ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ติวเข้มพันธมิตรฯ 16 จังหวัดภาคใต้ ถึงแนวทางการสร้างสังคมใหม่ที่ใช้พรรคการเมืองใหม่เป็นเครื่องมือต่อยอดในสภา ซึ่งเปิดกว้างให้ทั้งพันธมิตรฯ และสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ร่วมกันทำงาน เชื่อการตรวจสอบอย่างเข้มข้นทั้งกฎหมายและประชาชนจะกลั่นกรองให้เหลือคนดีสู่ระบบการเมือง แนะสร้างนโยบายสาธารณะที่สอดคล้องต่อความต้องการของพื้นที่ภาคใต้สู้การเมืองน้ำเน่า ทั้งการทวงคืนทรัพยากรธรรมชาติ สัมปทานน้ำมัน ก๊าซรรมชาติ และทบทวนโครงการระดับชาติ “เซาเทิร์นซีบอร์ด”
เวทีสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “การเมืองใหม่ภาคใต้” ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 16 จังหวัดภาคใต้ที่โรงแรมทักษิณ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 9 กันยายน ตั้งแต่เวลา 09.00-23.00 น. เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมราว 200 คน และมีหัวข้อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่หลากหลาย
ติวเข้มสร้างพรรคของมวลชน-ปชช.เป็นนายนักการเมือง
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ เปิดเผยว่า การเมืองเก่า 77 ปีสอนให้ประชาชนกลายเป็นลูกจ้าง ทั้งที่ตามระบอบประชาธิปไตยผู้ที่เข้าไปบริหารประเทศคือลูกจ้างของประชาชน ที่ถูกเลือกให้ทำงานและรับเงินเดือนที่เป็นภาษีของประชาชน แต่หลังจากวันที่ 25 พฤษภาคม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีมติที่จะยกระดับการเมืองใหม่ ให้ประชาชนเป็นนายอย่างแท้จริง เสียงของพันธมิตรฯ จึงเรียกร้องให้มีการตั้งพรรคเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนทำหน้าที่ในสภา และก่อนที่จะก้าวสู่จุดนั้น สมาชิกจึงต้องเรียนรู้กฎและข้อบังคับต่างๆ เพื่อปฏิบัติด้วยความถูกต้อง
ทั้งนี้ ความคืบหน้าของการตั้งสาขาพรรคการเมืองใหม่ครบทั้ง 4 ภาคแล้วภายใน 60 วัน ซึ่งเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ภายในระยะเวลา 1 ปี และเตรียมการตั้งสาขาพรรคในโซนภาคเหนือตอนบน และอีสานใต้เพิ่ม นอกเหนือจากนี้จะตั้งเป็นศูนย์ประสานงานซึ่งมีหลายจังหวัดเสนอเข้ามาและกำลังพิจารณาดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายพิภพ ธงไชย กล่าวถึงแนวทางสร้างการเมืองใหม่ในภาคใต้ โดยชี้ให้เห็นถึงการทำงานของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนได้มีการแบ่งหน้าที่ขับเคลื่อนการเมืองใหม่ โดยมีทั้งที่ยังคงเป็นแกนนำพันธมิตรฯ และมีตำแหน่งในพรรคการเมืองใหม่ แต่ทั้งหมดยังคงช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เฉกเช่นกับการสร้างการเมืองใหม่ในภาคใต้ ที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ โดยเฉพาะเรื่องนโยบาย จึงมีทั้งพันธมิตรฯ และสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ที่ทำงานร่วมกันได้ โดยไม่มีความแตกต่างระหว่างสมาชิกและไม่เป็นสมาชิก แต่อยู่บนพื้นฐานที่มีเป้าหมายเดียวกันคือการสร้างการเมืองใหม่
คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ที่จะทำงานทั้งพันธมิตรฯ และพรรคการเมืองใหม่ต้องเสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ ทำงานเป็น และอุทิศตน การสร้างการเมืองใหม่นอกจากคำนึงถึงการเป็นพรรคมวลชนแล้ว จะต้องมีกระบวนการนำไปสู่เป้าหมาย โดยในระดับจังหวัดต้องดูพื้นที่ของตัวเองว่ามีปัญหาอะไรบ้าง เพื่อนำมาร่วมกันกำหนดนโยบายในระดับพื้นที่ ก่อนที่จะพิจารณาในกรอบใหญ่เป็นนโยบายกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ผู้สมัครในแต่ละพื้นที่นั่นเองที่จะนำนโยบายที่สะท้อนมาจากในพื้นที่เสนอต่อประชาชน ซึ่งจะเป็นผู้พิจารณาว่าปัญหาของประชาชนนั้นจะได้รับการแก้ไขต่อไปหรือไม่หลังจากที่ผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว
