หลังจากนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาจุดพลุเรื่องยุบสภา หลังการผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถามถึงเรื่องนี้ ในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ โดยมี นายสุวิช สุทธิประภา เป็นผู้ดำเนินรายการว่า เรื่องยุบสภานั้นตนไม่ค่อยกังวล เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย ต้องพูดแบบนี้ก่อน อย่าไปตื่นตระหนกตกใจ ถ้ายุบสภา หรือถ้าลาออก หรืออะไรก็แล้วแต่ แปลว่า มันเป็นปัญหา แต่สิ่งที่เราไม่ต้องการให้เกิด คือว่า ถ้ามันเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากความรุนแรง เป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งอยู่นอกกรอบ นอกกติกา ถ้าเป็นอย่างนั้นมันส่งผลกระทบไม่ใช่เฉพาะในส่วนของเราเอง แต่ว่าการจะทำให้ต่างประเทศเข้าใจยากมาก
เมื่อถามว่า ท่านนายกฯบอกไม่กังวล แสดงว่ามั่นใจว่าเลือกตั้งคราวหน้า ประชาธิปัตย์ จะชนะ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มั่นใจครับ ไม่ชนะ ก็แพ้ ก็มีอยู่ 2 อย่าง ขอให้เป็นกระบวนการที่เป็นการแข่งขันที่เปิดกว้าง ตนถึงบอกว่าความจริง ถ้าอยากจะเลือกตั้ง ก็อยากเห็นบรรยากาศบ้านเมืองสงบกว่านี้ ถ้าเลือกตั้งแล้วก็มีลักษณะที่บอกว่า ห้ามพรรคการเมืองมาหาเสียงจังหวัดนี้ ห้ามพรรคการเมืองนี้ไปหาเสียงจังหวัดนั้น ไม่อย่างนั้นอาจจะมีการปะทะกัน อะไรกัน อันนั้นไม่เป็นผลดีเลย ไม่เป็นประชาธิปไตยด้วย เพราะฉะนั้นถ้าบรรยากาศมันดีๆ คิดว่าการเลือกตั้งวันหนึ่งวันใดมันก็คงจะเกิดขึ้น ตนไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายอะไร
เมื่อถามว่า โดยเฉพาะบรรยากาศที่เมื่อสักครู่ ท่านนายกฯก็ย้ำ หลังจากพ.ร.บ.งบประมาณปี 53 ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เหลือวุฒิสภาอยู่ คือตัวเลขทางเศรษฐกิจเอง มาตรการของรัฐบาลเอง มันกำลังเดินไปข้างหน้า เศรษฐกิจโลกก็ดีขึ้น เศรษฐกิจไทยถ้าวัดเดือนต่อเดือน ไตรมาสต่อไตรมาส ก็เริ่มดีขึ้น มาตรการรัฐบาลชุดแรกลงไปเรียบร้อยแล้ว และทำต่อเนื่อง เช่น เรื่องเรียนฟรี เรื่องอะไรต่างๆ ชุดที่ 2 ที่บอกไทยเข้มแข็ง กำลังจะไปสร้างถนน จะไปสร้างแหล่งน้ำ ไปปรับปรุงโรงเรียน กำลังจะไปปรับปรุงสถานีอนามัย ก็จะเป็นผลดี ถ้าตรงนี้มันเดินได้ ตนกำลังมองว่าเรากำลังจะหลุดจากเงื่อนไขเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ แต่ว่าเรื่องการเมืองนั้นตนเข้าใจ
" คือผมไม่ได้บอกว่าจะต้องเป็นกันครบเทอมหรืออะไร เพียงแต่บอกว่า ประเด็นทางการเมืองที่จะต้องพูดคุยกัน ก็มาว่ากันตามระบบ ซึ่งเรื่องรัฐธรรมนูญก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำได้ แต่ต้องเข้าใจด้วยว่ามีประชาชนอีกจำนวนมากที่เขาไม่ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญ เราก็ต้องอธิบายได้ว่า ถ้าจะแก้ประเด็นนี้ ทำไมต้องแก้ มีความเร่งด่วนอย่างไร" นายกรัฐมนตรีกล่าว
เมื่อถามว่า ท่านนายกรัฐมนตรีมั่นใจ ถ้าพ.ร.บ.งบประมาณ ผ่านวุฒิสภาไปแล้ว เดินหน้าโครงการต่างๆทั้งหลายทั้งปวง จะลงพื้นที่ได้ไหมในแต่ละภูมิภาค นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆการลงพื้นที่ ตนก็ทำอยู่เป็นระยะๆ แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนตรงที่ว่า มันมีกลุ่มคนที่เขาไปประกาศว่า ไม่อยากให้ลง สำหรับตนคิดว่ามันไม่ถูกต้อง แต่ไม่อยากให้เป็นเงื่อนไข คือตนลงไป ก็จะต้องมีคนมาต่อต้าน พอมันมีบรรยากาศอย่างนี้ ก็ต้องมีหน่วยรักษาความปลอดภัย ต้องมีอะไรต่อมิอะไร เยอะแยะไปหมด มันก็จะทำให้สิ้นเปลือง และถ้าไปแล้วเกิดมีอะไรนิดอะไรหน่อย เกิดตีกันขึ้นมา มันก็เสียบรรยากาศบ้านเมือง แต่ว่าตน ก็อยากจะเรียกร้องว่า ถ้าเราเป็นนักประชาธิปไตย เราต้องเปิดใจกว้าง ปล่อยให้แต่ละคน แต่ละฝ่ายทำงานไป ฝ่ายตนก็ทำไป ฝ่ายค้าน ฝ่ายเสื้อแดงอยากจะทำงานอะไรก็ทำไป และประชาชนก็ไปตัดสินในช่วงของการเลือกตั้ง แต่ถ้าบอกว่าคุณห้ามมานะ อย่างนี้มันก็ไม่ใช่
