ASTVผู้จัดการรายวัน- ครม.ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง พื้นที่เขตดุสิต ช่วง18-22 ก.ย. รับการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง "มาร์ค"ยันมีความจำเป็นต้องป้องกันไว้ก่อนไม่ต้องการให้ซ้ำรอย "สงกรานต์เลือด" เชื่อภาคธุรกิจ-ต่างชาติเข้าใจ "ธานี" คาดม็อบเสื้อแดงมา 2 หมื่น เตรียมกำลังไว้รับมือ 4 พัน ขณะที่ฝ่ายทหารเพิ่มกำลังอีกเท่าตัว
วานนี้ (15ก.ย.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการประกาศใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงในราชอาณาจักร เพื่อดูแลการชุมนุมของกลุ่ม นปช. โดยให้ประกาศใช้ระหว่างวันที่ 18-22 ก.ย. เฉพาะพื้นที่เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และมอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้อำนวยการสถานการณ์ ซึ่งจะมีการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อเตรียมการในรายละเอียดและการตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เบื้องต้นจะประกาศใช้เป็นเวลา 5 วัน ก่อนประเมินสถานการณ์ว่าจะขยายเวลาประกาศใช้หรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวจะไม่กระทบหรือเป็นการละเมิดสิทธิประชาชน
ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าอาจจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้นนั้น นายปณิธาน กล่าวว่า เงื่อนไขที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในขณะนี้นั้นยังไม่มี นายกรัฐมนตรี ก็ได้ยืนยันต่อครม.อย่างชัดเจนว่า ประชาชนก็ไม่เห็นด้วย เนื่องจากขณะนี้ประชาชนต้องการการเมืองที่มีเสถียรภาพ รวมทั้งต้องการให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
**มาร์คกำชับหลีกเลี่ยงยั่วยุ-ปะทะ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อรับมือการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า เนื่องจากแกนนำได้ประกาศว่า จะมีการชุมนุมใหญ่ ถ้อยคำในแง่การใช้วัตถุประสงค์การชุมนุม มีลักษณะในการจะล้มล้าง ซึ่งไม่ชัดเจน ว่าจะล้มล้างพวกอำมาตย์ หรือทั้งเรื่องรัฐบาล และในช่วงที่ผ่านมามีการอบรม เรื่องการสถาปนารัฐใหม่ ฉะนั้นมีข้อห่วงใยว่า ถ้าเกิดความสับสน ไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไรกันแน่ ก็จะเป็นปัญหา
สำหรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในด้านเศรษฐกิจนั้น นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า ไม่มีปัญหา เพราะเคยประกาศมาแล้ว 2 ครั้ง ที่ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ได้มีการทำความเข้าใจ ต่างประเทศ ก็เข้าใจ ต้องยืนยันว่าเป็นมาตรการหนึ่งในการป้องกันเป็น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ดีกว่าปล่อยให้เกิดปัญหาขึ้นและมาแก้ไขกัน ซึ่งจะเป็นเรื่องยาก
เมื่อถามว่าจะชี้แจงในที่ประชุมยูเอ็นอย่างไร เมื่อมีการใช้ทหารเข้าควบคุมตามประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ของเราไม่มีปัญหา เพราะกฎหมายของเรา กฎหมายไม่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว
"ตรงนี้อยากจะย้ำอีกครั้งว่า ประกาศเพื่อมีเครื่องมือ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ไม่ได้ประกาศเพื่อจะได้เกิดปัญหากัน วันข้างหน้าถ้าเรามีกฎหมายการชุมนุมในที่สาธารณะ ซึ่งนักวิชาการเห็นตรงกันมาก ความจำเป็นที่จะประกาศตรงนี้ ก็จะหมดไป " นายกรัฐมนตรี กล่าว
**"ธานี"คาดม็อบเสื้อแดง 2 หมื่น**
วานนี้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวหลังเข้ารับฟังการบรรยายสรุปจากคณะทำงานศึกษา และพัฒนาวิธีปฏิบัติงานควบคุมฝูงชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า แผนนี้จะเป็นแผนการทำงานหลัก มีการวางรายละเอียดทั้งเรื่องกำลัง การส่งกำลังบำรุง การประชาสัมพันธ์ แต่ละหน่วยมีหน้าที่ทำอะไรบ้างกำหนดไว้หมด มีการแจกจ่ายคู่มือนี้ให้ทุกหน่วยแล้ว
ส่วนการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ของรัฐบาลนั้น ตำรวจไม่มีปัญหาอะไร ทำตามหน้าที่เหมือนเดิม ส่วนการจะใช้กำลังสลายการชุมนุมนั้น จะมีการใช้แก๊สน้ำตาหรือไม่ เรื่องนี้ขอให้มองในภาพปัจจุบัน อย่าไปมองภาพในอดีต เราเน้นการเจรจา หลีกเลี่ยงการใช้อาวุธ ทุกอย่างทำตามขั้นตอน ดูตามสถานการณ์ทุกอย่างเขียนไว้ในแผนหมดแล้ว
ส่วนการเฝ้าระวังมือที่ 3 ที่จะก่อเหตุนั้น ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเฝ้าระวังสถานที่สำคัญ บุคคลสำคัญตามแผน รวมทั้งดูแลความสงบเรียบร้อยทั่วไปของประชาชนตามปกติ
"สำหรับกำลังตำรวจที่จะใช้ดูแลรักษาความสงบในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ได้เตรียมกำลังไว้ประมาณ 3,900-4,000 นาย ส่วนการประเมินจำนวนกลุ่มผู้ชุมนุมคาดว่าจะมีประมาณ 20,000 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก " พล.ต.อ.ธานีกล่าว
**สั่งอารักขาเข้มบ้าน"ป๋าเปรม"
พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า ผบ.ทบ.เป็นห่วงในเรื่องการดูแลประชาชน จึงได้มีการสอบถามถึงการวางแผนในการรักษาความปลอดภัยในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายยุทธการ ไปเตรียมข้อมูลด้านการข่าว และการใช้กำลัง เพื่อนำข้อมูลเสนอต่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.ศรส.) ซึ่งแผนที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยคงปรับจากแผนเดิมที่เคยใช้เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนจะมีการปรับมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับนายสุเทพ
"จากการข่าวที่ ระบุว่า กลุ่มเสื้อแดงจะเคลื่อนย้ายการชุมนุมไปยังบ้านพักพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษนั้น เป็นจุดที่เพิ่มมาจากการชุมนุมครั้งที่แล้ว ทำให้ครั้งนี้เราต้องดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณบ้านพัก พล.อ. เปรม เพิ่มเติม และการที่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงมีสถานที่สำคัญ และมีบ้านพักอาศัยของประชาชนด้วย จึงเกรงว่า อาจทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก ทำให้เราต้องรักษาความปลอดภัยเข้มข้นมากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมไปละเมิดสิทธิ์ของบุคคลอื่นที่อยู่ในพื้นที่" โฆษกกอ.รมน.กล่าว
พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า การชุมนุมที่อยู่ในขอบเขต และไม่ละเมิดสิทธิใครสามารถทำได้ รวมถึงประชาชนจากต่างจังหวัด ที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯก็สามารถเดินทางเข้ามาชุมนุมได้ โดยเราจะไม่มีการสกัดกั้น แต่การเข้ามาชุมนุมต้องต้องอยู่ในขอบเขต แสดงออกเป็นพื้นที่ และไม่ปิดกั้นพื้นที่คนอื่น รวมถึงไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน
ทั้งนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. จะได้จัดทำโครงสร้างอัตรากำลังที่คาดว่าน่าจะมีการใช้กำลังจากทหารและตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ และมีกำลังเสริมที่เตรียมพร้อมไว้ มากกว่ากำลังที่เตรียมไว้เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ประมาณหนึ่งเท่าตัว
วานนี้ (15ก.ย.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการประกาศใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงในราชอาณาจักร เพื่อดูแลการชุมนุมของกลุ่ม นปช. โดยให้ประกาศใช้ระหว่างวันที่ 18-22 ก.ย. เฉพาะพื้นที่เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และมอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้อำนวยการสถานการณ์ ซึ่งจะมีการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อเตรียมการในรายละเอียดและการตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เบื้องต้นจะประกาศใช้เป็นเวลา 5 วัน ก่อนประเมินสถานการณ์ว่าจะขยายเวลาประกาศใช้หรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวจะไม่กระทบหรือเป็นการละเมิดสิทธิประชาชน
ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าอาจจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้นนั้น นายปณิธาน กล่าวว่า เงื่อนไขที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในขณะนี้นั้นยังไม่มี นายกรัฐมนตรี ก็ได้ยืนยันต่อครม.อย่างชัดเจนว่า ประชาชนก็ไม่เห็นด้วย เนื่องจากขณะนี้ประชาชนต้องการการเมืองที่มีเสถียรภาพ รวมทั้งต้องการให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
**มาร์คกำชับหลีกเลี่ยงยั่วยุ-ปะทะ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อรับมือการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า เนื่องจากแกนนำได้ประกาศว่า จะมีการชุมนุมใหญ่ ถ้อยคำในแง่การใช้วัตถุประสงค์การชุมนุม มีลักษณะในการจะล้มล้าง ซึ่งไม่ชัดเจน ว่าจะล้มล้างพวกอำมาตย์ หรือทั้งเรื่องรัฐบาล และในช่วงที่ผ่านมามีการอบรม เรื่องการสถาปนารัฐใหม่ ฉะนั้นมีข้อห่วงใยว่า ถ้าเกิดความสับสน ไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไรกันแน่ ก็จะเป็นปัญหา
สำหรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในด้านเศรษฐกิจนั้น นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า ไม่มีปัญหา เพราะเคยประกาศมาแล้ว 2 ครั้ง ที่ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ได้มีการทำความเข้าใจ ต่างประเทศ ก็เข้าใจ ต้องยืนยันว่าเป็นมาตรการหนึ่งในการป้องกันเป็น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ดีกว่าปล่อยให้เกิดปัญหาขึ้นและมาแก้ไขกัน ซึ่งจะเป็นเรื่องยาก
