ASTV ผู้จัดการรายวัน - จากสมถวิลรีสอร์ต “ป๊อด” ยังซุกได้อีก พบอาณาจักรใหม่โผล่กลางหุบเขาแก่งคอย สระบุรี สร้างเป็นคอกม้า “รุ่งโรจน์ รุ่งพัชร” มูลค่ากว่าร้อยล้าน เรือนรับรองสุดหรู ม้าแข่งพันธุ์ดี 70 ตัว ใช้อำนาจจัดตำรวจ สภ.แก่งคอย ดูแลความปลอดภัย เผย รปภ.ยอมรับ “พัชรวาท” เป็นเจ้าของ ลงหุ้นกับเพื่อนซี้ “อีจ๋อย-บุญเรือง” มาพักผ่อนเดือนละครั้ง ด้าน ผกก.แก่งคอย ออกโรงป้อง ลั่นเป็นการป้องกันโจรผู้ร้าย ไม่ใช่ดูแลคอกม้าให้นาย
จากกรณีที่ ASTV ผู้จัดการ ได้นำเสนอข่าวเปิดโปงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ สมถวิลรีสอร์ต ที่พักผ่อนสุดหรูของลูกสาวทั้งสองคนของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ร.ต.อ.หญิง พัชรา หรือ ส.ต.ต.นวพร วงษ์สุวรรณ ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 9 อ.บางพลีน้อย จ.สมุทรปราการ ซึ่งรีสอร์ตดังกล่าวมีจำนวนกว่า 10 หลัง ปลูกสร้างรูปแบบทรงไทยประยุกต์ กึ่งไม้กึ่งปูน ส่วนที่เป็นไม้ทำด้วยไม้สักทองทั้งหมด ซึ่งหากจะประเมินมูลค่าสิ่งปลูกสร้างพร้อมที่ดินทั้งหมด 12 ไร่ของรีสอร์ตแห่งนี้น่าจะไม่ต่ำ 100 ล้านบาท
หลังจากข่าวนี้เสนอออกไปทำให้เป็นที่สนใจของประชาชน และสร้างความตะลึงให้แก่สังคมเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งเกิดคำถามตามมาว่า ข้าราชการตำรวจคนหนึ่งที่รับราชการซึ่งมีรายได้จากเงินเดือนจากรัฐมาตลอดชีวิต ไม่น่าที่จะมีโอกาสมีทรัพย์สินได้มากถึงเพียงนี้ อีกทั้งไม่เคยปรากฏว่าด้วยว่า ตระกูลวงษ์สุวรรณ ร่ำรวยอยู่ในขั้นมหาเศรษฐีที่จะมีมรดกส่งมอบให้ลูกหลานได้มากขนาดนั้นด้วย แต่แม้ว่าข่าวจะถูกแฉออกมาหลายวัน พร้อมยืนยันด้วยหลักฐานภาพถ่ายจากสถานที่จริง พล.ต.อ.พัชรวาท และคนในครอบครัว ยังไม่มีปฏิกิริยาออกมายอมรับหรือปฏิเสธ รวมทั้งได้ชี้แจงในเรื่องราวที่เกิดขึ้น
สำหรับทรัพย์สมบัติของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ยังไม่หมดลงแค่เฉพาะรีสอร์ตหรู ที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ โดย “ทีมข่าว ASTV News1” ได้สืบค้นพบว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ยังมีอาณาจักรซึ่งเป็นคอกม้าในอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ที่มีมูลค่านับร้อยล้านบาท อีกหนึ่งแห่ง (เตรียมพบกับสกู๊ปข่าวเจาะลึกพิเศษชิ้นนี้ได้ทางช่อง ASTV News1 วันศุกร์นี้)
