xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นเด่น:MCOT : More good story to come

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลังจากพบผู้บริหารใหม่ของ MCOT ได้ให้วิสัยทัศน์การทำธุรกิจสื่อในช่วง 4 ปีข้างหน้า ที่เน้นการสร้าง Content ด้วยตัวเองเพิ่มมากขึ้น และ เพิ่มช่องทางในการกระจาย Content ไปในสื่อเดิมและสื่อใหม่ SCRI คาดว่ารายได้จากธุรกิจสื่อโทรทัศน์และวิทยุในปี 2553 จะเติบโตได้ราว 6% yoy เพราะ SCRI เชื่อว่านโยบายธุรกิจสื่อจะไม่ได้สร้างผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับสภาพการแข่งขันของธุรกิจสื่อที่จะรุนแรงมากขึ้นเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว อย่างไรก็ดี ยังมีประเด็นที่อาจจะทำให้ ผลประกอบการปี 2552 – 2553 ดีกว่าที่ SCRI คาดการณ์จาก 1) การรับรู้ส่วนแบ่งรายได้ค่าโฆษณาจาก TrueVisions ทั้งจำนวนในงวดเดียวใน Q4/52 2) ความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นส่วนแบ่งรายได้จาก BEC เพิ่มขึ้นจากสัญญาสัมปทานเดิม และ 3) การรับรู้ส่วนแบ่งรายได้ค่าโฆษณาปี 2553 จาก TrueVisions อาจจะมากกว่า SCRI คาด นอกจากนี้ SCRI ยังประเมินปัจจัยบวกจากมีความเป็นไปได้สูงที่กรรมาธิการร่างกฎหมายฯ อาจจะลบ มาตรา 77 วรรค 2 ออกจากร่างพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งจะส่งผลประโยชน์ให้ MCOT ที่ไม่ต้องนำส่งรายได้จากธุรกิจที่ใช้คลื่นความถี่ที่ได้ให้สัมปทานให้แก่รัฐฯตามที่เคยมีความกังวลกันก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าระดับราคาหุ้นของ MCOT จะปรับเพิ่มขึ้นกว่า 72% YTD แต่ระดับ PER ปี 2552 ของ MCOT ยังคงต่ำเพียง 11.8 เท่า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 14.3 เท่า และยังมีผลตอบแทนเงินปันผลอีก 6.1% ดังนั้น SCRI จึงยังคงแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าเหมาะสม 23.40 บาท

นโยบายธุรกิจเน้นสร้างรายได้จากสื่อใหม่และลดการพึ่งพารายการภายนอก :
SCRI ได้มีโอกาสพบปะผู้อำนวยการคนใหม่ คุณ ธนวัฒน์ วันสม ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมายที่จะหารายการ (Content) ใหม่ๆโดยการเข้าไปมีส่วนร่วมในการผลิตเพิ่มมากขึ้น เช่น การผลิตรายการ Sit Com ซึ่งเป็นจุดแข็งของ MCOT และ การผลิตภาพยนตร์ร่วมกับผู้ผลิตภายนอกอย่างน้อยปีละ 1 เรื่อง อีกทั้งยังหาช่องทางการกระจายรายการไปยังสื่อโฆษณาใหม่ เช่น Digital TV แบบ High Definition ที่เพิ่งเริ่มดำเนินการเป็นรายแรกของประเทศ หารายได้เพิ่ม ถึงแม้ว่า SCRI เห็นด้วยที่ว่าการหาช่องทางเพิ่มรายได้ผ่านสื่อรูปแบบใหม่เป็นนวัตกรรมธุรกิจที่น่าสนใจแต่ยังเชื่อว่าเทคโนโลยีดังกล่าวยังใหม่เกินไปสำหรับประเทศไทยซึ่งจะต้องใช้เวลาในการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคไปพร้อมๆกัน ดังนั้น SCRI เชื่อว่า รายได้จากการเพิ่มช่องทางการกระจายรายการไปยังสื่ออื่นๆยังเร็วเกินไปที่จะประเมินมูลค่าและคาดว่าจะยังไม่สามารถสร้างรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยให้ MCOT ได้ในปี 2553 – 2554 ดังนั้น SCRI จึงยังคงประมาณการรายได้จากธุรกิจสื่อในปี 2553 ไว้ที่ 3,750 ล้านบาท และ คาดว่าจะเพิ่มเป็น 3,968 ล้านบาท ในปี 2554

