การจะเข้าถึงทฤษฎีหลักของพันธมิตรฯ จำเป็นต้องทำความเข้าใจในด้านต่างๆ ดังนี้
1. ทฤษฎีของพันธมิตรฯ คืออะไร?
ทฤษฎีของชาวพันธมิตรฯ (ในฐานะแกนนำขบวนการการเมืองภาคประชาชน) ก็คือองค์ปัญญารวมของสิ่งที่ชาวพันธมิตรฯ กำลังทำ เกิดจากการเอาสิ่งที่รู้จากการกระทำมาสรุปหาแก่น แล้วนำเสนออย่างเป็นระบบ นั่นคือ สามารถอธิบายได้ ทำให้ขบวนการการเมืองภาคประชาชน เข้าใจได้ นำไปประยุกต์เข้ากับการเคลื่อนไหวปฏิบัติรูปธรรมได้ อีกนัยหนึ่ง ใช้ชี้นำการปฏิบัติได้
รวมความคือ เป็น “ชุดปัญญา” ที่สะท้อนแก่นแท้หรือสัจธรรมที่ดำรงอยู่ในความเป็นจริงหรือสิ่งที่ชาวพันธมิตรฯ กำลังทำ กำลังรู้ กำลังพูด กำลังเผยแพร่ และกำลังใช้
ปัจจุบันก็คือทฤษฎีการเมืองใหม่
2. คุณลักษณะของทฤษฎีพันธมิตรฯ เป็นอย่างไร?
คุณลักษณะหรือคุณสมบัติของทฤษฎีของชาวพันธมิตรฯ ที่สำคัญคือ
2.1 มาจากการปฏิบัติ ซึ่งก็คือมาจากการเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองของภาคประชาชน
2.2 มีความเป็นมวลมหาชน (ประชาชนเป็นเจ้าภาพ) โดยไม่แบ่งแยกทางชนชั้น ทางสถานภาพทางสังคม ทางเชื้อชาติ ทางสาขาอาชีพ ทางศาสนา และลัทธิความเชื่อ
2.3 มีความเปิดกว้าง เป็นองค์ปัญญารวมของมวลมหาชนชาวไทยผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และถือเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง
2.4 สามารถพัฒนาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นได้ตามการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา สะท้อนลักษณะยุคสมัย และความเรียกร้องต้องการของมวลมหาชนชาวไทยได้ในทุกขั้นตอนของพัฒนาการของสังคมไทยและสังคมโลก ที่สำคัญคือ ช่วยเสริมสร้างค่านิยมก้าวหน้าและดีงามให้แก่คนไทยรุ่นใหม่ๆได้อย่างไม่ขาดตอน เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยให้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
3. ทฤษฎีหลักของพันธมิตรฯ ประกอบไปด้วยทฤษฎีสำคัญอะไรบ้าง?
ทฤษฎีการเมืองใหม่ของชาวพันธมิตรฯ ปัจจุบันประกอบด้วยทฤษฎีหลักๆ ดังนี้
3.1 จุดเทียนปัญญา เอาธรรมนำหน้า ประชาชนเป็นเจ้าภาพ
3.2 สร้างอำนาจประชาชน สร้างอำนาจปัญญา สร้างอำนาจกำหนดใหม่
3.3 สร้างการเมืองใหม่ สถาปนาอำนาจกำหนดใหม่แทนที่อำนาจกำหนดเก่า
3.4 สร้างระบบประชาธิปไตยมวลมหาชน ให้อำนาจมวลมหาชนเบื้องล่างกำหนดการใช้อำนาจของกลุ่มผู้ใช้อำนาจเบื้องบน โดยผ่านระบบกลไกที่ทรงประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล เช่นสภาฯ พันธมิตรฯ (เพื่อลงมติ) ที่ชุมนุมใหญ่พันธมิตรฯ (เพื่อขอฉันทานุมัติ)
3.5 สร้างสังคมอุดมธรรม ที่มีระบบประชาธิปไตยมวลมหาชนเป็นองค์ธรรมแกน โดยเริ่มต้นจากสังคมชาวพันธมิตรฯ แล้วจึงนำไปประยุกต์ใช้ในการสร้างสังคมใหม่ระดับชาติ
3.6 ปลูกฝังปัญญาแกน (จิตใจ อุดมการณ์ และท่วงทำนอง) เสริมสร้างบุคลิกภาพร่วมในหมู่ชาวพันธมิตรฯ
4. หลักวินิจฉัยสำคัญมีอะไรบ้าง?
