ASTVผู้จัดการรายวัน- ผู้แทนการค้าหนุนผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในไทยบินไปลอสแองเจลิสสหรัฐฯ 1 ต.ค. หวังเจรจาซื้อกิจการศูนย์ซ่อมรถยนต์ตั้งเป้า 30 แห่งมูลค่าพันล้านบาทหวังเปิดตลาดชิ้นส่วนฯทั้งขายส่งและขายปลีก หวังเป็นโครงการนำร่องพร้อมเล็งที่ญี่ปุ่น ตะวันออกกลางต่อไป
นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า วันที่ 1 ต.ค.นี้ตนจะนำผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยภายใต้สมาคมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยประมาณ 12 ราย ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) สถาบันยานยนต์ ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก ฯลฯ เดินทางไปยังเมืองลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกาเพื่อเจรจาลู่ทางการซื้อกิจการศูนย์ซ่อมรถยนต์ในเมืองลอสแองเจลิส เพื่อเปิดตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ไทยทั้งด้านขายปลีกและขายส่งโดยตั้งเป้าหมายไว้อย่างน้อย 30 แห่งคาดว่าจะต้องใช้เงินประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาหรือประมาณ 1,000 ล้านบาท
“ เราได้มีการศึกษาเบื้องต้นแล้วพบว่าเศรษฐกิจชะลอตัวที่สหรัฐทำให้มีเจ้าของอู่หลายแห่งต้องการขายกิจการออกไปซึ่งได้มีการติดต่อทางกงสุลใหญ่ที่สหรัฐและฝ่ายบริหารเมืองลอสแองเจลิสแล้วที่จะไปดูลู่ทางกันหากคนไทยเป็นเจ้าของศูนย์ซ่อมรถได้ก็จะง่ายต่อการเข้าไปทำตลาดมากกว่าที่จะไปเจรจาขายชิ้นส่วนตรง ซึ่งคาดหวังไว้ว่าใน 2ปีน่าจะทำตลาดชิ้นส่วนในสหรัฐฯได้ระดับ 1,000 ล้านบาท “นายวัชระกล่าว
ทั้งนี้การซื้อกิจการศูนย์ซ่อมรถในสหรัฐฯถือเป็นโอกาสที่ดีเพราะเศรษฐกิจชะลอตัวคนสหรัฐจะมีการหันมาซ่อมรถแทนซื้อรถใหม่มากขึ้นประกอบกับธุรกิจเหล่านี้มีจำนวนไม่น้อยที่ต้องการขายออกซึ่งศูนย์ฯซ่อมรถในสหรัฐมีมากกว่า 5-6 หมื่นแห่งแต่ที่เลือกเมืองลอสแองเจลิสเพราะมีคนไทยอยู่จำนวนมากระยะแรกจะทำตลาดได้ง่ายกว่าซึ่งรูปแบบการซื้อจะเป็นโฮลดิ้งที่ไม่แยกกันซื้ออาจจะรวมตัวกันเพื่อให้เกิดเอกภาพในการเจรจาซื้อขายหรือในรูปแบบกองทุนร่วมลงทุน
นายวัชระกล่าวว่า แนวทางดังกล่าวหากประสบความสำเร็จถือเป็นการนำร่องที่จะสามารถใช้ในกิจการอื่นๆ ที่มองไว้และน่าสนใจคือที่ญี่ปุ่นที่กฏหมายมีการเปิดช่องให้เกิดการซื้อธุรกิจในญี่ปุ่นมากขึ้นกว่าอดีตแถมยังมีสถาบันการเงินที่พร้อมจะสนับสนุนสินเชื่อให้เพิ่มด้วยซึ่งธุรกิจที่มองไว้และน่าสนใจที่จะซื้อกิจการเพื่อที่จะนำสินค้าไทยไปวางตลาดขายคือชิ้นส่วนยานยนต์ที่เป็นบริษัทขนาดเล็กในญี่ปุ่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางประเภท รวมไปถึงสินค้าอาหาร รวมไปถึงตลาดในตะวันออกกลางโดยเฉพาะบาห์เรน
นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า วันที่ 1 ต.ค.นี้ตนจะนำผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยภายใต้สมาคมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยประมาณ 12 ราย ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) สถาบันยานยนต์ ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก ฯลฯ เดินทางไปยังเมืองลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกาเพื่อเจรจาลู่ทางการซื้อกิจการศูนย์ซ่อมรถยนต์ในเมืองลอสแองเจลิส เพื่อเปิดตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ไทยทั้งด้านขายปลีกและขายส่งโดยตั้งเป้าหมายไว้อย่างน้อย 30 แห่งคาดว่าจะต้องใช้เงินประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาหรือประมาณ 1,000 ล้านบาท
“ เราได้มีการศึกษาเบื้องต้นแล้วพบว่าเศรษฐกิจชะลอตัวที่สหรัฐทำให้มีเจ้าของอู่หลายแห่งต้องการขายกิจการออกไปซึ่งได้มีการติดต่อทางกงสุลใหญ่ที่สหรัฐและฝ่ายบริหารเมืองลอสแองเจลิสแล้วที่จะไปดูลู่ทางกันหากคนไทยเป็นเจ้าของศูนย์ซ่อมรถได้ก็จะง่ายต่อการเข้าไปทำตลาดมากกว่าที่จะไปเจรจาขายชิ้นส่วนตรง ซึ่งคาดหวังไว้ว่าใน 2ปีน่าจะทำตลาดชิ้นส่วนในสหรัฐฯได้ระดับ 1,000 ล้านบาท “นายวัชระกล่าว
ทั้งนี้การซื้อกิจการศูนย์ซ่อมรถในสหรัฐฯถือเป็นโอกาสที่ดีเพราะเศรษฐกิจชะลอตัวคนสหรัฐจะมีการหันมาซ่อมรถแทนซื้อรถใหม่มากขึ้นประกอบกับธุรกิจเหล่านี้มีจำนวนไม่น้อยที่ต้องการขายออกซึ่งศูนย์ฯซ่อมรถในสหรัฐมีมากกว่า 5-6 หมื่นแห่งแต่ที่เลือกเมืองลอสแองเจลิสเพราะมีคนไทยอยู่จำนวนมากระยะแรกจะทำตลาดได้ง่ายกว่าซึ่งรูปแบบการซื้อจะเป็นโฮลดิ้งที่ไม่แยกกันซื้ออาจจะรวมตัวกันเพื่อให้เกิดเอกภาพในการเจรจาซื้อขายหรือในรูปแบบกองทุนร่วมลงทุน
นายวัชระกล่าวว่า แนวทางดังกล่าวหากประสบความสำเร็จถือเป็นการนำร่องที่จะสามารถใช้ในกิจการอื่นๆ ที่มองไว้และน่าสนใจคือที่ญี่ปุ่นที่กฏหมายมีการเปิดช่องให้เกิดการซื้อธุรกิจในญี่ปุ่นมากขึ้นกว่าอดีตแถมยังมีสถาบันการเงินที่พร้อมจะสนับสนุนสินเชื่อให้เพิ่มด้วยซึ่งธุรกิจที่มองไว้และน่าสนใจที่จะซื้อกิจการเพื่อที่จะนำสินค้าไทยไปวางตลาดขายคือชิ้นส่วนยานยนต์ที่เป็นบริษัทขนาดเล็กในญี่ปุ่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางประเภท รวมไปถึงสินค้าอาหาร รวมไปถึงตลาดในตะวันออกกลางโดยเฉพาะบาห์เรน