เอเอฟพี – ผู้รอดชีวิตจากภัยน้ำท่วมฟิลิปปินส์หลายแสนคน ซึ่งต่างเหนื่อยล้าอิดโรย เมื่อวานนี้(29)ยังต้องทนกับสภาพอันเลวร้ายในที่พักชั่วคราวตามโรงเรียน, สนามกีฬา, และเต๊นท์ต่างๆ หลังจากพายุ “กิสนา” พัดถล่มและก่อให้เกิดมหาอุทกภัยในกรุงมะนิลาและจังหวดรอบๆ ตั้งแต่เมื่อ 3 วันก่อน ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็น 246 คน ด้านประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย ทำเท่ประกาศเปิดทำเนียบต้อนรับผู้ประสบภัย อีกทั้งบริจาคเงินเดือน 2 เดือนเพื่อช่วยเหลือ
“คนยังอพยพเข้ามาเพิ่มทุกชั่วโมง ... เราไม่รู้จะรับมือยังไงแล้ว เราต้องการเสื้อผ้า อาหาร และยาเพิ่ม” โจ เฟอร์เรอร์ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นผู้ดูแลที่พักชั่วคราวในสนามบาสเก็ตบอลแห่งหนึ่งชานกรุงมะนิลาเล่าถึงสภาพของผู้ประสบภัยราว 3,000 คนที่แออัดกันอยู่ในสนามดังกล่าว ซึ่งต่างก็เหนื่อยอ่อนและหิวโหย หนำซ้ำพวกเขายังมีห้องน้ำใช้ร่วมกันเพียงห้องเดียวเท่านั้น
ส่วนตำรวจให้คำมั่นว่าจะจัดการกับพวกลักเล็กขโมยน้อย หลังจากผู้ประสบภัยน้ำท่วมในย่านที่อยู่อาศัยของคนร่ำรวยร้องเรียนถึงสภาพไร้ขื่อแปที่เกิดขึ้น เนื่องจากพวกโจรเที่ยวหยิบฉวยสิ่งของมีค่า รวมทั้งโทรทัศน์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จมน้ำและโคลน
รัฐบาลแถลงวานนี้ว่าผู้รอดชีวิตจากเหตุพายุ “กิสนา” พัดถล่มในวันเสาร์ จำนวนราว 320,000 คน กระจายกันอยู่ตามที่พักชั่วคราวที่ทางการจัดให้หลายร้อยแห่ง ทว่าจำนวนคนไร้บ้านได้เพิ่มขึ้นจากวันจันทร์ถึงสามเท่าตัว
ขณะที่ประธานาธิบดีอาร์โรโย ประกาศบริจาคเงินเดือน 2 เดือนช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งสั่งการให้รัฐมนตรีบริจาคเงินเดือน 2 เดือนด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินเดือนของประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ อยู่ในระดับแค่ 50,000 เปโซ (ราว 35,000 บาท) ส่วนพวกรัฐมนตรีก็ได้กัน 30,000 เปโซ (ราว 21,000 บาท) โดยที่พวกเขาจำนวนมากเป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยจากธุรกิจอื่นๆ อยู่แล้ว
ประธานาธิบดีอาร์โรโย ยังออกประกาศเปิดทำเนียบมาลากันญัง เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยด้วย โดยบอกว่า “ผู้อพยพจะได้รับที่พักอาศัยในบริเวณต่างๆ ที่จัดสรรให้ได้ ระหว่างอาคารทั้งหลายของมาลากันญัง และในเต๊นท์ต่างๆ ที่จะตั้งขึ้นมาในระหว่างอาคารเหล่านี้” และ “ถ้าจำเป็น ข้าราชการลูกจ้างของเราก็จะยกจุดทำงานต่างๆ ของพวกเขา เพื่อให้มีที่ว่างมากขึ้นสำหรับพี่น้องร่วมชาติซึ่งต้องไร้ที่อยุ่”
ปรากฏว่าเมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป มีผู้คนหลายร้อยคนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดีในเช้าวานนี้ และได้รับแจกถุงยังชีพ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่อนุญาตให้ประชาชนพักอาศัยในบริเวณทำเนียบ โดยจะต้องให้พวกองค์กรบรรเทาทุกข์ตรวจสอบดูเสียก่อน ขณะที่ วิลเฟรโด โอคา ผู้ช่วยของอาร์โรยากล่าวว่า “เราไม่สามารถปล่อยให้ผู้อพยพทุกๆ คนเข้าไปได้ เพราะมีปัญหาด้านการจัดหาและขนส่งข้าวของช่วยเหลือ และปัญหาความปลอดภัย”
ในส่วนของผู้เสียชีวิตซึ่งเมื่อวานนี้พุ่งพรวดขึ้นเป็น 246 ราย จากที่ในวันจันทร์ยังประเมินว่ามีราว 140 รายนั้น พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบบอกว่าเป็นเพราะได้ตัวเลขจากบริเวณนอกกรุงมะนิลามารวมด้วย และ กิลแบร์โต เตโอโดโร รัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งรับผิดชอบด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยกล่าวว่าไม่คิดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะมีการพุ่งทะยานเช่นนี้อีกแล้ว
ทางด้านผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมนั้น รัฐบาลให้ตัวเลขวานนี้ว่าน่าจะทำให้อัตราเติบโตของจีดีพีในปีนี้ลดลงราว 0.1% โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจปี 2009 จะเติบโตระหว่าง 0.8 – 1.8%
ภายหลังรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ยอมรับในวันจันทร์ว่าไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยลำพัง และร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ ปรากฏว่าเมื่อถึงวานนี้ก็ได้มีความช่วยเหลือด้านอาหารและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ จัดส่งไปยังฟิลิปปินส์ โดยประเทศแรกๆ ที่แถลงจะให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ ออสเตรเลีย, สหรัฐฯ, ฝรั่งเศส, และญี่ปุ่น
“คนยังอพยพเข้ามาเพิ่มทุกชั่วโมง ... เราไม่รู้จะรับมือยังไงแล้ว เราต้องการเสื้อผ้า อาหาร และยาเพิ่ม” โจ เฟอร์เรอร์ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นผู้ดูแลที่พักชั่วคราวในสนามบาสเก็ตบอลแห่งหนึ่งชานกรุงมะนิลาเล่าถึงสภาพของผู้ประสบภัยราว 3,000 คนที่แออัดกันอยู่ในสนามดังกล่าว ซึ่งต่างก็เหนื่อยอ่อนและหิวโหย หนำซ้ำพวกเขายังมีห้องน้ำใช้ร่วมกันเพียงห้องเดียวเท่านั้น
ส่วนตำรวจให้คำมั่นว่าจะจัดการกับพวกลักเล็กขโมยน้อย หลังจากผู้ประสบภัยน้ำท่วมในย่านที่อยู่อาศัยของคนร่ำรวยร้องเรียนถึงสภาพไร้ขื่อแปที่เกิดขึ้น เนื่องจากพวกโจรเที่ยวหยิบฉวยสิ่งของมีค่า รวมทั้งโทรทัศน์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จมน้ำและโคลน
รัฐบาลแถลงวานนี้ว่าผู้รอดชีวิตจากเหตุพายุ “กิสนา” พัดถล่มในวันเสาร์ จำนวนราว 320,000 คน กระจายกันอยู่ตามที่พักชั่วคราวที่ทางการจัดให้หลายร้อยแห่ง ทว่าจำนวนคนไร้บ้านได้เพิ่มขึ้นจากวันจันทร์ถึงสามเท่าตัว
ขณะที่ประธานาธิบดีอาร์โรโย ประกาศบริจาคเงินเดือน 2 เดือนช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งสั่งการให้รัฐมนตรีบริจาคเงินเดือน 2 เดือนด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินเดือนของประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ อยู่ในระดับแค่ 50,000 เปโซ (ราว 35,000 บาท) ส่วนพวกรัฐมนตรีก็ได้กัน 30,000 เปโซ (ราว 21,000 บาท) โดยที่พวกเขาจำนวนมากเป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยจากธุรกิจอื่นๆ อยู่แล้ว
ประธานาธิบดีอาร์โรโย ยังออกประกาศเปิดทำเนียบมาลากันญัง เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยด้วย โดยบอกว่า “ผู้อพยพจะได้รับที่พักอาศัยในบริเวณต่างๆ ที่จัดสรรให้ได้ ระหว่างอาคารทั้งหลายของมาลากันญัง และในเต๊นท์ต่างๆ ที่จะตั้งขึ้นมาในระหว่างอาคารเหล่านี้” และ “ถ้าจำเป็น ข้าราชการลูกจ้างของเราก็จะยกจุดทำงานต่างๆ ของพวกเขา เพื่อให้มีที่ว่างมากขึ้นสำหรับพี่น้องร่วมชาติซึ่งต้องไร้ที่อยุ่”
ปรากฏว่าเมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป มีผู้คนหลายร้อยคนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดีในเช้าวานนี้ และได้รับแจกถุงยังชีพ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่อนุญาตให้ประชาชนพักอาศัยในบริเวณทำเนียบ โดยจะต้องให้พวกองค์กรบรรเทาทุกข์ตรวจสอบดูเสียก่อน ขณะที่ วิลเฟรโด โอคา ผู้ช่วยของอาร์โรยากล่าวว่า “เราไม่สามารถปล่อยให้ผู้อพยพทุกๆ คนเข้าไปได้ เพราะมีปัญหาด้านการจัดหาและขนส่งข้าวของช่วยเหลือ และปัญหาความปลอดภัย”
ในส่วนของผู้เสียชีวิตซึ่งเมื่อวานนี้พุ่งพรวดขึ้นเป็น 246 ราย จากที่ในวันจันทร์ยังประเมินว่ามีราว 140 รายนั้น พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบบอกว่าเป็นเพราะได้ตัวเลขจากบริเวณนอกกรุงมะนิลามารวมด้วย และ กิลแบร์โต เตโอโดโร รัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งรับผิดชอบด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยกล่าวว่าไม่คิดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะมีการพุ่งทะยานเช่นนี้อีกแล้ว
ทางด้านผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมนั้น รัฐบาลให้ตัวเลขวานนี้ว่าน่าจะทำให้อัตราเติบโตของจีดีพีในปีนี้ลดลงราว 0.1% โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจปี 2009 จะเติบโตระหว่าง 0.8 – 1.8%
ภายหลังรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ยอมรับในวันจันทร์ว่าไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยลำพัง และร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ ปรากฏว่าเมื่อถึงวานนี้ก็ได้มีความช่วยเหลือด้านอาหารและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ จัดส่งไปยังฟิลิปปินส์ โดยประเทศแรกๆ ที่แถลงจะให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ ออสเตรเลีย, สหรัฐฯ, ฝรั่งเศส, และญี่ปุ่น