ปัญหาความยากจนในขณะนี้เกิดจากความจนโดยโครงสร้าง ด้วยทฤษฎีทุนนิยมมองว่าความยากจนเกิดจากความขี้เกียจ ไร้การศึกษา ต่อให้ชาวนาตื่นตั้งแต่ตี 4 แม้ฝนจะตกเพื่อประกอบอาชีพก็ไม่สามารถร่ำรวยได้ เพราะไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง ต่างจากคนเมืองที่นอนหลับสบาย เพราะมีที่ดิน ทุน เพราะวัตถุดิบต่างตกอยู่ในมือของกลุ่มทุน
นายสมศักดิ์เสริมว่า ก่อนที่จะคัดเลือกตัวแทนเข้ามาทำงานในพรรค ประชาชนต้องร่วมกันตรวจสอบหาคนดีมาเป็นตัวแทน และเมื่อได้มาแล้วก็ต้องตรวจสอบการทำงานในระดับกว้างขึ้นอีก เมื่อได้คนทำงานแล้วมีความขัดแย้งก็ต้องพูดคุยกัน ยึดความซื่อสัตย์และผลประโยชน์ส่วนรวม ส่วนการเมืองระดับชาติในสภาหากพรรคไหนทำดีก็จะไม่มีการคัดค้าน ประชาชนให้เกียรติลูกจ้างที่ซื่อสัตย์ และต้องร่วมตรวจสอบพรรคการเมืองต่างๆ ให้อยู่ในความถูกต้อง ซึ่งความเป็นเอกภาพและความขัดแย้งทั้งสองส่วนนี้จะส่งเสริมซึ่งกันและกัน
ยันพรรคการเมืองใหม่เกิดอุดมการณ์ไม่เป๋
สำหรับการเกิดของพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งเมื่อได้มาทั้งตำแหน่งและอำนาจแล้วจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางอุดมการณ์หรือไม่ นายพิภพ กล่าวว่า พรรคการเมืองใหม่ที่เกิดขึ้น จะเป็นเครื่องมือของพันธมิตรฯและรับแนวคิด อุดมการณ์ทางการเมืองมาปฏิบัติ ซึ่งมวลชนได้ร่วมกันขับเคลื่อนตลอด 193 วัน ไม่มีทางที่จะนอกลู่นอกทาง ด้วยคนที่ร่วมทำการเมืองใหม่นอกจากต้องถูกตรวจสอบและควบคุมโดยกฎหมายแล้ว พี่น้องประชาชนกันเองก็ยังต้องตรวจสอบด้วยกันเองอีกต่อหนึ่งด้วย
“แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ การต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมและพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ พี่น้องได้ร่วมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตมาแล้วนับไม่ถ้วน ใครที่อาสาเข้ามาตรงนี้แล้วมีผลประโยชน์อื่นแอบแฝง อุดมการณ์เปลี่ยนไป นอกจากจะอยู่พรรคการเมืองใหม่ไม่ได้แล้ว ยังอยู่ในประเทศไทยไม่ได้อีกด้วย” นายพิภพกล่าว
กมม.ทวงคืนน้ำมันอ่าวไทย-ทบทวนโครงการขายชาติ
นายบรรจง นะแส กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า อยากให้ทุกคนในที่ประชุมร่วมกันขบคิดโจทย์ที่จะมีการตั้งพรรคการเมืองเพื่อมวลชน เพราะมีรายละเอียดมากกว่าการร่วมเป็นพันธมิตรฯ ประเด็นแรกคือ นโยบายต้องนำหน้า มียุทธศาสตร์ ยุทธวิธีนำเพื่อบรรลุไปสู่เป้าหมาย แต่พรรคการเมืองใหม่นั้นมีการขับเคลื่อนพร้อมๆ กัน เพราะพันธมิตรฯ ประกอบด้วยมวลชนมหาศาลรวมตัวกันเพื่อขับไล่ระบอบทักษิณ และหวังที่จะสร้างการเมืองใหม่ ซึ่งนำไปสู่การถกเถียงถึงรูปธรรมของการเมืองใหม่ว่าจะสามารถจับต้องได้อย่างไร
“พันธมิตรฯ ที่เป็นการเมืองภาคประชาชนก็ยังมีความจำเป็นอยู่เพื่อขับไล่ระบอบทักษิณ และมีพรรคการเมืองเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะใช้เป็นยุทธวิธีการต่อสู้ในสภา ซึ่งสมาชิกของพรรคส่วนใหญ่เป็นพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ร่วมต่อสู้กันมา แต่ยังขาดการลงลึกถึงการเมืองใหม่ของภาคใต้ว่าจะสะท้อนนโยบายออกมาอย่างไร เพราะแต่ละพื้นที่นั้นมีความแตกต่างกัน” นายบรรจงกล่าวต่อและว่า