เมื่อถามว่า ท่านนายกฯบอกไม่กังวล แสดงว่ามั่นใจว่าเลือกตั้งคราวหน้า ประชาธิปัตย์ จะชนะ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มั่นใจครับ ไม่ชนะ ก็แพ้ ก็มีอยู่ 2 อย่าง ขอให้เป็นกระบวนการที่เป็นการแข่งขันที่เปิดกว้าง ตนถึงบอกว่าความจริง ถ้าอยากจะเลือกตั้ง ก็อยากเห็นบรรยากาศบ้านเมืองสงบกว่านี้ ถ้าเลือกตั้งแล้วก็มีลักษณะที่บอกว่า ห้ามพรรคการเมืองมาหาเสียงจังหวัดนี้ ห้ามพรรคการเมืองนี้ไปหาเสียงจังหวัดนั้น ไม่อย่างนั้นอาจจะมีการปะทะกัน อะไรกัน อันนั้นไม่เป็นผลดีเลย ไม่เป็นประชาธิปไตยด้วย เพราะฉะนั้นถ้าบรรยากาศมันดีๆ คิดว่าการเลือกตั้งวันหนึ่งวันใดมันก็คงจะเกิดขึ้น ตนไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายอะไร
เมื่อถามว่า โดยเฉพาะบรรยากาศที่เมื่อสักครู่ ท่านนายกฯก็ย้ำ หลังจากพ.ร.บ.งบประมาณปี 53 ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เหลือวุฒิสภาอยู่ คือตัวเลขทางเศรษฐกิจเอง มาตรการของรัฐบาลเอง มันกำลังเดินไปข้างหน้า เศรษฐกิจโลกก็ดีขึ้น เศรษฐกิจไทยถ้าวัดเดือนต่อเดือน ไตรมาสต่อไตรมาส ก็เริ่มดีขึ้น มาตรการรัฐบาลชุดแรกลงไปเรียบร้อยแล้ว และทำต่อเนื่อง เช่น เรื่องเรียนฟรี เรื่องอะไรต่างๆ ชุดที่ 2 ที่บอกไทยเข้มแข็ง กำลังจะไปสร้างถนน จะไปสร้างแหล่งน้ำ ไปปรับปรุงโรงเรียน กำลังจะไปปรับปรุงสถานีอนามัย ก็จะเป็นผลดี ถ้าตรงนี้มันเดินได้ ตนกำลังมองว่าเรากำลังจะหลุดจากเงื่อนไขเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ แต่ว่าเรื่องการเมืองนั้นตนเข้าใจ
" คือผมไม่ได้บอกว่าจะต้องเป็นกันครบเทอมหรืออะไร เพียงแต่บอกว่า ประเด็นทางการเมืองที่จะต้องพูดคุยกัน ก็มาว่ากันตามระบบ ซึ่งเรื่องรัฐธรรมนูญก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำได้ แต่ต้องเข้าใจด้วยว่ามีประชาชนอีกจำนวนมากที่เขาไม่ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญ เราก็ต้องอธิบายได้ว่า ถ้าจะแก้ประเด็นนี้ ทำไมต้องแก้ มีความเร่งด่วนอย่างไร" นายกรัฐมนตรีกล่าว
เมื่อถามว่า ท่านนายกรัฐมนตรีมั่นใจ ถ้าพ.ร.บ.งบประมาณ ผ่านวุฒิสภาไปแล้ว เดินหน้าโครงการต่างๆทั้งหลายทั้งปวง จะลงพื้นที่ได้ไหมในแต่ละภูมิภาค นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆการลงพื้นที่ ตนก็ทำอยู่เป็นระยะๆ แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนตรงที่ว่า มันมีกลุ่มคนที่เขาไปประกาศว่า ไม่อยากให้ลง สำหรับตนคิดว่ามันไม่ถูกต้อง แต่ไม่อยากให้เป็นเงื่อนไข คือตนลงไป ก็จะต้องมีคนมาต่อต้าน พอมันมีบรรยากาศอย่างนี้ ก็ต้องมีหน่วยรักษาความปลอดภัย ต้องมีอะไรต่อมิอะไร เยอะแยะไปหมด มันก็จะทำให้สิ้นเปลือง และถ้าไปแล้วเกิดมีอะไรนิดอะไรหน่อย เกิดตีกันขึ้นมา มันก็เสียบรรยากาศบ้านเมือง แต่ว่าตน ก็อยากจะเรียกร้องว่า ถ้าเราเป็นนักประชาธิปไตย เราต้องเปิดใจกว้าง ปล่อยให้แต่ละคน แต่ละฝ่ายทำงานไป ฝ่ายตนก็ทำไป ฝ่ายค้าน ฝ่ายเสื้อแดงอยากจะทำงานอะไรก็ทำไป และประชาชนก็ไปตัดสินในช่วงของการเลือกตั้ง แต่ถ้าบอกว่าคุณห้ามมานะ อย่างนี้มันก็ไม่ใช่
