xs
xsm
sm
md
lg

ชี้มาร์คเจรจาแม้วผิด ม.157

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่จัดการรายวิทยุโจมตีรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีในหลายประเด็น ว่า รัฐบาลไม่เคยหนีความจริง โดยไม่ยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ รัฐบาลพร้อมเผชิญความจริงตลอด แต่ตัวพ.ต.ท.ทักษิณ เองกลับหนีคดีอยู่ต่างประเทศ แล้วใช้เทคโนโลยีทางการสื่อสาร สร้างความเสียหายให้รัฐบาล และประเทศซึ่งมีความก้าวหน้ากว่ากฎหมายไทย จึงไม่สามารถเอาผิดตามกฎหมายได้ แต่ในอนาคตคงต้องสะสางกฎหมายให้เอาผิดกับผู้ไม่หวังดีใช้เทคโนโลยีสื่อสาร สร้างความเสียหายให้กับชาติ
นอกจากนี้ การที่พ.ต.ท.ทักษิณ สร้างภาพว่า พยายามจะสร้างสมานฉันท์ อ้อนว่าอยากคุยกับนายกฯ นั้น ยืนยันว่านายกฯ พร้อมจะไปคุยกับผู้ต้องหาที่กลับมารับผลตามคำพิพากษา เข้าไปอยู่ในคุก หากไปคุยตอนนี้นายกฯ อาจทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานะละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินคดีกับนักโทษ
นายเทพไท กล่าวต่อว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่ารู้สึกเห็นใจกับสภาวการณ์ ของนายกฯ ที่ไม่สามารถบริหารประเทศได้นั้น อยากถามว่า เป็นการนำมาตรฐานไหนมาวัด ถ้าเอาเรื่องขีดความรู้ความสามารถ ตนเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ สามารถบริหารประเทศได้ แต่ถ้าเอาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นมาจับ นายกฯไม่มีเกณฑ์มาตรฐานในเรื่องนี้
ส่วนเรื่องการโยกย้ายข้ารากชารนั้น รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวกเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้มีธรรมาภิบาลเพียงพอ
เมื่อถามว่ามีข่าวการซื้อขายตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด พรรคประชาธิปัตย์จะตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ หรือเห็นว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจึงปล่อยไป นายเทพไท กล่าวว่านายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงชัดเจนแล้ว เรื่องนี้ต้องปล่อยเป็นหน้าที่ผู้รับผิดชอบในกระทรวงมหาดไทย เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ถึงตัวนายกฯ
เมื่อถามย้ำว่านายอภิสิทธิ์มีภาพลักษณ์ที่สะอาด แต่กลับเกิดเรื่องนี้ขึ้นจะกระทบต่อภาพลักษณ์หรือไม่ นายเทพไท กล่าวว่า ถ้ามีหลักฐานชัดเจนก็ยื่นข้อมูลมาได้ แต่เบื้องต้นต้องให้ความเป็นธรรมกับกระทรวงมหาดไทยก่อน

**ปฏิเสธคอเป็นเอ็นไม่มีซื้อขายเก้าอี้ผู้ว่าฯ
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึง กระแสวิพากษ์วิจารณ์ การวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเก้าอี้ละ10-15 ล้านบาทว่า ไม่เคยมีเรื่องนี้ เราจ้างคนอยู่บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ วิสัยทัศน์ ธรรมาภิบาล เป็นสิ่งสำคัญสูงสุด การพิจารณาตำแหน่งผู้ว่าฯจะแล้วเสร็จในเดือนนี้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีการวิ่งเต้นผ่านทางพรรคภูมิใจไทยนั้น ในฐานะหัวหน้าพรรค ตนไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ และพร้อมให้ความมั่นใจข้าราชการว่า จะเติบโตได้ตามความสามารถ
" ที่มีกระแสข่าวว่า ต้องจ่ายเงิน 10-15 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย แลกตำแหน่งผู้ว่าฯนั้น ให้ย้อนกลับไปดูว่าผู้ว่าฯ เงินเดือนเท่าไหร่ อย่าให้ไปฟังเสียงนกเสียงกา เรื่องนี้ คงไม่เป็นการดิสเครดิตอะไร แค่เสียงนกเสียงกา" รมว.มหาดไทยกล่าว
นายบุญจงวงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการมีหลักเกณฑ์ ไม่ต้องไปหาแหล่งข่าวที่ปล่อยข่าวนี้ เพราะตนฟันธงว่า ไม่มีอย่างแน่นอน
ส่วนที่มีการโยงว่า ต้องวิ่งเต้นผ่านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงาน รมว.มหาดไทย ก็ไร้สาระ คนจะเป็นผู้ว่าฯ มีหลักเกณฑ์การพิจารณา คนให้ข้อมูลเรื่องนี้ไร้สาระ ไม่ต้องไปหาความจริงเรื่องนี้ และยืนยันว่าข่าวเช่นนี้ จะไม่มีผลต่อการพิจารณาตำแหน่งผู้ว่าฯ อย่างแน่นอน
**วอนพันธมิตรฯอย่าเพิ่งเคลื่อนทัพ
ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพรรคทราบถึงความคาดหวังของประชาชน ต่อการใช้เวทีรัฐสภาแก้ปัญหาวิกฤต และแก้รัฐธรรมนูญ แต่ทางพรรคเห็นอุปสรรคต่อแนวทางที่จะเป็นทางออกของประเทศใน 3 ส่วนคือ
1. กรณีที่พรรคฝ่ายค้านเพิ่มเติมประเด็นที่นอกเหนือจากข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ โดยเสนอ มาตรา 278 เกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และมาตรา 309 ที่อยู่ในบทเฉพาะกาล ซึ่งจะมีผลย้อนหลังไปถึงคดีอาญา ที่ดำเนินการมาตามรัฐธรรมนูญปี 40 ให้มีผลเป็นโมฆะ อันจะทำให้เกิดข้อขัดแย้งกว่า การแก้ไขมาตรา 237 ที่ขัดแย้งกันมากอยู่ในขณะนี้ 2. การเคลื่อนไหวนอกสภาเป็นเกมการเมืองที่พยายามปลุกขึ้นมา โดยเฉพาะการพูดยุยงปลุกเร้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตนก็อยากจะรู้ถึงความจริงใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าคิดอย่างไร
3.หลายฝ่ายเป็นห่วงถึงบรรยากาศการเคลื่อนของกลุ่มการเมืองอื่นโดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรฯ ที่จะต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งขอยืนยันไว้ตรงนี้ว่า รัฐบาลรับทราบถึงข้อห่วงใยของกลุ่มพันธมิตรฯ เราได้ยินเสียงของท่าน และพึ่งตระหนักอยู่ตลอดว่า การกระทำใดๆ ต้องมีคำตอบให้กับสังคม และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติตรงนี้เป็นจุดยืนของพรรคอยู่แล้ว

