นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าในการประชุมสภา เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 จะพยายามใช้ข้อบังคับให้มากที่สุดเพื่อจะทำให้การประชุมอยู่ในกรอบ เพราะเป็นการพิจารณางบประมาณ วาระที่ 2 ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตนต้องใช้ความอดทน เพื่อจะทำให้ทุกคน สบายใจ โดยขอยืนยันว่า ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด แต่จะพยามยามสร้างความเป็นธรรม ให้มากในฐานะที่เป็นประมุขของพวกเขา
เหตุการณ์ในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ไม่รู้ แต่ขณะนี้มีคนพยามยามท้าทาย ให้ยุบสภา ซึ่งผมคิดว่าอาจจะมีการยุบสภาในเร็วๆนี้ เพราะส่วนมากหลังการพิจารณา งบประมาณรายจ่ายผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ก็จะมีงบประมาณให้ กกต.ดำเนินการจัดการเลือกตั้งในปี 2553 แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ซึ่งจะมีการยุบสภาเมื่อไรนั้น ผมไม่ทราบ แต่ขณะนี้ส.ส.ฝ่ายค้าน ต้องการให้ยุบสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่บอกว่าจะยุบสภาเร็วๆนี้ เป็นเพราะนายเนวิน ชิดชอบ บุตรชาย และแกนนำพรรคภูมใจไทย ส่งสัญญาณให้ทราบหรือไม่ นายชัย กล่าววว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้พบ และพูดคุยกับนายเนวิน เนื่องจากช่วงนี้งานยุ่งๆ อยู่ ส่วนถ้ามีการเลือกตั้งจะลงสมัคร ส.ส.อีกสมัยหรือไม่นั้น ต้องดูก่อนว่าสื่อให้ลงสมัครหรือไม่
ต่อข้อถามว่าว่าหากมีการยุบสภา พรรคภูมิใจไทย พร้อมสำหรับการเลือกตั้งหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า นักการเมืองเกิดมาต้องพร้อมทุกวินาที ไม่ว่าพรรคไหน แค่ขอให้มีเงินค่าสมัคร 10,000 บาท และมีคุณสมบัติพร้อม ก็ใช้ได้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของนายชัย ชิดชอบที่ระบุว่าหลังสภาฯผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ อาจยุบสภาว่า ประธานสภาไม่มีอำนาจในการยุบสภาอยู่แล้ว เมื่อถามว่าเป็นการส่งสัญญานอะไรหรือไม่ ทำให้นายชัยออกมาพูดเช่นนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าใจว่าท่านคงเครียดครับ เมื่อวานคุมการประชุมสภายาก ส่วนจะมีนัยยะอะไรหรือไม่คงต้องถามท่าน แต่ผมดูว่า 2-3 วันนี้ท่านเครียดจัง
ส่วนจะมีแนวคิดยุบสภาหลังร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯผ่านหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี เมื่อถามว่าคิดว่าจะถูกกดดันจากพรรคร่วมรัฐบาลขอให้ยุบสภา หรือไม่เพราะงบประมาณก็ลงไปหมดแล้ว นายอภิสิทธิ์ หัวเราะก่อนจะกล่าวว่า โห! อะไรมันจะเร็วขนาดนั้น
เมื่อถามว่าหากจะมีการยุบสภาควรมีการแก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จก่อนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ตนเคยพูดถึงการยุบสภาคงจะทำได้ว่า 1.ถ้ากติกามีการปรับปรุงให้ทุกฝ่ายยอมรับก็น่าจะดีกว่าเพราะไม่เช่นนั้นเลือกตั้งเสร็จก็จะมาพูดกันอีกว่ากติกาไม่ดี ไม่ยอมรับก็จะเป็นปัญหาขึ้นมากอีก 2.เรื่องของการหาเสียงก็ควรจะเป็นไปในบรรยากาศที่เราจะไปหาเสียงได้ปกติ ไม่ใช่ว่าการเลือกตั้งจะเป็นเวทีที่ต่อสู้แล้วเกิดความรุนแรงซึ่งจะเป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประชาธิปไตยของประเทศ 3. เรายังมีภาระเรื่องการฟื้นเศรษฐกิจแม้จะมีสัญญานที่ดีขึ้นแต่ถ้าทำแล้วมันกระทบและงานของเราในฐานะประธานอาเซียนสะดุดเราก็ต้องคิด
