหู่
ก็ให้มันรู้กันไปทีว่า คนไทยยุคนี้มีความรู้มากมาย แต่อ่อนแอเหลวไหลนั่งนิ่งดูดาย จนปล่อยคนชั่วเข้ามาโลดแล่นกับเกมการเมืองเพื่อโกงอำนาจ โกงภาษีของเราไปเข้ากระเป๋าพวกมันแต่เพียงถ่ายเดียว โดยไม่เหลียวแลความเป็นความตายของประเทศชาติ และทุกข์สุขของประชาชนคนไทยตาดำๆ ที่นับวันจะล่มจมลงไปอย่างช้าๆ...ก็ให้มันรู้กันไป ว่าเราจะกลัว และไม่สู้กับคนชั่ว
เอาที่ “วงไวน์” แถวซอยรางน้ำอีกเรื่องไหม เพื่อคนดีจะคึกขึ้นมาคะนองบ้าง เพราะทุกคืนของที่นั่นในห้องอาหารพิเศษหรูหรา จะคับคั่งไปด้วยนักการเมืองปากเยิ้ม พ่อค้าเจ้าเล่ห์ ข้าราชการฉ้อฉล ครบไตรภาคีของวงจรอุบาทว์
เมียงมองไปมาพบว่า เมืองไทยตกอยู่ในอุ้งมือพ่อ-ลูกและพี่น้องชั่วร้ายเพียงไม่กี่ครอบครัว...ประชาธิปไตยของที่นี่ก็กินได้ เหมือนฉบับเจ๊แดง ซาลาเปาเลยพับผ่าสิ
โดยเฉพาะ “คนลูก” ที่มักอ้างกับคนโน้น อวดกับคนนี้ว่ามีดีที่ “เพื่อนสนิท” แล้วเอาชื่อไปทำมาหากิน ทำระยำตำบอนหาประโยชน์ใส่ตัวกับพรรคพวกนั้น จน “เสื่อมเสีย”ไปทั่วพาราณสีแล้ว
ตอนนี้หารู้ไม่ว่า ขี้กลากกำลังขึ้นกบาล เหากำลังกินหัว เมียกำลังมีชู้ เพราะน้องหนูใช้การไม่ได้ แต่ไปนามกระเดื่องกับกรณีอื้อฉาวของ “พี่จุ๋ม”
เพราะทั้งคำอวดอ้าง ทั้งคลิปเสียง ทั้งเอกสาร ทั้งขี้ข้าม้าใช้ที่ทำงานเกินหน้าที่ กำลังจะถูกพิจารณาคดี ถี่ห่างหลังจากนี้ อีกไม่กี่ทิวาราตรี พี่น้องประชาชนคนดีโปรดติดตาม อย่าได้กะพริบตา
เพราะลูกใคร ใครก็รัก เสี่ยจิ้นรักลูกอย่างไร พ่อชัยรักลูกแค่ไหน พ่อ-แม่คนอื่นเขาก็รักลูกของเขาไม่น้อยไปกว่ากัน เผลอๆ อาจมากกว่าเสียด้วยซ้ำ และการรักลูกผูกจิตนั้นต้อง “รักลูกให้ถูกทาง” ไม่ใช่ทำตัวเป็น “พ่อแม่รังแกลูก” ...เลี้ยงลูกเป็น บ่ ถ้าไม่เป็นรอประเดี๋ยวได้ยินมาว่า กำลังนี้จะมี “คนบางคน” จะมาช่วยชี้แนะให้
ไม่รู้หรือไง!!! ว่าพี่ชาย และน้องสาวของใคร ทำงานอยู่ที่ไหน
รู้หรือไม่ว่า “คำพิพากษาของเวรกรรม” กำลังทำงาน