เมื่อถามว่าจะชี้แจงในที่ประชุมยูเอ็นอย่างไร เมื่อมีการใช้ทหารเข้าควบคุมตามประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ของเราไม่มีปัญหา เพราะกฎหมายของเรา กฎหมายไม่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว
"ตรงนี้อยากจะย้ำอีกครั้งว่า ประกาศเพื่อมีเครื่องมือ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ไม่ได้ประกาศเพื่อจะได้เกิดปัญหากัน วันข้างหน้าถ้าเรามีกฎหมายการชุมนุมในที่สาธารณะ ซึ่งนักวิชาการเห็นตรงกันมาก ความจำเป็นที่จะประกาศตรงนี้ ก็จะหมดไป " นายกรัฐมนตรี กล่าว
**"ธานี"คาดม็อบเสื้อแดง 2 หมื่น**
วานนี้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวหลังเข้ารับฟังการบรรยายสรุปจากคณะทำงานศึกษา และพัฒนาวิธีปฏิบัติงานควบคุมฝูงชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า แผนนี้จะเป็นแผนการทำงานหลัก มีการวางรายละเอียดทั้งเรื่องกำลัง การส่งกำลังบำรุง การประชาสัมพันธ์ แต่ละหน่วยมีหน้าที่ทำอะไรบ้างกำหนดไว้หมด มีการแจกจ่ายคู่มือนี้ให้ทุกหน่วยแล้ว
ส่วนการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ของรัฐบาลนั้น ตำรวจไม่มีปัญหาอะไร ทำตามหน้าที่เหมือนเดิม ส่วนการจะใช้กำลังสลายการชุมนุมนั้น จะมีการใช้แก๊สน้ำตาหรือไม่ เรื่องนี้ขอให้มองในภาพปัจจุบัน อย่าไปมองภาพในอดีต เราเน้นการเจรจา หลีกเลี่ยงการใช้อาวุธ ทุกอย่างทำตามขั้นตอน ดูตามสถานการณ์ทุกอย่างเขียนไว้ในแผนหมดแล้ว
ส่วนการเฝ้าระวังมือที่ 3 ที่จะก่อเหตุนั้น ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเฝ้าระวังสถานที่สำคัญ บุคคลสำคัญตามแผน รวมทั้งดูแลความสงบเรียบร้อยทั่วไปของประชาชนตามปกติ
"สำหรับกำลังตำรวจที่จะใช้ดูแลรักษาความสงบในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ได้เตรียมกำลังไว้ประมาณ 3,900-4,000 นาย ส่วนการประเมินจำนวนกลุ่มผู้ชุมนุมคาดว่าจะมีประมาณ 20,000 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก " พล.ต.อ.ธานีกล่าว
**สั่งอารักขาเข้มบ้าน"ป๋าเปรม"
พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า ผบ.ทบ.เป็นห่วงในเรื่องการดูแลประชาชน จึงได้มีการสอบถามถึงการวางแผนในการรักษาความปลอดภัยในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายยุทธการ ไปเตรียมข้อมูลด้านการข่าว และการใช้กำลัง เพื่อนำข้อมูลเสนอต่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.ศรส.) ซึ่งแผนที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยคงปรับจากแผนเดิมที่เคยใช้เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนจะมีการปรับมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับนายสุเทพ
"จากการข่าวที่ ระบุว่า กลุ่มเสื้อแดงจะเคลื่อนย้ายการชุมนุมไปยังบ้านพักพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษนั้น เป็นจุดที่เพิ่มมาจากการชุมนุมครั้งที่แล้ว ทำให้ครั้งนี้เราต้องดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณบ้านพัก พล.อ. เปรม เพิ่มเติม และการที่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงมีสถานที่สำคัญ และมีบ้านพักอาศัยของประชาชนด้วย จึงเกรงว่า อาจทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก ทำให้เราต้องรักษาความปลอดภัยเข้มข้นมากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมไปละเมิดสิทธิ์ของบุคคลอื่นที่อยู่ในพื้นที่" โฆษกกอ.รมน.กล่าว
พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า การชุมนุมที่อยู่ในขอบเขต และไม่ละเมิดสิทธิใครสามารถทำได้ รวมถึงประชาชนจากต่างจังหวัด ที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯก็สามารถเดินทางเข้ามาชุมนุมได้ โดยเราจะไม่มีการสกัดกั้น แต่การเข้ามาชุมนุมต้องต้องอยู่ในขอบเขต แสดงออกเป็นพื้นที่ และไม่ปิดกั้นพื้นที่คนอื่น รวมถึงไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน
ทั้งนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. จะได้จัดทำโครงสร้างอัตรากำลังที่คาดว่าน่าจะมีการใช้กำลังจากทหารและตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ และมีกำลังเสริมที่เตรียมพร้อมไว้ มากกว่ากำลังที่เตรียมไว้เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ประมาณหนึ่งเท่าตัว