ทั้งนี้และทั้งนั้นการยุบสภาไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก ก็เป็นกลไกหนึ่งตามระบอบประชาธิปไตย ถ้ามันมีความจำเป็นผมก็ไม่อยากให้เราไปบอกว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี ถ้ามีความจำเป็นช่วยแก้ปัญหาให้บ้านเมืองได้ก็ทำได้ ส่วนตัวของผมวันนี้ก็ยังเดินหน้าทำงาน เพราะเห็นว่าตอนนี้เศรษฐกิจกำลังมีโอกาสที่จะฟื้นชัดเจนมากในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า และมีนโยบายสำคัญหลายอย่างซึ่งกำลังเริ่มต้น ก็อยากจะผลักดัน เช่น เรื่องโฉนดชุมชนก็อยากผลักดันให้เสร็จ การแก้ปัญหาต่างๆก็อยากทำในเรื่องเหล่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าในสถานการณ์ขณะนี้คิดว่ามีตัวบีบรัดอะไรหรือไม่ที่ต้องทำให้ เกิดการยุบสภาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าตนมานั่งคิดแบบนั้นก็คงไม่ต้องทำอะไร ตนใช้เวลาที่มีอยู่มาคิดในการแก้ปัญหาและทำงาน จะมานั่งกังวลว่าจะมีเรื่องนั้นเกิดขึ้นหรือไม่คงไม่ได้
ต่อข้อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าในปีนี้จะไม่มีการยุบสภา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากพูดอะไร เพราะเรื่องการยุบสภาในอดีตเราก็ต้องดูประวัติศาสตร์ ไม่มีใครไปทำนายล่วงหน้า เดี๋ยวก็จะหาว่าไปยุบแล้วไปผิดคำพูด
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการประชุม สภาเมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าส.ส.ในสภา ทำอย่างไรก็ได้ให้การทำงานตรงนี้เป็นที่ศรัทธา ยอมรับของประชาชน เรื่องความเห็นแตกต่างกัน ทะเลาะกันบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ของประชาชนจริงๆ ทั้งนี้ก็ต้องควบคุมพฤติกรรมต่างๆ ไม่ให้ลุกลามบานปลายจนเป็นเรื่องของคำหยาบบ้างอะไรบ้างมันก็จะไม่เป็นผลดี
เหตุการณ์ในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ไม่รู้ แต่ขณะนี้มีคนพยามยามท้าทาย ให้ยุบสภา ซึ่งผมคิดว่าอาจจะมีการยุบสภาในเร็วๆนี้ เพราะส่วนมากหลังการพิจารณา งบประมาณรายจ่ายผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ก็จะมีงบประมาณให้ กกต.ดำเนินการจัดการเลือกตั้งในปี 2553 แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ซึ่งจะมีการยุบสภาเมื่อไรนั้น ผมไม่ทราบ แต่ขณะนี้ส.ส.ฝ่ายค้าน ต้องการให้ยุบสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่บอกว่าจะยุบสภาเร็วๆนี้ เป็นเพราะนายเนวิน ชิดชอบ บุตรชาย และแกนนำพรรคภูมใจไทย ส่งสัญญาณให้ทราบหรือไม่ นายชัย กล่าววว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้พบ และพูดคุยกับนายเนวิน เนื่องจากช่วงนี้งานยุ่งๆ อยู่ ส่วนถ้ามีการเลือกตั้งจะลงสมัคร ส.ส.อีกสมัยหรือไม่นั้น ต้องดูก่อนว่าสื่อให้ลงสมัครหรือไม่
ต่อข้อถามว่าว่าหากมีการยุบสภา พรรคภูมิใจไทย พร้อมสำหรับการเลือกตั้งหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า นักการเมืองเกิดมาต้องพร้อมทุกวินาที ไม่ว่าพรรคไหน แค่ขอให้มีเงินค่าสมัคร 10,000 บาท และมีคุณสมบัติพร้อม ก็ใช้ได้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของนายชัย ชิดชอบที่ระบุว่าหลังสภาฯผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ อาจยุบสภาว่า ประธานสภาไม่มีอำนาจในการยุบสภาอยู่แล้ว เมื่อถามว่าเป็นการส่งสัญญานอะไรหรือไม่ ทำให้นายชัยออกมาพูดเช่นนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าใจว่าท่านคงเครียดครับ เมื่อวานคุมการประชุมสภายาก ส่วนจะมีนัยยะอะไรหรือไม่คงต้องถามท่าน แต่ผมดูว่า 2-3 วันนี้ท่านเครียดจัง