ทั้งนี้ คอกม้าดังกล่าว จากการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ของทีมข่าวอาชญากรรม ASTV News1 พบว่าพื้นที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สวยงาม รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ โดยด้านหลังติดภูเขาลูกใหญ่ อยู่ในตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งถูกปรับเป็นคอกม้า ที่มีความโดดเด่นเหนือพื้นที่โดยรอบใกล้เคียง ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่จะยึดอาชีพทำเกษตรกรรม ปลูกพืชไร่ ข้าวโพด ปลูกมัน และเลี้ยงวัว
“หุบเขาเร้นรัก??” - บ้านสุดหรูกับคอกม้า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มูลค่านับร้อยล้านบาท อีกขุมทรัพย์ที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.บุญเรือง ผลพานิชย์ เพื่อนซี้ ซุกไว้
จากการสอบถามชาวบ้านที่เลี้ยงวัว และทำการเกษตรกรรมในพื้นที่ย่านนั้น ได้ความว่า คนแถวนี้รู้ดีเป็นของนายตำรวจใหญ่แต่จำชื่อไม่ได้ มีพื้นที่กว้างกว่า 100 ไร่ ปลูกปาล์ม ปลูกหมาก ไว้เป็นจำนวนมาก โดยมีการสร้างเรือนพักปูนชั้นเดียวให้พนักงานที่ทำงานอยู่ภายในคอกม้าได้อยู่อาศัย ส่วนภายในจะเป็นอย่างไร ตนไม่เคยได้เข้าไปหรือได้เห็นบริเวณข้างใน เพราะเป็นพื้นที่ห้ามเข้า
“พื้นที่ที่ใช้ทำคอกม้ามีราคาแพงเนื้อที่ติดถนนไร่ละเกือบ 2 แสน หากไม่ใช่คนมีฐานะ ไม่น่ามาซื้อที่ดินได้ เพราะในบริเวณด้านในคอกม้าหากมองจากด้านนอก จะมีบ้านหลังใหญ่ มีสระน้ำอยู่ภายใน” ชาวบ้านกล่าว
คอกม้า...รุ่งโรจน์ รุ่งพัชร
จากนั้นทีมข่าวได้ขับรถเข้าไปตามทางที่ชาวบ้านบอกอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ก็พบกับคอกม้าที่เขียนป้ายเด่นชัด ชื่อคอกม้า “รุ่งโรจน์ รุ่งพัชร” มีรั้วเป็นเหล็กกลมสีขาว ประตูเหล็กสีฟ้า-ขาว รั้วโปร่งมองลอดเข้าไปเห็นภายในได้ทั่วบริเวณที่สุดลูกหูลูกตา รั้วสูงประมาณเมตรครึ่ง มีเหล็กโปร่งเป็นริ้วๆ 3-4 ชั้น ข้างในบริเวณปลูกปาล์ม ปลูกต้นหมาก ต้นสน คละกันไว้โดยรอบทั่วพื้นที่ ด้านหลังมองเห็นภูเขา และมีคฤหาสน์หลังใหญ่คล้ายสโมสร เป็นปูนทั้งหลังทาสีนวลไข่ไก่ หลังคาสีแดงก่อสร้างเล่นระดับ คล้ายรีสอร์ตคล้ายสโมสร ปลูกโดดเด่นอยู่ในพื้นที่สร้างอยู่ติดเชิงเขา มีลู่วิ่งแข่งม้า มีคอกม้า มีสนามฝึกซ้อม ซึ่งมีเด็กจูงม้าออกมาเดินออกกำลังกายประมาณ 10 ตัว สำหรับม้าแข่งในคอกแห่งนี้เป็นม้าพันธุ์ดีเหมาะกับการแข่งขัน มีโรงเลี้ยงม้า มีโรงพักอาหาร มีโรงเก็บหญ้า เป็นเรือนปูนชั้นเดียว ปลูกเรียงราย ต่อเนื่องกันประมาณ 7 หลัง มีการปลูกต้นปาล์ม มีภูเขาล้อมรอบด้านหลังติดภูเขา โดยพื้นที่กว่า 100 ไร่แห่งนี้ ภายในจะมีการแบ่งโซนอย่างชัดเจน โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกดัดแปลงเป็นสนามฝึกม้าใหญ่ 2 สนาม มีทั้งลู่วิ่ง บ่อน้ำ ที่พักม้า ที่พักคนงาน
คอกม้าใช้เงินหลายล้าน
จากการสอบถามชาวบ้านซึ่งเป็นคนเลี้ยงวัวกว่า 500 ตัว อยู่บริเวณด้านข้างพื้นที่คอกม้าดังกล่าว ทราบว่าที่ดินแถวนี้แพงมาก แค่ตนเช่าที่นิดเดียวเลี้ยงวัว ประมาณ 6,000 บาทแล้ว ซึ่งข้างในห้ามเข้าบริเวณคอกม้า ดูแล้ววิวคอกม้านี้สวยมากตนไม่เคยเข้าไป ภายในมีล็อกม้าแข่ง แต่ไม่เคยเห็นมีม้ามาแข่ง ซึ่งพื้นที่แถวนี้ตอนนี้ขายกันไร่ละ 2 แสน และเฉลี่ยพื้นที่ไม่ติดถนนอยู่ประมาณ 6-8 หมื่น ซึ่งการสร้างคอกม้าในพื้นที่กว่า 100 ไร่เกือบ 200 ไร่ คงต้องใช้เงินหลายล้านบาท เพราะแค่ค่าปลูกหญ้าก็แพงแล้ว
ขณะที่ชาวบ้านอีกรายที่อาศัยอยู่ย่านนั้นบอกว่า อยู่ที่นี่มา 20 ปีแล้ว เห็นคอกม้าสร้างมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ราคาที่ดินแถบนี้ขายไร่ละ 4 แสน เจ้าของคอกม้าเป็นตำรวจ ไม่รู้เป็นใครไม่เคยเห็นหน้ามีรถตำรวจเข้าออกมาอยู่เรื่อยๆ ทุกวันจะมีรถตำรวจเข้ามาคอยตรวจตราที่คอกม้า ซึ่งน่าจะเลี้ยงม้าไว้ตรงนี้แล้วนำม้าไปแข่งใน กทม. ซึ่งที่ตนรู้ว่าเป็นของตำรวจเพราะคนที่อยู่ในคอกม้าไปกินข้าวที่บ้านตนแล้วได้คุยกันบอกนายของเค้าเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ รู้แค่เป็นตำรวจใหญ่
ตำรวจแก่งคอยดูแลป้อมยาม
เมื่อผู้สื่อข่าวขับรถอ้อมไปดูบริเวณด้านหน้าทางเข้าคอกม้าดังกล่าว ทางซ้ายมือจะมีป้อมยาม ลักษณะเหมือนบ้านห้องเดียว ชั้นเดียวหลังคากระเบื้องพึ่งก่อสร้างขึ้นมาใหม่ ทาสีนวลไข่ไก่ และพบว่ามีแผ่นกระดาษ มีตารางการทำงานของเวรที่ต้องดูแลระบุว่า การจัดหน้าที่งานป้องกันปราบปราม (สายตรวจประจำตู้บ้านห้าเขา) ประกอบคำสั่งสถานีตำรวจภูธรแก่งคอย วันที่ 31 พฤษภาคม 2552 และตีเป็นตาราง มีลำดับ รายชื่อ สกุล วันปฏิบัติ หมายเหตุ โดยมีรายชื่อตำรวจ ยศ ตั้งแต่นายดาบตำรวจ-ดาบตรี ถึง จ.ส.ต. ซึ่งลำดับที่ 1 ด.ต.อ.พงษ์พิทักษ์ ศรีสว่าง 2.ด.ต. ,3.จ.ส.ต.คันดี 4. ด.ต.ไพฑูรย์ ศิลประเสริฐ 5. จ.ส.ต.ชูศักดิ์ ชนะแสวง 6. ด.ต.ยิ่งยง บุญผล 7.จ.ส.ต. ลงชื่อโดย พ.ต.ท.กิตติ์คุณ บุญเสรฐ รอง ผกก.ป.สภ.แก่งคอย
ยัน “พัชรวาท” เป็นเจ้าของ