ทั้งนี้ ภาคใต้มีประชากร 12 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย ปัญหาในพื้นที่นี้คือยิ่งมีการพัฒนาเศรษฐกิจกลับทำให้คนในพื้นที่ยิ่งยากจนลง เฉลี่ยประชากรเป็นเจ้าของที่ดินเหลือเพียง 3.5 ไร่ ทรัพยากรชายฝั่งทั้ง ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน ตกไปอยู่ในมือกลุ่มนายทุนที่ได้รับสัมปทานที่นักการเมืองงุบงิบอนุญาตโดยไม่ผ่านสภา ซึ่งหากพรรคการเมืองใหม่กล้าประกาศตัวว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลจะนำสิ่งเหล่านี้มาให้เป็นสมบัติของชาติให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง นั่นคือสิ่งที่เป็นสังคมใหม่และยังไม่มีพรรคการเมืองไหนกล้าหาญและชัดเจนในเรื่องนี้
รวมถึงการทบทวนแผนพัฒนาภาคใต้ขนาดใหญ่ที่ไม่สอดคล้องต่อความต้องการด้วย เช่น เซาเทิร์นซีบอร์ดที่ออกแบบก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือน้ำลึก โดยให้พื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชเป็นพื้นที่รองรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ รองรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีซึ่งมีการกำหนดแผนเวนคืนที่ดินแล้ว
เวิร์กชอปสร้างศูนย์ประสานงานเข้มแข็ง-แข่งการเมืองเก่า
สำหรับกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการกลุ่มย่อยนั้น ในที่ประชุมได้กำหนดโจทย์ 2 ข้อในการให้กลุ่มร่วมแลกเปลี่ยน คือ 1.จะสร้างศูนย์ประสานงานพรรคการเมืองใหม่ให้เข้มแข็งอย่างไรนั้น 2.พรรคการเมืองใหม่จะสามารถแข่งขันกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคอื่นๆ อย่างไร
ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้ร่วมเสนอแนะว่า การสร้างความเข้มแข็งให้ศูนย์ประสานงานนั้น จะต้องมีการเข้าหาผู้นำชุมชน หมู่บ้าน, ติดอาวุธทางปัญญา, ช่วยเหลือเอาใจใส่ในขนบธรรมเนียม ประเพณี, จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์, ลดความขัดแย้งแล้วสร้างความเป็นเอกภาพขององค์กร, จัดกิจกรรมสร้างความกระชับสัมพันธ์ของคนในองค์กร, สร้างเครือข่าย สมาชิก เป็นต้น
ขณะที่การแข่งขันกับพรรคการเมืองที่มีอยู่แล้ว ประการแรกต้องรู้เขารู้เรา เพื่อรู้จุดอ่อน จุดแข็ง ก่อนที่จะกำหนดนโยบายชัดเจนที่ตรงกับความต้องการของประชาชน มีนโยบายลึกถึงระดับพื้นที่ เกิดจากการรับรู้ปัญหาท้องถิ่น และใส่ใจที่จะช่วยเหลือแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ถูกละเลยก็ตาม ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาสาขาพรรคให้มีความเข้มแข็งที่มีสมาชิกอาสาสมัครที่เข้มแข็ง และเมื่อทำงานทางการเมืองแล้วต้องเปิดใจกว้าง มองเพื่อนรอบข้างเป็นมิตร เพื่อทำความเข้าใจแก้ปัญหาในพื้นที่ได้ง่ายขึ้น และใช้สื่อประชาสัมพันธ์ที่ยึดคุณธรรม จริยธรรม อีกประการหนึ่งที่มีความสำคัญคือต้องเป็นพรรคการเมืองที่ต่อต้านการซื้อสิทธิ ขายเสียง
16 จว.ใต้หนุนทวงคืนเขาพระวิหาร
ส่วนกรณีเขาพระวิหาร ในที่ประชุมได้มีมติเป็นเอกฉันท์ร่วมกันว่า พันธมิตรฯ 16 จังหวัดจะทวงคืนเขาพระวิหาร โดยระดมมวลชนของพันธมิตรฯ ภาคใต้จังหวัดละ 30 คนร่วมใจเดินทางไปสมทบกันประชาชนทั่วประเทศ ณ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร วันที่ 19 กันยายน ตามนัดหมายนายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน