“สุชาติ” ยันล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่มีเด็กฝาก โอ่อยู่ที่ไหนไม่มีวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ในพื้นที่คนไม่พอใครสนสมัครใจมาได้ พร้อมน้อมรับคำชี้ขาด ป.ป.ช.กรณีสลายชุมนุม 7 ตุลา ลั่นถ้าไม่ผิดโชคดี หากผิดถือว่าได้พักผ่อนเร็วก่อนกำหนด ปลงตกถ้าผิดอาญาติดคุกก็ดีอีกแบบจะได้พ้นความวุ่นวายจากโลกภายนอก
วันนี้ (24 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์ บุญทอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะประธานอนุ ก.ตร.คณะพิเศษตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่ง ได้เรียกประชุมคณะอนุ ก.ตร.เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยได้เรียก พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.ภ.4 และพล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส.มาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า วันนี้เป็นเรื่องคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเชิญผู้บัญชาการภาคต่างๆมาซึ่งรายละเอียดยังไม่ทราบว่าจะถามอะไรบ้าง ก็เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งระดับรอง ผบก.ลงมาตามโครงสร้างใหม่ ซึ่งยืนยันว่าไม่มีการฝาก หรือการซื้อขายตำแหน่ง และตนเองเพิ่งเข้าไปอยู่ในพื้นที่ยังไม่มีใครรู้จัก ยังไม่มีใครมาฝาก และไม่มีการวิ่งเต้นเพราะในพื้นที่คนไม่พอ ต้องหารอง สว.อีก 30 คนที่จะเป็นสารวัตร ใครจะสมัครใจมาก็ได้ สำหรับหลักเกณฑ์การแต่งตั้งก็จะยึดหลักอาวุโสและความรู้ความสามารถ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่จะได้รับการแต่งตั้งจะเลือกอาวุโส 1 และ 2 และตรงสเปก อย่าง ผกก.สืบสวนสอบสวน ก็ให้ทาง ผบก.จว.เป็นคนเลือก ซึ่งก็ยึดหลักอาวุโส และความรู้ความสามารถเช่นเดียวกัน
“การซื้อขายตำแหน่งหรือการฝากนั้น ที่ประสบด้วยตัวผมเองไม่มี ไม่ว่าจะอยู่ภาคไหนก็ไม่มี สมัยอยู่ บช.น.ก็ไม่มี ไม่มีการฝากผม เพราะฝากแล้วไม่ได้ก็ไม่มีใครมาฝาก เรื่องการซื้อขายล้านเปอร์เซ็นต์ไม่มี หากซื้อได้เป็นอย่างอื่นไปหมดแล้วไม่เป็นแบบนี้หรอก แต่ถูกหลอกไม่รู้เห็นมีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ ว่าเป็นข้าราชการช่วยได้ ซึ่งบางคนก็ถูกจับกุมได้ มั่นใจการเข้าสู่ระบบในส่วนของผู้ใหญ่ไม่น่าจะซื้อขายได้” พล.ต.ท.สุชาติกล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวถึงเรื่องที่ถูก ป.ป.ช.ดำเนินคดีกรณีสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ว่า เรื่องนี้ไม่มีปัญหาอะไร ตนเป็นข้าราชการก็ทำไปตามกติกา ตามกฎระเบียบที่มี เมื่อ ป.ป.ช.ให้ไปชี้แจงข้อกล่าวหาก็ไป ส่วนผลจะออกมาอย่างไรน้อมรับ หากโชคดีไม่ผิดก็ดี แต่ถ้าผิดถามว่าผิดอะไร หากผิดวินัยก็หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีจะได้พักผ่อนเร็วขึ้นอีก 2 ปีก่อนเกษียณอายุราชการ แต่ถ้าผิดทางอาญาก็ว่ากันไป ติดคุกก็ดีไปอีกแบบจะได้พ้นจากความวุ่นวายของโลกภายนอก แต่หากโดนก็ขอโดนคนเดียว หากลูกน้องโดนแต่ตนหลุดก็ไม่ดี หากนายโดนก็แย่อีก เมื่อไปอยู่ในคุกแทนที่จะถือน้ำแก้วเดียวต้องถือ 2 แก้วต้องดูแลนายอีก
ผบช.ภ.4 กล่าวถึงเรื่องการชุมนุมในพื้นที่ว่า การชุมนุมในพื้นที่ไม่มีปัญหา จากประสบการณ์ที่มีมาก ซึ่งเมื่อเข้าไปในพื้นที่ก็ไปคุยหมด โดยจากการทำงานมี 2 อย่าง คือ สามารถแสดงออกอะไรก็ได้ที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มีเคล็ดลับคือ อย่าพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ วันและเวลา ทุกอย่างก็เรียบร้อย ซึ่งในพื้นที่ทุกคนก็รู้จักกันหมดทั้งหมู่บ้านไม่ได้เหมือนในกทม.ที่อยู่บ้านติดกันก็ไม่รู้จักกัน
“การชุมนุมในพื้นที่ก็เป็นการสอนประชาธิปไตยและระดมทุนต่างๆ แต่คงไม่มีการเคลื่อนเข้ามาใน กทม.ในวันที่ 30 ส.ค.ที่ลานพระรูป ซึ่งเท่าที่ดูเสื้อแดงคงไม่มีการใช้ความรุนแรง เพราะจากประสบการณ์เมื่อเดือนเมษายน จากที่ดูดีๆ แล้วกลายเป็นคนแพ้ไป” ผบช.ภ.4 กล่าว