หลักวินิจฉัยสำคัญคือ
4.1 เราเดินมาถูกทางแล้ว ทฤษฎีการเมืองใหม่ของชาวพันธมิตรฯ สะท้อนแก่นแท้ หรือกฎเกณฑ์พัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทยในบริบทพัฒนาการของสังคมโลก แตกต่างจากแนวคิดทฤษฎีของกลุ่มหรือคณะผู้ก่อการในอดีตตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา ทำให้สามารถเข้าถึงปัญหาปมเงื่อน (เหตุปัจจัยหลักหรือความขัดแย้งหลัก) ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางกระบวนการพัฒนาของประเทศไทยในห้วงเกือบหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา จากนี้นำไปสู่การกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ที่ถูกต้อง สามารถแยกมิตรและศัตรูได้อย่างสอดคล้องกับความเป็นจริง รวมทั้งเกิดแกนนำที่ดี มีท่วงทำนองที่ถูกต้อง สามารถนำการเคลื่อนไหวต่อสู้ ขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ด้วยการสร้างอำนาจทางการเมืองของมวลมหาชน ให้เป็นอำนาจกำหนดใหม่ ที่ไม่มีอำนาจอื่นใดขัดขวาง ทำลาย หรือต้านทานได้
ทั้งนี้ เพราะเราได้สรุปบทเรียนการเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองของประชาชนไทยและประชาชนทั่วโลกอย่างรอบด้าน ยึดแนวทางที่ทุกอย่างต้องเริ่มจากสภาพเป็นจริงของสังคมโลกและสังคมไทย ไม่ยึดติดกับ “โมเดล” สำเร็จรูป ไม่อิงติดอยู่กับตำรา หรือแนวคิดทฤษฎีสำเร็จรูปใดๆ
ด้วยการมีแนวคิดทฤษฎีของเราเอง ดำเนินการเคลื่อนไหวบนฐานความเป็นจริงของประเทศไทย ตามความเรียกร้องต้องการของมวลมหาชนชาวไทย ในบริบทของลักษณะยุคสมัยของโลกโดยรวม จึงทำให้ขบวนการการเมืองภาคประชาชนนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพัฒนาเติบใหญ่ ได้รับการสนับสนุนและเข้าร่วมอย่างกว้างขวางจากประชาชนชาวไทยทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจุบัน ขบวนการการเมืองภาคประชาชน นำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กลายเป็นสถาบันอำนาจทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อยู่ในฐานะที่จะกำหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศไทย ตลอดจนสังคมไทยโดยรวมได้มากที่สุด
4.2 ธรรมย่อมชนะอธรรม ขบวนการการเมืองภาคประชาชนที่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นแกนนำ ในฐานะอำนาจกำหนดใหม่ ใช้ความถูกต้องเป็นหลักนำ ยึดมั่นในสัจธรรม ถือเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เชิดชูสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความชอบธรรมสูงสุดในทุกๆ ด้านในการนำมวลมหาชนชาวไทยขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย
ตรงกันข้ามกับกลุ่มอำนาจการเมืองเก่า อันประกอบด้วยกลุ่มทุนสามานย์ในระบอบทักษิณและกลุ่มก๊วนการเมืองในรูปแบบต่างๆ ที่มุ่งแสวงประโยชน์ส่วนตน ใช้อำนาจฉ้อฉลเป็นอาจิณ หมดความชอบธรรมที่จะใช้อำนาจบริหารประเทศอีกต่อไป
ณ วันนี้ “ธง” แห่งธรรมของพันธมิตรฯ ได้โบกไสวสูงเด่นเป็นสง่า พร้อมชี้ทิศนำทางให้การเคลื่อนไหวต่อสู้ของขบวนการการเมืองภาคประชาชนนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก้าวจากชัยชนะไปสู่ชัยชนะ
1. ทฤษฎีของพันธมิตรฯ คืออะไร?
