xs
xsm
sm
md
lg

อภิสิทธิ์จะฟื้นภาวะผู้นำได้อย่างไร?

เผยแพร่:   โดย: สิริอัญญา

ในบรรดานายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่เคยมีมาตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองมาจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนไหนโชคดีและโชคร้ายพร้อมๆ กันเหมือนกับคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเลย

โชคดีก็เพราะว่าอายุอานาม 40 เศษๆ และไม่เคยเข้าร่วมขบวนการต่อสู้ที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายใดๆ และโดยไม่นึกฝัน ก็ถูกเทพอสูรอุ้มสมให้ขึ้นนั่งตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหาร ทั้งๆ ที่นักการเมืองบางคนทุ่มเทเงินทองนับพันนับหมื่นล้าน ก็ได้แค่เป็นสุนัขมองเครื่องบินเท่านั้น

โชคร้ายก็เพราะว่าพอเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว กลับถูกครอบงำแทรกแซงบงการให้ทำนั่นทำนี่ประหนึ่งเป็นเจว็ด จนคล้ายๆ จะเป็นหองจูเหียบที่นั่งบัลลังก์มังกร ภายใต้อุ้งตีนของตั๋งโต๊ะกระนั้น

หลายเดือนที่ผ่านมานี้ ไม่ว่าจะพูดจาแก้ตัวกันประการใด แต่ใครๆ ก็รู้ว่าคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ตกเป็นเป้าหมายของการลอบสังหารถึง 3 ครั้ง 3 หน และตกเป็นเป้าหมายถูกฆาตกรรมทางการเมืองอย่างต่อเนื่องแม้กระทั่งถึงทุกวันนี้

ที่ว่าเป็นเป้าหมายถูกฆาตกรรมทางการเมืองนั้นก็คือการทำให้ตายทางการเมืองที่ไม่มีวันผุดวันเกิดอีกต่อไป โดยวิธีการทำให้เป็นเจว็ด ทำให้เป็นเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม หรือเป็นทารกอมมือ ที่สนุกสนานอยู่กับการเล่นตุ๊กตา

คนระดับรัฐมนตรีขี้เท่อก็สามารถงัดข้อกับนายกรัฐมนตรีได้อย่างหน้าตาเฉย แสดงอำนาจบาตรใหญ่ว่าถ้าโครงการใดหรือข้าราชการคนใดข้าผลักดันแล้ว ใครไหนก็ไม่กล้าขัดขวาง และต้องสำเร็จ

คนระดับอธิบดีที่ละฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปเป็นลิ่วล้อนักการเมืองก็สามารถตอกหน้านายกรัฐมนตรีได้ถึงกลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

คนระดับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็สามารถทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความประสงค์ของนายกรัฐมนตรี โดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเกิดสภาพนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยแค่คิดจะตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสักคนหนึ่งก็ยังทำไม่สำเร็จ แล้วจะไปบริหารบ้านเมืองได้อย่างไร

หนักเข้าผู้มีตำแหน่งต้องทำงานรับใช้ใกล้ชิดแท้ๆ กลับแปรพักตร์ และทำการสวนทางกับนายกรัฐมนตรีทั้งต่อหน้าและลับหลัง จนเป็นข่าวดังไปทั้งบ้านทั้งเมือง และเป็นเรื่องอันตรายต่อสถาบันสำคัญของชาติก็ยังปล่อยให้ทำกันไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ปรากฏการณ์ดังกล่าวและเรื่องราวมากหลายทำให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นความจริงที่เด่นชัดว่า การบริหารราชการแผ่นดินในวันนี้มีกองบัญชาการใหญ่อยู่ถึง 2 กอง มีศูนย์อำนาจใหญ่อยู่ถึง 2 ศูนย์

กองบัญชาการหนึ่งอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้า แต่จะทำการสิ่งใดก็ไม่ได้ นอกจากจะได้รับความยินยอมพร้อมใจจากคนอื่น กองบัญชาการนี้กำลังกลายเป็นเจว็ดที่ไม่มีคนนับถือศรัทธาอีกต่อไป

