xs
xsm
sm
md
lg

“สมศักดิ์” ขอ “สุเทพ” ต่ออีก 15 วันสอบคนพัวพันซื้อเก้าอี้ตั้งตำรวจ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสมศักดิ์ บุญทอง ประธานอนุก.ตร.ตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่ง
อนุ ก.ตร.สอบข้อเท็จจริงซื้อขายตำแหน่ง เรียก “สมคิด-สุรสีห์-ธานี-พีระ” ซักข้อมูลตั้งนายตำรวจ เสนอ “สุเทพ” ขอขยายเวลาสอบอีก 15 วัน เพราะยังสอบคนถูกพาดพิงยังไม่ครบ หากพบมีมูลใครผิดชัดต้องตั้งกรรมการสอบวินัย ชี้ไม่กระทบโครงสร้างใหม่ ตร. เอาผิดย้อนหลังได้ ด้าน ผบช.ภ.9 ยันในพื้นที่ไม่มีเรียกรับประโยชน์ ขณะที่ “พีระ” ปัดไม่รู้เรื่องมีการวิ่งเต้นขอย้ายออกนอกพื้นที่

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ บุญทอง ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (26 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายสมศักดิ์ บุญทอง ประธานคณะอนุ ก.ตร. คณะพิเศษตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีซื้อขายตำแหน่ง พร้อมคณะได้ประชุมคณะอนุกรรมการฯ โดยวันนี้ได้เรียก พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.สุรสีห์ สุนทรสารทูร ผบช.ภ.6 พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ผบช.ศชต. เข้าสอบถามในรายละเอียดต่างๆ ของแต่ละหน่วยงานในการพิจารณาแต่งตั้งบุคลากร

ด้าน นายสมศักดิ์กล่าวก่อนเข้าประชุมว่าคณะ อนุ ก.ตร.เตรียมทำหนังสือเสนอนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. เพื่อขอขยายระยะเวลาการสอบสวน ไปอีก 15 วัน เนื่องจากการสอบสวนที่ผ่านมา มีบุคคลที่ถูกพาดพิงจำนวนมาก จึงต้องมีการเรียกมาสอบเพิ่ม ซึ่งหากการสอบสวนเสร็จสิ้นก็จะรายงานผลให้นายสุเทพทราบ หากพบว่ามีมูลเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง ก็จะเสนอให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และหากพบว่ามีบุคคลใดมีความผิดชัดเจนก็ตั้งกรรมการสอบวินัยต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการขยายระยะเวลาการสอบสวน จะส่งผลกระทบต่อการแต่งตั้งโยกย้ายตามโครงสร้างใหม่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะหากพบว่ามีความผิด หรือมีการซื้อขายตำแหน่งจริงก็สามารถดำเนินการย้อนหลังได้ ซึ่งต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบว่าที่มีการกล่าวหาว่ามีการซื้อขายตำแหน่ง เรื่องดังกล่าวมีมูลหรือไม่

ทางด้าน พล.ต.ท.ธานี กล่าวว่า ในส่วนของตนรับผิดชอบ 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สงขลา สตูล ตรัง และพัทลุง โดยมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ พื้นที่ 4 อำเภอใน จ.สงขลา ซึ่งตำรวจส่วนใหญ่ก็เต็มใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจตามโครงสร้างใหม่ ตร.ก็ไม่ส่งผลกระทบในการทำงาน แต่กลับเป็นผลดี เพราะโครงสร้างใหม่มมีการปรับฝ่ายอำนวยการให้มีความเข้มแข็งขึ้น อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีปัญหาขาดแคลนพนักงานสอบสวน แต่ชั้นประทวนเพียงพอดีอยู่แล้ว

“ส่วนเรื่องการซื้อขายตำแหน่งยืนยันว่าไม่มี เพราะการแต่งตั้งครั้งที่ผ่านมาในปี 2551 ทำในรูปคณะกรรมการ ส่วนใหญ่จะมีการทำเรื่องขอออกนอกพื้นที่มากกว่า ซึ่งก็จะพิจารณาหากเป็นตำรวจสัญญาบัตรที่ทำงานเกิน 4 ปี ส่วนชั้นประทวนต้องทำงานเกิน 6 ปี จึงจะอนุญาต โดยไม่มีการเสนอผลประโยชน์แต่อย่างใด” ผบช.ภ.9 กล่าว

ด้าน พล.ต.ท.พีระ กล่าวภายหลังใก้ปากคำว่า ทางคณะอนุ ก.ตร.ได้สอบถามเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายสมัยปี 2551 ตอนนั้นตนเป็นรอง ผบช.ภ.9 และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่จัดทำบัญชีของ บช.ภ.9 ก็พิจารณาไปตามระเบียบและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ทราบเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง เพราะทำตามระเบียบที่กำหนดไว้ วิ่งเต้นเพื่อออกนอกพื้นทีหรือไม่ เราก็พิจารณาตามคำร้อง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นการวิ่งเต้นหรือเปล่า เป็นการยื่นความต้องการของตำรวจซึ่งที่ผ่านมามีทั้งขอออกจากพื้นที่ และขอย้ายเข้ามา แต่ส่วนใหญ่เป็นการยื่นคำร้องขอย้ายออกนอกพื้นที่มากกว่า เพราะในขณะนั้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังรวมอยู่ใน บช.ภ.9

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเสนอผลประโยชน์เพื่อขอออกนอกพื้นที่หรือไม่ พล.ต.ท.พีระ กล่าววว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบข้อมูล ส่วนเรื่องภาพรวมของ ศชต.ซึ่งเป็นกองบัญชาการใหม่ มีปัญหายังขาดแคลนบุคลากร ซึ่งหลังจากนี้จะมีการรับสมัครใหม่ก็ค่อยๆ สร้าง ทำให้มีความเข้มแข็ง เพราะเรามียุทธศาสตร์แผนงานเป็นการเฉพาะ ตำรวจในพื้นที่นี้จะเป็นตำรวจที่เหมือน บช.ภ.1-9 ซึ่งดูแลเรื่องคดีอาชญากรรมตามปกติไม่ได้ เพราะในพื้นที่เป็นอาชญากรรมเรื่องความมั่นคง ต้องใช้คนที่มีคุณภาพสูงกว่าปกติ ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายก็ทำเหมือนปกติไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ส่วนการแต่งตั้งวาระยังไม่ได้ทำ ไม่ได้เริ่ม เพราะ ศชต.เพิ่งปรับโครงสร้างไปเมื่อเดือน ก.พ. จึงไม่มีผลกระทบกับการปรับโครงสร้างใหม่ ตร.
กำลังโหลดความคิดเห็น