ส่วนจะมีแนวคิดยุบสภาหลังร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯผ่านหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี เมื่อถามว่าคิดว่าจะถูกกดดันจากพรรคร่วมรัฐบาลขอให้ยุบสภา หรือไม่เพราะงบประมาณก็ลงไปหมดแล้ว นายอภิสิทธิ์ หัวเราะก่อนจะกล่าวว่า โห! อะไรมันจะเร็วขนาดนั้น
เมื่อถามว่าหากจะมีการยุบสภาควรมีการแก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จก่อนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ตนเคยพูดถึงการยุบสภาคงจะทำได้ว่า 1.ถ้ากติกามีการปรับปรุงให้ทุกฝ่ายยอมรับก็น่าจะดีกว่าเพราะไม่เช่นนั้นเลือกตั้งเสร็จก็จะมาพูดกันอีกว่ากติกาไม่ดี ไม่ยอมรับก็จะเป็นปัญหาขึ้นมากอีก 2.เรื่องของการหาเสียงก็ควรจะเป็นไปในบรรยากาศที่เราจะไปหาเสียงได้ปกติ ไม่ใช่ว่าการเลือกตั้งจะเป็นเวทีที่ต่อสู้แล้วเกิดความรุนแรงซึ่งจะเป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประชาธิปไตยของประเทศ 3. เรายังมีภาระเรื่องการฟื้นเศรษฐกิจแม้จะมีสัญญานที่ดีขึ้นแต่ถ้าทำแล้วมันกระทบและงานของเราในฐานะประธานอาเซียนสะดุดเราก็ต้องคิด
ทั้งนี้และทั้งนั้นการยุบสภาไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก ก็เป็นกลไกหนึ่งตามระบอบประชาธิปไตย ถ้ามันมีความจำเป็นผมก็ไม่อยากให้เราไปบอกว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี ถ้ามีความจำเป็นช่วยแก้ปัญหาให้บ้านเมืองได้ก็ทำได้ ส่วนตัวของผมวันนี้ก็ยังเดินหน้าทำงาน เพราะเห็นว่าตอนนี้เศรษฐกิจกำลังมีโอกาสที่จะฟื้นชัดเจนมากในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า และมีนโยบายสำคัญหลายอย่างซึ่งกำลังเริ่มต้น ก็อยากจะผลักดัน เช่น เรื่องโฉนดชุมชนก็อยากผลักดันให้เสร็จ การแก้ปัญหาต่างๆก็อยากทำในเรื่องเหล่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าในสถานการณ์ขณะนี้คิดว่ามีตัวบีบรัดอะไรหรือไม่ที่ต้องทำให้ เกิดการยุบสภาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าตนมานั่งคิดแบบนั้นก็คงไม่ต้องทำอะไร ตนใช้เวลาที่มีอยู่มาคิดในการแก้ปัญหาและทำงาน จะมานั่งกังวลว่าจะมีเรื่องนั้นเกิดขึ้นหรือไม่คงไม่ได้
ต่อข้อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าในปีนี้จะไม่มีการยุบสภา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากพูดอะไร เพราะเรื่องการยุบสภาในอดีตเราก็ต้องดูประวัติศาสตร์ ไม่มีใครไปทำนายล่วงหน้า เดี๋ยวก็จะหาว่าไปยุบแล้วไปผิดคำพูด
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการประชุม สภาเมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าส.ส.ในสภา ทำอย่างไรก็ได้ให้การทำงานตรงนี้เป็นที่ศรัทธา ยอมรับของประชาชน เรื่องความเห็นแตกต่างกัน ทะเลาะกันบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ของประชาชนจริงๆ ทั้งนี้ก็ต้องควบคุมพฤติกรรมต่างๆ ไม่ให้ลุกลามบานปลายจนเป็นเรื่องของคำหยาบบ้างอะไรบ้างมันก็จะไม่เป็นผลดี