**จรัญแนะแก้รธน.ต้องฟังประชาชน
นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ ยกร่างรัฐธรรมนูญปี 50 กล่าวถึงการเคลื่อนไหวที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายที่สร้างประโยชน์ และรับใช้ประชาชน หากวันใดประชาชนเห็นว่า บทบัญญัติใดไม่รับใช้ประชาชน ก็ควรแก้ไข แต่ถ้าบทบัญญัติใดที่ยังเป็นประโยชน์ต่อคนไทย ก็ควรรักษาไว้ เพราะไม่มีกฎหมายใดที่สมบูรณ์ 100 %
เมื่อถามว่าต้องการให้กลับไปสอบถามประชาชนว่า ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่าขึ้นอยู่กับผู้พิจารณา เมื่อถามย้ำว่าต้องทำประชาพิจารณ์ หรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า ต้องถามรัฐบาล ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำให้บ้านเมืองเกิดความสมานฉันท์ได้หรือไม่นั้น ตนไม่สามารถพูดอะไรได้ ขอให้ทุกฝ่ายทั้งฝ่ายการเมือง และฝ่ายวิชาการ ไปคุยกันเองว่าจะทำอย่างไร

**ไอ้ตู่เชื่อประชุมร่วมแค่มารยาปชป.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงถึงการเปิดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ระหว่างวันที่ 16-18 ก.ย.ว่า เป็นการใช้สภามาเล่นเกมซื้อเวลาเท่านั้น เพราะเชื่อว่าจะไม่มีการแก้ไขอย่างแน่นอน ดูจากท่วงทำนองแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วย เนื่องจากยังได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญ 50 และพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเจตนาที่จะแก้อยู่แล้ว เพราะถ้าจะแก้จริง ร่างแก้ไขของ คปพร. ที่นพ.เหวง โตจิราการ ได้ยื่นไว้นั้น ก็ค้างอยู่ในวาระมานานแล้ว อย่างไรก็ตาม หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่คิดที่จะแก้ ตนก็จะบอกให้พรรคเพื่อไทยไม่ต้องแก้ด้วยเช่นกัน แล้วไว้ค่อยเจอกันในการเลือกตั้งเลย
**"เด็จพี่"เดือดปชป.ด่า"เด็จพ่อแม้ว"
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าขอเรียกร้องไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และพรรคประชาธิปัตย์ ว่าหากต้องการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ ก็ควรทำดังต่อไปนี้
1. เปิดกว้างให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยความจริงใจ 2. เรื่องการตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ต้องทำด้วยความโปร่งใส ไม่มีวาระแอบแฝง 3. เลิกเล่นการเมืองแบบทำลายล้าง ตามล่าเผด็จศึกรวมทั้งการใช้วิธีกล่าวหา อย่างเช่นการที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปรียบเทียบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเป็นอันธพาล หรือก้อนกรวดในรองเท้านั้น เป็นการสร้างความแตกแยกไม่มีที่สิ้นสุด
กำลังโหลดความคิดเห็น