“ป๊อก” กระดิกเท้ารอ “มาร์ค” สั่งประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงกำราบ “ม็อบแดงถ่อย” รับกังวลเปลี่ยนตัว ผบ.ตร.ใหม่ทำนโยบายเปลี่ยน เผยพบ “ประวิตร” ให้กำลังใจหลังจากที่น้องชายถูกเด้งพ้นเก้าอี้ ผบ.ตร. แอบเหน็บ ป.ป.ช.ตัดสินแล้ว “ใครจะไปทำอะไรได้” ชี้ต่อไปเป็นอุปสรรคให้ ตร.ไม่กล้าสลายม็อบ ด้าน กอ.รมน.ขานรับ หากรัฐให้ช่วยจัดการแดงถ่อยชุมนุมหน้าบ้าน “ป๋าเปรม” 19 ก.ย.นี้
วันนี้ (13 ก.ย.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ว่า ขณะนี้เมื่อมีการเปลี่ยนตัว ผบ.ตร.ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอาอย่างไร แต่แผนการปฏิบัติการก็น่าจะเป็นแผนเดิมๆ ขึ้นอยู่กับว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการแค่ไหน พร้อมทั้งต้องคอยดูนโยบาย ผบ.ตร.คนใหม่ด้วย สำหรับทางทหารจะเป็นแค่ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น แต่ถ้าหากทางรัฐบาลมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงก็ค่อยมาว่ากันอีกที
เมื่อถามว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปประชุมสมัชชาสหประชาชน ที่ประเทศสหรัสฯ ในช่วง 20-26 ก.ย.นี้ อาจมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อรองรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า สัปดาห์หน้าคงมีความชัดเจนเรื่องนี้ ตอนนี้ยังไม่รู้ เนื่องจากจุดที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมไม่ใช่ทำเนียบรัฐบาล แต่จะไปชุมนุมที่หน้าบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ส่วนรัฐบาลจะเอาอย่างไรก็ขอให้แจ้งต้องกองทัพมา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการพูดจาอะไร และคิดว่าเมื่อเปิดวันทำการราชการจะมีการพูดจากัน
เมื่อถามว่า ในส่วนของกองทัพได้เตรียมความพร้อมอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ยังเหมือนเดิม ถ้าจะให้ตนเดาก็คงเหมือนเดิม คือ นายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงรับผิดชอบ ซึ่งนายสุเทพจะมีคำสั่งมอบหมายให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เป็นหน่วยวางแผนปฏิบัติแต่ความรับผิดชอบใหญ่อยู่ที่นายสุเทพ เมื่อถามว่าได้มีการประเมินสถานการณ์ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ จะรุนแรงหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ก็จะมีการชุมนุมที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ แต่เราจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดความรุนแรง ทั้งนี้ ต้องฟังรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไรจะให้เข้าไปได้แค่ไหนอย่างไร หรือถ้าไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปเลย จะทำอย่างไรเรื่องนี้ต้องถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะทำอย่างไร
เมื่อถามว่า มีการหารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ถูกปลดจาก ผบ.ตร.หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนก็ให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร แต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร เพราะเป็นเรื่องของ ป.ป.ช. ใครจะไปทำอะไรได้ เมื่อถามว่า อนาคตต่อจากนี้ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่อาจจะมีผลกระทบเกิดขึ้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เรื่องอย่างนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีผลมากกว่า เพราะตำรวจเองก็รู้กฏหมายมากกว่าทหาร เราเองไม่ค่อยจะรู้กฏหมาย เขารู้ว่าเมื่อปฏิบัติไปแล้วโดนอะไรอย่างไร เมื่อถามว่าต่อไป ทางทหารเองก็ต้องระมัดระวังมากขึ้นในการปฏิบัติหน้าที่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวสั้นๆว่า ก็คงเป็นอย่างนั้นขณะนี้ยังไม่รู้อะไรซึ่งนี่คือปัญหา
ด้าน พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กล่าวถึงการเตรียมประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 15 ก.ย.นี้ ถ้านายกรัฐมนตรีมีข้อมูลพิจารณาประกอบการตัดสินใจแล้วว่าจะประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ เพราะนายกฯสามารถตกลงใจได้เมื่อรู้ข้อมูลวัตถุประสงค์ของกลุ่มผู้ชุมนุม หรือถ้าพิจารณาแล้วว่าการชุมนุมไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงก็อาจไม่จำเป็น ซึ่งอาจจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แผนควบคุมการชุมนุมเท่านั้นหรือหากไม่สามารถควบคุมได้ก็สามารถร้องขอทหารมาช่วยในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เรื่องนี้ก็แล้วแต่ว่ารัฐบาลมีข้อมูลมากน้อยแค่ไหนถึงการข่าวว่า ฝ่ายที่ชุมนุนมจะทำอะไรแค่ไหนอย่างไร อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่มีการยั่วยุ ขว้างปาสิ่งของใส่นายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ จ.ลพบุรีเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเป็นดัชนีเร่งเร้าให้รัฐบาลต้องเตรียมการณ์รับมือ การชุมนุนม เพราะเมื่อดูเจตนาแล้วกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ต้องการให้เกิดความสงบ ทั้งนี้หากรัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่คงอกอมาเจ้าหน้าที่จะได้มีเวลาเตรียมการณ์แผนบูรณาการป้องปราม ป้องกัน ไม่ให้ทำการใดๆ ให้เกิดความรุนแรง
ขณะที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกองทัพบก กล่าวว่า ภารกิจของกองทัพก็คงเหมือนเดิมถ้าได้รับมอบภารกิจหน้าที่มาจะเตรียมกำลังเข้าไปศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ขณะนี้เพียงแต่รอคำสั่งจากรัฐบาลในการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งในเร็วๆ นี้จะมีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ด้านการข่าว ซึ่งการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจริงๆ แล้วไม่น่ากังวลแต่สิ่งที่น่ากังวลคือกลุ่มผู้ไม่หวังดีฉกฉวยสร้างสถานการณ์ ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเน้นเรื่องการข่าวเป็นหลัก เมื่อถามว่าทางกองทัพได้เตรียมกำลังทหารเท่าเดิมหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า น่าจะเตรียมกำลังเท่าเดิมจำนวน 33 กองร้อย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตำรวจใช้แผนกรกฎตามเดิม ส่วนทหารไม่มีแผนรอรับ เพียงแต่รับคำสั่งจากศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย