นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องเศรษฐกิจ ในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธิ์" เมื่อเช้าวานนี้ (13ก.ย.) ว่า ตัวเลขต่างๆ มีแนวโน้มที่ดี เห็นได้จากอัตราการว่างงานที่ลดลง จากเคยที่คาดการณ์ไว้กว่า 1 ล้านคน แต่ขณะนี้อยู่ที่ 300,000-500,000 คน บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่รัฐบาลยังคงเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการไทยเข้มแข็ง
"ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นโดยล่าสุดมีรายงานว่า ตัวเลขการว่างงานค่อย ๆ ลดลงตามลำดับ จนกระทั่งเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะช่วยยืนยันว่าไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่ต้องประคับประคองกันต่อไป" นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ (14 ก.ย.) วุฒิสภา จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 หากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ก็จะเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จึงอยากถือโอกาสนี้ ขอความสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฯ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถใช้จ่ายเป็นไปตามตารางเวลา ส่วนข้อสังเกตต่างๆ รัฐบาลพร้อมรับมาพิจารณาและพร้อมให้ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ
นอกจากนี้ไทย ยังได้รับการจัดอันดับการทำธุรกิจในแง่ความเชื่อมั่นและความสะดวก โดยอยู่อันดับที่ 12 ของโลก ถือเป็นอันดับที่ดีพอสมควร ซึ่งรัฐบาลจะผลักดันให้ขีดความสามารถการแข่งขัน การดึงดูดการลงทุนดีขึ้น
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงมาตรการการประกันราคาสินค้าเกษตรว่า เป็นนโยบายที่มีความสำคัญต่อเกษตรกรทั่วประเทศ ซึ่งยืนยันว่า จะเป็นนโยบายที่ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเป็นระบบ และเป็นธรรมมากที่สุด ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ โดยมั่นใจว่า นโยบายดังกล่าวจะต้องเดินหน้าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ สามารถพัฒนาไปสู่ภาคการเกษตร ทำให้สามารถแข่งขันได้ในอนาคต
"ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นโดยล่าสุดมีรายงานว่า ตัวเลขการว่างงานค่อย ๆ ลดลงตามลำดับ จนกระทั่งเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะช่วยยืนยันว่าไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่ต้องประคับประคองกันต่อไป" นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ (14 ก.ย.) วุฒิสภา จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 หากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ก็จะเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จึงอยากถือโอกาสนี้ ขอความสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฯ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถใช้จ่ายเป็นไปตามตารางเวลา ส่วนข้อสังเกตต่างๆ รัฐบาลพร้อมรับมาพิจารณาและพร้อมให้ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ
นอกจากนี้ไทย ยังได้รับการจัดอันดับการทำธุรกิจในแง่ความเชื่อมั่นและความสะดวก โดยอยู่อันดับที่ 12 ของโลก ถือเป็นอันดับที่ดีพอสมควร ซึ่งรัฐบาลจะผลักดันให้ขีดความสามารถการแข่งขัน การดึงดูดการลงทุนดีขึ้น
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงมาตรการการประกันราคาสินค้าเกษตรว่า เป็นนโยบายที่มีความสำคัญต่อเกษตรกรทั่วประเทศ ซึ่งยืนยันว่า จะเป็นนโยบายที่ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเป็นระบบ และเป็นธรรมมากที่สุด ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ โดยมั่นใจว่า นโยบายดังกล่าวจะต้องเดินหน้าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ สามารถพัฒนาไปสู่ภาคการเกษตร ทำให้สามารถแข่งขันได้ในอนาคต