ทฤษฎีของชาวพันธมิตรฯ (ในฐานะแกนนำขบวนการการเมืองภาคประชาชน) ก็คือองค์ปัญญารวมของสิ่งที่ชาวพันธมิตรฯ กำลังทำ เกิดจากการเอาสิ่งที่รู้จากการกระทำมาสรุปหาแก่น แล้วนำเสนออย่างเป็นระบบ นั่นคือ สามารถอธิบายได้ ทำให้ขบวนการการเมืองภาคประชาชน เข้าใจได้ นำไปประยุกต์เข้ากับการเคลื่อนไหวปฏิบัติรูปธรรมได้ อีกนัยหนึ่ง ใช้ชี้นำการปฏิบัติได้
รวมความคือ เป็น “ชุดปัญญา” ที่สะท้อนแก่นแท้หรือสัจธรรมที่ดำรงอยู่ในความเป็นจริงหรือสิ่งที่ชาวพันธมิตรฯ กำลังทำ กำลังรู้ กำลังพูด กำลังเผยแพร่ และกำลังใช้
ปัจจุบันก็คือทฤษฎีการเมืองใหม่
2. คุณลักษณะของทฤษฎีพันธมิตรฯ เป็นอย่างไร?
คุณลักษณะหรือคุณสมบัติของทฤษฎีของชาวพันธมิตรฯ ที่สำคัญคือ
2.1 มาจากการปฏิบัติ ซึ่งก็คือมาจากการเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองของภาคประชาชน
2.2 มีความเป็นมวลมหาชน (ประชาชนเป็นเจ้าภาพ) โดยไม่แบ่งแยกทางชนชั้น ทางสถานภาพทางสังคม ทางเชื้อชาติ ทางสาขาอาชีพ ทางศาสนา และลัทธิความเชื่อ
2.3 มีความเปิดกว้าง เป็นองค์ปัญญารวมของมวลมหาชนชาวไทยผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และถือเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง
2.4 สามารถพัฒนาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นได้ตามการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา สะท้อนลักษณะยุคสมัย และความเรียกร้องต้องการของมวลมหาชนชาวไทยได้ในทุกขั้นตอนของพัฒนาการของสังคมไทยและสังคมโลก ที่สำคัญคือ ช่วยเสริมสร้างค่านิยมก้าวหน้าและดีงามให้แก่คนไทยรุ่นใหม่ๆได้อย่างไม่ขาดตอน เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยให้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
3. ทฤษฎีหลักของพันธมิตรฯ ประกอบไปด้วยทฤษฎีสำคัญอะไรบ้าง?
ทฤษฎีการเมืองใหม่ของชาวพันธมิตรฯ ปัจจุบันประกอบด้วยทฤษฎีหลักๆ ดังนี้
3.1 จุดเทียนปัญญา เอาธรรมนำหน้า ประชาชนเป็นเจ้าภาพ
3.2 สร้างอำนาจประชาชน สร้างอำนาจปัญญา สร้างอำนาจกำหนดใหม่
3.3 สร้างการเมืองใหม่ สถาปนาอำนาจกำหนดใหม่แทนที่อำนาจกำหนดเก่า
3.4 สร้างระบบประชาธิปไตยมวลมหาชน ให้อำนาจมวลมหาชนเบื้องล่างกำหนดการใช้อำนาจของกลุ่มผู้ใช้อำนาจเบื้องบน โดยผ่านระบบกลไกที่ทรงประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล เช่นสภาฯ พันธมิตรฯ (เพื่อลงมติ) ที่ชุมนุมใหญ่พันธมิตรฯ (เพื่อขอฉันทานุมัติ)
3.5 สร้างสังคมอุดมธรรม ที่มีระบบประชาธิปไตยมวลมหาชนเป็นองค์ธรรมแกน โดยเริ่มต้นจากสังคมชาวพันธมิตรฯ แล้วจึงนำไปประยุกต์ใช้ในการสร้างสังคมใหม่ระดับชาติ
3.6 ปลูกฝังปัญญาแกน (จิตใจ อุดมการณ์ และท่วงทำนอง) เสริมสร้างบุคลิกภาพร่วมในหมู่ชาวพันธมิตรฯ
4. หลักวินิจฉัยสำคัญมีอะไรบ้าง?
หลักวินิจฉัยสำคัญคือ
4.1 เราเดินมาถูกทางแล้ว ทฤษฎีการเมืองใหม่ของชาวพันธมิตรฯ สะท้อนแก่นแท้ หรือกฎเกณฑ์พัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทยในบริบทพัฒนาการของสังคมโลก แตกต่างจากแนวคิดทฤษฎีของกลุ่มหรือคณะผู้ก่อการในอดีตตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา ทำให้สามารถเข้าถึงปัญหาปมเงื่อน (เหตุปัจจัยหลักหรือความขัดแย้งหลัก) ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางกระบวนการพัฒนาของประเทศไทยในห้วงเกือบหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา จากนี้นำไปสู่การกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ที่ถูกต้อง สามารถแยกมิตรและศัตรูได้อย่างสอดคล้องกับความเป็นจริง รวมทั้งเกิดแกนนำที่ดี มีท่วงทำนองที่ถูกต้อง สามารถนำการเคลื่อนไหวต่อสู้ ขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ด้วยการสร้างอำนาจทางการเมืองของมวลมหาชน ให้เป็นอำนาจกำหนดใหม่ ที่ไม่มีอำนาจอื่นใดขัดขวาง ทำลาย หรือต้านทานได้
ทั้งนี้ เพราะเราได้สรุปบทเรียนการเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองของประชาชนไทยและประชาชนทั่วโลกอย่างรอบด้าน ยึดแนวทางที่ทุกอย่างต้องเริ่มจากสภาพเป็นจริงของสังคมโลกและสังคมไทย ไม่ยึดติดกับ “โมเดล” สำเร็จรูป ไม่อิงติดอยู่กับตำรา หรือแนวคิดทฤษฎีสำเร็จรูปใดๆ
ด้วยการมีแนวคิดทฤษฎีของเราเอง ดำเนินการเคลื่อนไหวบนฐานความเป็นจริงของประเทศไทย ตามความเรียกร้องต้องการของมวลมหาชนชาวไทย ในบริบทของลักษณะยุคสมัยของโลกโดยรวม จึงทำให้ขบวนการการเมืองภาคประชาชนนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพัฒนาเติบใหญ่ ได้รับการสนับสนุนและเข้าร่วมอย่างกว้างขวางจากประชาชนชาวไทยทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจุบัน ขบวนการการเมืองภาคประชาชน นำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กลายเป็นสถาบันอำนาจทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อยู่ในฐานะที่จะกำหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศไทย ตลอดจนสังคมไทยโดยรวมได้มากที่สุด
4.2 ธรรมย่อมชนะอธรรม ขบวนการการเมืองภาคประชาชนที่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นแกนนำ ในฐานะอำนาจกำหนดใหม่ ใช้ความถูกต้องเป็นหลักนำ ยึดมั่นในสัจธรรม ถือเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เชิดชูสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความชอบธรรมสูงสุดในทุกๆ ด้านในการนำมวลมหาชนชาวไทยขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย
ตรงกันข้ามกับกลุ่มอำนาจการเมืองเก่า อันประกอบด้วยกลุ่มทุนสามานย์ในระบอบทักษิณและกลุ่มก๊วนการเมืองในรูปแบบต่างๆ ที่มุ่งแสวงประโยชน์ส่วนตน ใช้อำนาจฉ้อฉลเป็นอาจิณ หมดความชอบธรรมที่จะใช้อำนาจบริหารประเทศอีกต่อไป
ณ วันนี้ “ธง” แห่งธรรมของพันธมิตรฯ ได้โบกไสวสูงเด่นเป็นสง่า พร้อมชี้ทิศนำทางให้การเคลื่อนไหวต่อสู้ของขบวนการการเมืองภาคประชาชนนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก้าวจากชัยชนะไปสู่ชัยชนะ