“สมเกียรติ” ลั่นถึงเวลาขุมหลุมฝังการเมืองเก่าที่โกงกินบ้านเมืองจนย่อยยับ เข้าสู่ยุคที่ ปชช.จะตัดสินใจอนาคตประเทศชาติด้วยตัวเอง ชี้หากพันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมืองต้องเก็บบทเรียนจากพรรคที่มีแนวทางเพื่อประชาชนในอดีต ขณะที่ขนวนการภาคประชาชนต้องอยู่ต่อไป ยืนยัน 5 แกนนำไม่ทำอะไรโดยพลการ ไปไหนไปด้วยกัน และจะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวังเด็ดขาด
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวต่อที่ประชุมสภาพันธมิตรฯ
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวต่อที่ประชุมสภาพันธมิตรฯ ที่อาคารนันนาการ มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ที่ผ่านมา ว่า วันนี้ มีตัวแทนเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ และตัวแทนพันธมิตรฯ จากภาคพื้นอเมริกามาร่วมประชุมกับพี่น้องพันธมิตรฯ ด้วย วันนี้พวกเรามาไว้อาลัยต่อความตายของการเมืองเก่า การเมืองแห่งความฉิบหายของบ้านเมือง ที่ประชุมแห่งนี้กำลังสาปส่งการเมืองเก่า และเตรียมสถาปนาการเมืองใหม่ขึ้น
นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า ผลของการต่อสู้ของพันธมิตรฯ 4-5 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ 3 อย่าง คือ 1.ชนชั้นที่มีความรู้ขยายตัวอย่างกว้างขวางและตั้งตัวเองเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นชนชั้นผู้รู้เท่ากันและประณามโค่นล้มระบบทักษิณ ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และขุดหลุมฝังการเมืองเก่า เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปรากฏการณ์ที่ 2 มีการเปิดโปงอย่างเข้มแข็งอย่างไม่เคยมีมาก่อนของสื่อเอเอสทีวี ทำให้เกิดการขยายตัวขององค์ความรู้ ตั้งแต่เกิดปรากฏการณ์สนธิ มาจนถึงวันนี้เป็นการโค่นล้มระบอบเก่าให้สูญไปจากแผ่นดินไทย ปรากฏการณ์ที่ 3 การจัดตั้งไปสู่องค์กรการเมืองใหม่ ทั้ง 3 ปรากฏการณ์นี้คือปัจจุบันที่จะพลิกโฉมประเทศไทย เป็นการขุดหลุมฝังการเมืองเก่าที่ตายไปแล้ว
นายสมเกียรติกล่าวว่า การประกาศการเมืองใหม่ เป็นสัญญาประชาคม เป็นพันธสัญญาใหม่ของประชาชน ที่ประกาศเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะเดินหน้าสู่การเมืองใหม่ พันธสัญญาของเราที่ต้องลงมติภายใต้ความรับผิดชอบ ไม่ใช่ลงมติแล้วกลับบ้านเฉย เมื่อลงมติแล้วต้องเชื่อมั่นว่ามีแต่ประชาชนเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองได้ ไม่ใช่นักการเมือง ที่เอาแต่เงินมาทุ่มซื้อและโกงกิน
นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า ในอดีตมีความพยายามตั้งพรรคการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนมาแล้ว 4 พรรค คือ พรรคพลังใหม่ ที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา โดยคนก่อตั้งคือ นพ.กระแส ชนะวงศ์ และนายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิตในปัจจุบัน 2.พรรคสังคมนิยม ของ พ.อ.สมคิด ศรีสังคม 3.พรรคแนวร่วมสังคมนิยมของนายแคล้ว นรปติ และดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ ที่มาร่วมประชุมกับพันธมิตรฯ ในวันนี้ และ 4.พรรคพลังธรรมของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อย่างไรก็ตาม พรรคเหล่านี้สลายตัวเองไปแล้ว พันธมิตรฯ จะต้องรับบทเรียนจากพรรคเหล่านี้ ถ้าคิดจะมีพรรคการเมืองใหม่
อย่างไรก็ตาม นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า การเมืองในสภาอย่างเดียวแก้ปัญหาไม่ได้ ต้องมีการเมืองภาคประชาชนควบคู่ไปด้วย การเมืองเก่า คือการโกงกินของนักการเมือง ตัวเองอ้วนพี แต่ประชาชนประเทศชาติผอมเกร็ง เราต้องขุดหลุมฝังการเมืองเก่าที่เน่าเฟะ ที่เกิดการสมยอมในอำนาจ มีการซื้อเสียงของคนลงเลือกตั้ง เอาเงินมามากๆ ซื้อพรรคการเมือง ซื้อนักการเมืองมารวมตัวกัน และซื้อประชาชน ระบอบนี้เรียกว่า ระบบทุนสามานย์ของทักษิณ ชินวัตร
“วันนี้พันธมิตรฯ จะไม่ยอมให้การเมืองเกิดการฮั้วและสมยอมอีกต่อไป เรามาลงเสาเอกปักหลักสร้างฐานการเมืองใหม่ เพื่อประชาชน ให้ก้าวรุดหน้าไป ประเทศนี้ตั้งมา 800 ปี ยังไม่มีครั้งใดที่ประชาชนได้ตัดสินใจอนาคตของประเทศอย่างแท้จริง มีครั้งนี้เป็นครั้งแรก พรรคการเมืองอื่น เวลาเขาเรียกประชุม เขาจะจัดโรงแรมอย่างดี สั่งอาหารอย่างดี ให้สมาชิกพรรคมากินนอน แต่พันธมิตร มาสร้างองค์กรการเมืองใหม่ มานอนรออยู่ในรถ แล้วมาโหวตกัน นี่แสดงว่า พวกเรามาด้วยจิตใจอันสูงส่งแน่วแน่ ที่จะกำหนดทิศทางของบ้านเมือง” นายสมเกียรติกล่าว
นายสมเกียรติ ย้ำว่า 5 แกนนำ จะไม่ไปไหนอีกแล้ว ต้องไปด้วยกันกับพี่น้องประชาชน เราจะระมัดระวังไม่ให้ประชาชนเสียใจ หรือจะผิดหวังแกนนำไม่ได้ เราไม่มีสิทธิทำการใดๆ โดยพลการ ไม่มีสิทธิทำให้ประชาชนเสียใจเพราะ 5 แกนนำ และองค์กรภาคประชาชนจะต้องเจริญก้าวหน้า และประสบชัยชนะอย่างแน่นอน