อภิสิทธิ์ ระบุ กกต.ลงมติฟันเพิ่ม 16 ส.ส.ถือหุ้นขัด รธน.ต้องให้ศาล รธน.ชี้ขาด ด้าน "เทพเทือก"ยังไม่หายแค้น เหน็บ กกต.มีหน้าที่คุมเลือกตั้ง ไม่ใช่มาจับผิดคนถือหุ้น ยุ ส.ส.สู้คดีถ้าชนะจะขอฉลองด้วย ขณะที่ รมต.ยังกอดเก้าอี้แน่นไม่ลาออก กกต.ยันส่งสำนวน 13 ส.ส.ปชป.ถือหุ้นต้องห้ามให้ประธานสภาฯแล้ว จี้ส่งเรื่องให้ศาล รธน.ดำเนินการด่วน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการ การเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) ชี้มูลความผิดการถือครองหุ้นต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ของ 16 ส.ส. โดยมีรัฐมนตรีด้วย 3 คน ว่า ตนเข้าใจว่าคงจะเหมือนกับชุดแรก และถ้าคนเหล่านี้ ถือหุ้นอยู่ก็จะเป็นปัญหา แต่เข้าใจว่าขายไปหมดแล้ว จะเป็นประเด็นในเรื่องคุณสมบัติของส.ส. คงจะต้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะตอนนี้จะมีเรื่องของส.ส.และส.ว.ค้างอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญด้วย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ กรณีที่กกต.วินิจฉัยให้ 16 ส.ส.มีความผิดกรณีถือหุ้นสัมปทานกับรัฐว่า ความจริง ไม่อยากให้ความเห็นเพราะตนเองก็เคยถูก กกต.ชี้มูลมาแล้ว แต่ถ้าจะให้พูดในฐานะประชาชนในความคาดหวังกับ กกต.นั้น ตนก็คาดหวังกกต.จะเป็นผู้ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย ดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตถูกต้อง ไม่ให้คนซื้อเสียง ประชาชนคงไม่คาดหวังให้ กกต.มาทำหน้าที่จับผิดใครว่าซื้อหุ้นหรือไม่ซื้อหุ้นตรงไหน
อย่างไรก็ตามการทำหน้าที่ของส.ส.ในสภาก็ยังทำได้อยู่ จะพ้นสภาพส.ส. ก็ต่อเมื่อเรื่องนี้ถึงที่สุด ซึ่งเมื่อ กกต.ชี้มูลแล้วก็จะต้องส่งเรื่องมาที่สภาฯ และจากนั้นประธานสภาจึงจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และส.ส.เหล่านั้นก็ไปสู้คดีกันในศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนสนับสนุนให้ส.ส.เหล่านั้นไปสู้คดี ถ้าชนะพวกเขาไปฉลองที่ไหน ตนก็จะขอไปฉลองด้วย แต่ถ้าแพ้ตนก็จะไปเลี้ยงเขาปลอบขวัญ โดยคำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุด สำหรับกรณีของตนนั้นรำคาญจึงได้ลาออกมาก่อน
เมื่อถามว่ามี 3 รัฐมนตรีของรัฐบาลอยู่ด้วย ควรจะพิจารณาอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ต้องทำอะไร เพราะคนละอย่างกับตำแหน่งส.ส. เพราะสามารถเป็นรัฐมนตรีคนนอกได้ ดังนั้นรัฐมนตรีทุกคนยังอยู่ได้ไปได้ และสมควรจะอยู่ต่อไปอย่างยิ่ง
นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม หนึ่งใน 16 ส.ส.ที่ถูก กกต. มีมติขาดคุณสมบัติ ส.ส.เพราะถือหุ้นต้องห้าม กล่าวว่า ถ้า กกต.ชี้มูลความผิด ออกมาว่าขาดคุณสมบัติ ก็น้อมรับตามมติ พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่กระทบต่อตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างแน่นอนเพียงแต่กระทบเฉพาะตำแหน่ง ส.ส.เท่านั้น และหุ้นดังกล่าวถือไว้ ตั้งแต่เป็น ส.ส. แต่พอมารับตำแหน่งรัฐมนตรีก็ได้มีการขายหุ้นดังกล่าวออกไปแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปตนจะทำหนังสือถึง ศาลปกครอง เพื่อขอความคุ้มครอง หลังจากนั้นหากศาลปกครองมีมติ และมีผลออกมาอย่างไรก็จะปฎิบัติตามนั้น หลังจากนั้นถึงจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตัดสินต่อไป ดังนั้นในขณะนี้ช่วงที่ยังขอความคุ้มครอง ก็จะยังคงปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมอยู่ต่อไป
นายเกื้อกูลกล่าวว่า หุ้นดังกล่าวตนได้มาก่อนที่จะเป็น ส.ส. และขายทิ้งไป เมื่อเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งมีจำนวนที่น้อยมากประมาณ 0.003 % เท่านั้น เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกันในพรรคหรือไม่ว่าท่าทีต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร รมช.คมนาคม กล่าวว่า มีการโทรศัพท์มาให้กำลังใจกัน แต่คงไม่ถึงขั้นประกาศลาออก คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ คงไม่ค้างคาใจ เพราะมันเป็นกติกา กระบวนการยังไม่จบ ยังคงทำหน้าที่รัฐมนตรีต่อไป ส่วน ส.ส.ยังไม่ลาออก
นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวว่ายังไม่ได้รับเรื่องที่ กกต. วินิจฉัยคุณสมบัติ13 ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งถือหุ้นกิจการสื่อ และสัมปทานรัฐว่า ยืนยันว่า กกต. ส่งเรื่องไปยังประธานรัฐสภาแล้ว โดยที่มีเลขทะเบียนลงรับไว้ชัดเจน ซึ่งหลังจากนี้ กกต. ก็จะส่งกรณี 16 ส.ส. พรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลที่วินิจฉัยเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา ไปให้ แต่ทั้งนี้เชื่อว่าเรื่องนี้ คงยังไม่ถึงมือศาลรัฐธรรมนูญในทันที เพราะ ส.ส.ก็คงจะร้องต่อศาลปกครองเช่นเดียวกับกรณีของ 16 ส.ว. ที่เคยทำก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามส่วนตัวแล้ว อยากฝากถึงนายชัยว่าหากได้รับเรื่องแล้วก็ควรที่จะดำเนินการ ส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตาม มาตรา 91 เพื่อให้พิจารณาโดยเร็ว เพื่อเป็นการวางบรรทัดฐานว่า ส.ส. และ ส.ว. ควรปฏิบัติตัวอย่างไร
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่าพรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้หารือกันหลัง กกต.มีมติให้ 16 ส.ส.หมดสมาชิกภาพ ส่วนที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และนายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข จากพรรคภูมิใจไทย ถูก กกต.ชี้มูลด้วย แต่ไม่ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. จะกลายเป็นบรรทัดฐานทางการเมือง ที่ต่ำกว่าพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ถ้ากฎหมายระบุว่าให้ออกก็ต้องออก แต่ถ้าไม่ระบุจะออกก็ไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กกต.ชี้มูลความผิด 16 ส.ส.ถือครองหุ้นขัดรัฐธรรมนูญว่า ตนพ้นแล้วนี่ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ไม่มีผลต่อ ตำแหน่งรัฐมนตรี ยังเป็นรัฐมนตรีต่อไปได้ และต้องรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอีกครั้ง ส่วนต้องลาออกจากตำแหน่งส.ส.เหมือนกับนายสุเทพ เทพเทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่นั้นคงไม่ต้อง นายสุเทพคงอยากให้น้องเป็นส.ส.จึงลาออก ถือเป็นกรณีพิเศษ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการ การเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) ชี้มูลความผิดการถือครองหุ้นต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ของ 16 ส.ส. โดยมีรัฐมนตรีด้วย 3 คน ว่า ตนเข้าใจว่าคงจะเหมือนกับชุดแรก และถ้าคนเหล่านี้ ถือหุ้นอยู่ก็จะเป็นปัญหา แต่เข้าใจว่าขายไปหมดแล้ว จะเป็นประเด็นในเรื่องคุณสมบัติของส.ส. คงจะต้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะตอนนี้จะมีเรื่องของส.ส.และส.ว.ค้างอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญด้วย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ กรณีที่กกต.วินิจฉัยให้ 16 ส.ส.มีความผิดกรณีถือหุ้นสัมปทานกับรัฐว่า ความจริง ไม่อยากให้ความเห็นเพราะตนเองก็เคยถูก กกต.ชี้มูลมาแล้ว แต่ถ้าจะให้พูดในฐานะประชาชนในความคาดหวังกับ กกต.นั้น ตนก็คาดหวังกกต.จะเป็นผู้ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย ดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตถูกต้อง ไม่ให้คนซื้อเสียง ประชาชนคงไม่คาดหวังให้ กกต.มาทำหน้าที่จับผิดใครว่าซื้อหุ้นหรือไม่ซื้อหุ้นตรงไหน
อย่างไรก็ตามการทำหน้าที่ของส.ส.ในสภาก็ยังทำได้อยู่ จะพ้นสภาพส.ส. ก็ต่อเมื่อเรื่องนี้ถึงที่สุด ซึ่งเมื่อ กกต.ชี้มูลแล้วก็จะต้องส่งเรื่องมาที่สภาฯ และจากนั้นประธานสภาจึงจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และส.ส.เหล่านั้นก็ไปสู้คดีกันในศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนสนับสนุนให้ส.ส.เหล่านั้นไปสู้คดี ถ้าชนะพวกเขาไปฉลองที่ไหน ตนก็จะขอไปฉลองด้วย แต่ถ้าแพ้ตนก็จะไปเลี้ยงเขาปลอบขวัญ โดยคำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุด สำหรับกรณีของตนนั้นรำคาญจึงได้ลาออกมาก่อน
เมื่อถามว่ามี 3 รัฐมนตรีของรัฐบาลอยู่ด้วย ควรจะพิจารณาอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ต้องทำอะไร เพราะคนละอย่างกับตำแหน่งส.ส. เพราะสามารถเป็นรัฐมนตรีคนนอกได้ ดังนั้นรัฐมนตรีทุกคนยังอยู่ได้ไปได้ และสมควรจะอยู่ต่อไปอย่างยิ่ง
นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม หนึ่งใน 16 ส.ส.ที่ถูก กกต. มีมติขาดคุณสมบัติ ส.ส.เพราะถือหุ้นต้องห้าม กล่าวว่า ถ้า กกต.ชี้มูลความผิด ออกมาว่าขาดคุณสมบัติ ก็น้อมรับตามมติ พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่กระทบต่อตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างแน่นอนเพียงแต่กระทบเฉพาะตำแหน่ง ส.ส.เท่านั้น และหุ้นดังกล่าวถือไว้ ตั้งแต่เป็น ส.ส. แต่พอมารับตำแหน่งรัฐมนตรีก็ได้มีการขายหุ้นดังกล่าวออกไปแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปตนจะทำหนังสือถึง ศาลปกครอง เพื่อขอความคุ้มครอง หลังจากนั้นหากศาลปกครองมีมติ และมีผลออกมาอย่างไรก็จะปฎิบัติตามนั้น หลังจากนั้นถึงจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตัดสินต่อไป ดังนั้นในขณะนี้ช่วงที่ยังขอความคุ้มครอง ก็จะยังคงปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมอยู่ต่อไป
นายเกื้อกูลกล่าวว่า หุ้นดังกล่าวตนได้มาก่อนที่จะเป็น ส.ส. และขายทิ้งไป เมื่อเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งมีจำนวนที่น้อยมากประมาณ 0.003 % เท่านั้น เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกันในพรรคหรือไม่ว่าท่าทีต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร รมช.คมนาคม กล่าวว่า มีการโทรศัพท์มาให้กำลังใจกัน แต่คงไม่ถึงขั้นประกาศลาออก คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ คงไม่ค้างคาใจ เพราะมันเป็นกติกา กระบวนการยังไม่จบ ยังคงทำหน้าที่รัฐมนตรีต่อไป ส่วน ส.ส.ยังไม่ลาออก
นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวว่ายังไม่ได้รับเรื่องที่ กกต. วินิจฉัยคุณสมบัติ13 ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งถือหุ้นกิจการสื่อ และสัมปทานรัฐว่า ยืนยันว่า กกต. ส่งเรื่องไปยังประธานรัฐสภาแล้ว โดยที่มีเลขทะเบียนลงรับไว้ชัดเจน ซึ่งหลังจากนี้ กกต. ก็จะส่งกรณี 16 ส.ส. พรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลที่วินิจฉัยเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา ไปให้ แต่ทั้งนี้เชื่อว่าเรื่องนี้ คงยังไม่ถึงมือศาลรัฐธรรมนูญในทันที เพราะ ส.ส.ก็คงจะร้องต่อศาลปกครองเช่นเดียวกับกรณีของ 16 ส.ว. ที่เคยทำก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามส่วนตัวแล้ว อยากฝากถึงนายชัยว่าหากได้รับเรื่องแล้วก็ควรที่จะดำเนินการ ส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตาม มาตรา 91 เพื่อให้พิจารณาโดยเร็ว เพื่อเป็นการวางบรรทัดฐานว่า ส.ส. และ ส.ว. ควรปฏิบัติตัวอย่างไร
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่าพรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้หารือกันหลัง กกต.มีมติให้ 16 ส.ส.หมดสมาชิกภาพ ส่วนที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และนายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข จากพรรคภูมิใจไทย ถูก กกต.ชี้มูลด้วย แต่ไม่ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. จะกลายเป็นบรรทัดฐานทางการเมือง ที่ต่ำกว่าพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ถ้ากฎหมายระบุว่าให้ออกก็ต้องออก แต่ถ้าไม่ระบุจะออกก็ไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กกต.ชี้มูลความผิด 16 ส.ส.ถือครองหุ้นขัดรัฐธรรมนูญว่า ตนพ้นแล้วนี่ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ไม่มีผลต่อ ตำแหน่งรัฐมนตรี ยังเป็นรัฐมนตรีต่อไปได้ และต้องรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอีกครั้ง ส่วนต้องลาออกจากตำแหน่งส.ส.เหมือนกับนายสุเทพ เทพเทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่นั้นคงไม่ต้อง นายสุเทพคงอยากให้น้องเป็นส.ส.จึงลาออก ถือเป็นกรณีพิเศษ