กองบัญชาการหนึ่งอยู่ที่ซอยรางน้ำ มีคน 2 คนจับมือกันเป็นหัวหน้า มีบทบาทครอบงำและเป็นศูนย์อำนาจที่แท้จริง ที่สามารถทำการทุกสิ่งอย่างได้ดังใจปรารถนา

จนกระทั่งคนเขานินทากันว่ากองบัญชาการที่ทำเนียบรัฐบาลนั้นโดยแท้จริงแล้วเป็นแค่ที่ทำการโฆษกของผู้มีอำนาจแท้จริงในรัฐบาลชุดนี้เท่านั้น

ความเป็นไปอย่างนี้ไม่เพียงแค่คนไทยรู้เห็นกันทั้งบ้านทั้งเมืองเท่านั้น แต่นานาชาติเขาก็รู้เห็นเป็นอย่างเดียวกัน ดังนั้นความเชื่อถือเชื่อมั่นในการที่จะเจรจาประสาความเมืองกับรัฐบาลไทย จึงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และทำให้ความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ต้องชะงักงัน และชะลอลงอย่างเห็นได้ชัดและผิดปกติยิ่ง

สภาพเหล่านี้จึงเป็นความเสียหายใหญ่หลวงแก่ชาติบ้านเมืองและอาณาประชาราษฎรทั้งปวง

ในด้านความมั่นคงปลอดภัยและเอกราชอธิปไตยของประเทศก็ถูกคุกคามอย่างหนัก ทั้งพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พื้นที่ชายแดนด้านอีสาน ด้านตะวันออก เรื่อยลึกลงไปในอ่าวไทย แม้กระทั่งชายแดนด้านตะวันตก

ในด้านการปกครองก็ระส่ำระสาย เพราะประเทศนี้มีศูนย์อำนาจ 2 ศูนย์ มีกองบัญชาการ 2 กอง การบริหารราชการแผ่นดินก็วิปริตผันแปรไปสิ้น การทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงจึงฮึกเหิมลำพอง และโกงกันสนั่นลั่นบ้านลั่นเมืองโดยไม่มีใครจัดการแก้ไข

ในด้านความปลอดภัยของประชาชนก็ตกอยู่ในภาวะวิกฤต ใครคิดจะมีระเบิด ปืนผาหน้าไม้ ใครคิดจะทำร้ายทำลายใครก็ทำไปตามใจชอบ

ในด้านความมั่นคงของสถาบันสำคัญของชาติก็ถูกบ่อนทำลายอยู่ทุกวี่วัน จนทั่วทั้งประเทศไม่มีวันเป็นสุข

แม้ในด้านของรัฐบาลก็ถูกขู่เช้าขู่เย็นว่าวันนี้จะชุมนุม วันนั้นจะชุมนุม จนไม่เป็นอันทำการงาน

สภาพเช่นนี้เป็นสภาพที่สุดแสนจะทนทาน และบ้านเมืองไม่อาจทนแบกรับต่อไปได้อีกแล้ว หากไม่แก้ไขด้วยจิตใจที่กล้าหาญเสียสละ ในที่สุดก็จะถูกคนอื่นมาแก้ไขในไม่ช้านี้ ซึ่งย่อมเป็นไปตามกฎแห่งธรรมชาติ เมื่อสิ่งหนึ่งเสื่อมทรุดจนพังพินาศสลายลง สิ่งใหม่ก็ย่อมอุบัติขึ้นทดแทนเป็นธรรมดา

เหตุที่เป็นไปได้ถึงปานนี้มิใช่ใครอื่นทำให้เป็นไป แต่เกิดขึ้นและเป็นไปในศูนย์กลางของรัฐบาลนั่นเอง

ข้อแรก คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังขาดความกล้าหาญชาญชัย ขาดจิตใจเสียสละและมุ่งมั่นในความมั่นคงดำรงอยู่ของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และความปลอดภัยของประชาชน จนกระทั่งไม่เป็นตัวของตัวเอง จึงต้องสร้างสิ่งนี้ขึ้นในจิตใจก่อนเพื่อน จึงจะทำการอย่างอื่นต่อไปได้

ข้อสอง ภายในพรรคประชาธิปัตย์ขาดความเป็นเอกภาพ บรรดาคนดีมีฝีมือระดับมังกรการเมืองหรือเจี้ยงเล่าของพรรคซึ่งมีอยู่มากมายถูกกีดกันทอดทิ้งให้นอนบ้านเฝ้าพรรค โดยไม่มีภารกิจสำคัญในรัฐบาลมอบหมายให้ไปทำ

สภาพกีดกันไม่ให้พระสงฆ์ทรงศีลทรงวินัยลงอุโบสถ แต่กลับไปเอาพระใหม่เณรหนุ่ม รวมทั้งชีปะขาว เข้าไปสวดพระปาติโมกข์ จึงมีแต่ต้องวิบัติสถานเดียวเท่านั้น

ข้อสาม
การจัดสรรหน้าที่และตำแหน่งงานในรัฐบาลหากไม่มีวาระซ่อนเร้นที่เห็นประโยชน์ตนเป็นใหญ่ ก็เป็นไปอย่างไร้เดียงสาที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศนี้

หน่วยงานที่เป็นพื้นฐานอำนาจรัฐ ไม่ว่าทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ยกให้กับคนอื่นไปหมด

หน่วยงานด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาชาติ ก็ยกให้คนอื่นเขาไปหมด แม้จะได้กระทรวงการคลังมาครอง แต่มีอำนาจแค่ดูแลหน่วยงานกู้เงินและนโยบาย ในขณะที่หน่วยงานรายได้ ตลอดจนธนาคารและสถาบันการเงินของรัฐกลับยกให้คนอื่นไปเสียอีก

ก็เป็นดังที่เผลอพูดออกมาว่า “ถ้าไม่มีเขา เราก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล” และที่ว่า “แม้ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เดียวก็ยอม” แต่ความจริงกลับแย่กว่าเพราะคนที่ไปทำหน้าที่สำคัญๆ กลับไม่มีใจร่วมกับนายกรัฐมนตรี หันไปร่วมมือเสพเสวนากับคนอื่น จนกระทั่งไม่คำนึงถึงความสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน สิ้นกษัตริย์ และเป็นที่มาของคำนินทาว่ามีการยุบสภาเมื่อใดก็จะเว้นวรรคการเมือง ปล่อยให้พวกพ้องในประชาธิปัตย์นาวาต้องเคว้งคว้างอยู่กลางพระสมุทร

เมื่อต้นเหตุเภทภัยที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองเป็นดังนี้ การจะแก้ไขปัญหานำพาชาติบ้านเมืองกลับสู่ความเป็นปกติสุขจึงต้องแก้ที่ต้นเหตุเหล่านี้ แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายดายนัก มิฉะนั้นคงทำกันไปนานแล้ว ไม่ปล่อยยักแย่แช่ยันอยู่ถึงวันนี้

ทุกข้อที่ว่ามานั้น ข้อสำคัญอยู่ที่ข้อแรกคือตัวคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เอง ว่าจะเป็นและทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีให้สมศักดิ์ศรีที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งหรือว่าจะยอมตัวเป็นแค่เจว็ดให้เขาชักเขาเชิด เพียงหวังแค่ได้นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแบบเรื่อยเปื่อย ท่ามกลางความพินาศฉิบหายของบ้านเมือง

พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า อำนาจเป็นใหญ่ในโลก เมื่อใดที่อำนาจได้ใช้โดยธรรมด้วยความเสียสละกล้าหาญเพื่อส่วนรวมแล้ว เมื่อนั้นก็จะไม่มีอะไรมาต้านทานได้

คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเป็นวีรชนที่กอบกู้บ้านเมืองให้กลับคืนสู่ความเป็นปกติสุขและรุ่งเรืองไพบูลย์ หรือว่าจะเป็นทรชนที่หวังแต่จะนั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ยอมให้บ้านเมืองถึงกาลสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน สิ้นกษัตริย์ ก็อยู่ที่การตัดสินใจว่าจะเป็นไทแก่ตัวเอง เสริมสร้างความเสียสละกล้าหาญและทำการทุกสิ่งอย่างโดยถือเอาประเทศชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นที่ตั้งหรือไม่เท่านั้น?
กำลังโหลดความคิดเห็น