รายได้ค่าโฆษณาของ TrueVision อาจจะสูงกว่าคาด เพิ่มกำไรให้ MCOT โดยตรง :  MCOT อยู่ระหว่างการรอคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุดต่อสัญญาร่วมดำเนินกิจการฉบับเพิ่มเติมที่ MCOT อนุญาตให้ TrueVision สามารถโฆษณาในโทรทัศน์บอกรับสมาชิกได้ ทั้งนี้ ผู้บริหาร MCOT คาดว่าการทำสัญญาระหว่างสองบริษัทจะเกิดขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งจะทำให้ MCOT สามารถรับรู้รายได้ที่แบ่งจาก TrueVisions ที่ได้เริ่มโฆษณาเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ Q2/52 เป็นต้นมา ถึงแม้ว่า SCRI คาดว่ารายได้ค่าโฆษณาจะมีมูลค่าไม่สูงนักในปี 2552 เนื่องจากยังเป็นช่วงเริ่มต้นของการโฆษณาที่ต้องตั้งราคาที่ชักจูงใจประกอบการเศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งนี้จากการประมาณการ SCRI คาดว่า MCOT จะรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จากค่าโฆษณาใน TrueVisions จำนวน 25 ล้านบาท โดยจะรับรู้ทั้งจำนวนใน Q4/52 อย่างไรก็ดี หากรายได้ค่าโฆษณาของ TrueVisions สูงกว่าคาดจะทำให้กำไรสุทธิของ MCOT ปรับตัวสูงขึ้นกว่าที่ SCRI คาดการณ์ไว้

การแก้ไข ร่าง พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ อาจเป็นประโยชน์กับ MCOT : หลังจากที่ MCOT และ รัฐวิสาหกิจอื่นๆ (TOT และ CAT) ที่ได้รับผลกระทบจาก ร่าง พรบ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ได้ยื่นหนังสือต่อตัวแทนของรัฐบาลโดยขอให้ ถอนมาตรา 77 วรรค 2 ที่ระบุให้ MCOT นำส่งรายได้ 50% จากกิจการที่ใช้คลื่นความถี่ที่ได้ให้สัมปทาน (BEC) ออกจากร่างกฎหมาย เนื่องจากสัมปทานร่วมการงานในธุรกิจที่ใช้คลื่นความถี่ของ MCOT กับ BEC เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการประกาศใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงไม่ควรจะทำให้ธุรกิจที่ดำเนินงานมาก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบ จากการเปิดเผยของ นายสาทิตย์ วงษ์หนองเตย ในหนังสือพิมพ์ และ ผู้บริหารของ MCOT ที่ได้เข้าร่วมการประชุมกรรมาธิการ จะถอนมาตราดังกล่าวออกจากร่าง พรบ. ซึ่ง SCRI ถือว่าเป็นประเด็นที่เป็นบวกต่อ MCOT จากเดิมที่มีความกังวลว่ารายได้จากธุรกิจร่วมการงานของ BEC ที่ MCOT จะได้รับในอนาคตจะลดลง 50% นอกจากนี้ หาก MCOT สามารถเจรจาให้มีการปรับส่วนแบ่งรายได้เพิ่มขึ้นได้จะยิ่งส่งผลบวกต่อรายได้ของ MCOT มากยิ่งขึ้น

การต่อรองค่าสัมปทานใหม่ของ BEC อาจสูงถึง 6.5% : จากประเด็นที่ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (บริษัทย่อยของ BEC) ซึ่งเป็นผู้ได้รับสัมปทานจาก MCOT ในการให้บริการสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ยังไม่ได้รับการต่อสัญญาในช่วง 10 ปีสุดท้าย (ปี 2553 – 2563) เนื่องจาก MCOT ต้องการส่วนแบ่งรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมรวม 2,020 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงมากเมื่อเทียบกับการทำสัญญาครั้งแรก ทั้งนี้ผู้บริหารทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจากันแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อยุติและยังมีกระบวนการทางกฎหมายอีกหลายขั้นตอน อีกทั้งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีกด้วย ทั้งนี้ MCOT มีความต้องการที่จะขอเพิ่มส่วนแบ่งรายได้เป็น 6.5% ของรายได้ค่าโฆษณาของ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ซึ่งเป็นอัตราส่วนเดิมที่เคยจ่ายก่อนจะเปลี่ยนแปลงสัญญาเป็นจำนวนตายตัวต่อปีและเพิ่มขึ้นจากระดับในสัญญาสัมปทานเดิมที่คิดเป็น 1.9% ของรายได้ค่าโฆษณา ซึ่งหากเป็นจำนวนดังกล่าวจริง ถือว่าจะเป็นประโยชน์ต่อ MCOT เพิ่มมากขึ้นโดยจะได้รับเงินเพิ่มขึ้นเป็น 4,840 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2,820 ล้านบาท

แนะนำ "ซื้อ" มูลค่าเหมาะสม 23.40 บาท : ถึงแม้ว่าระดับราคาหุ้นของ MCOT จะปรับเพิ่มขึ้นกว่า 72% YTD แต่ระดับ PER ปี 2553 ของ MCOT ยังคงต่ำเพียง 11.8 เท่า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 14.3 เท่า และยังมีผลตอบแทนเงินปันผลอีก 6.1% ดังนั้น SCRI จึงยังคงแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าเหมาะสม 23.40 บาท

แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น