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ที่ประจำอยู่ป้อมยามด้านหน้าคอกม้ารุ่งโรจน์ รุ่งพัชร เปิดเผยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เป็นเจ้าของคอกม้าแห่งนี้ โดยก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.พัชรวาท เดินทางมาบ่อยพอสมควร โดยประมาณเดือนละครั้ง
“ผมอยู่ในพื้นที่นี้ประมาณ 27 ปี พื้นที่ตรงนี้ก็จะปลูกปาล์ม ปลูกต้นไม้ไว้ก่อนหน้าที่ผมมาอยู่ในพื้นที่ ซึ่งผมเข้ามาทำงานที่คอกม้าตั้งแต่เริ่มสร้างเมื่อประมาณ 4 ปี สร้างกันรวดเร็วเสร็จเร็วมาก แต่ช่วงนี้ท่านไม่ค่อยได้มาเพราะคงใกล้เกษียณและยุ่งวุ่นวายเรื่องการเมือง ประมาณ 2 เดือนแล้วไม่ได้มา ซึ่งภายในจะมีบ้านรับรองระดับผู้ใหญ่ 2 หลังสร้างติดกัน มี รปภ.ดูแล 2 คนสลับเวรกันอยู่ที่ป้อมยามทางเข้าที่ผมอยู่ ซึ่งผมไม่เคยเดินเข้าไปดูข้างในว่ามีอะไรบ้าง ผมมีหน้าที่เพียงเปิด ปิดประตู ผมไม่เคยได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.พัชรวาท แต่รู้ว่าใจดีชอบยิ้มให้เวลาเปิดประตูเมื่อท่านมา ที่นี่เป็นสนามฝึก ฝึกแล้วก็เอาม้าไปสอบ สอบได้ก็แข่งที่สนามกทม. พอได้ป้ายคิว ก็จะวิ่งกัน”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้กล่าวยืนยันกับทีมข่าวอีกว่า คอกม้าแห่งนี้มีม้าแข่งพันธ์ดีม้าแข่งฝีเท้าดี มี 2 สนามฝึก มีม้ารวมกันประมาณ 70 ตัว มีคนงานดูแล 75 คน
หุ้นส่วนชีวิต “ป๊อด-เรือง”
อย่างไรก็ตาม คนในวงการคอกม้า แข่งม้า จะรู้ดีว่าเป็นคอกม้าที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ จับมือกับเพื่อนซี้ร่วมรุ่นอย่าง พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปั้นขึ้นมาเพื่อใช้เป็นสนามฝึกม้าแข่ง ก่อนส่งเข้าประลองความเร็วที่สนามโคราช และ 2 สนามดังในกรุงเทพมหานคร อีกทั้งคอกม้านี้จะไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไปโดยพลการ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล 24 ชั่วโมง ที่เด่นชัดคือมีป้อมตำรวจตั้งตระหง่าน ทั้งฝั่งตรงข้ามคอกม้าและพื้นที่ในคอกม้า มีตำรวจจากภูธรแก่งคอย จัดเวรสายตรวจมาดูแลทุกวัน ซึ่งที่ดินตรงนี้จะสนนราคาไร่ละไม่ต่ำกว่า 4 แสนบาท และม้าในวงการรู้ดีว่าม้าแข่งฝีเท้าดีพันธุ์ดีจะราคาแพงสูงถึงตกตัวละ 800,000-1,000,000 บาท
ผกก.แก่งคอยป้อง “พัชรวาท”
หลังพบความไม่ปกติในการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย ไปดูแลความปลอดภัยให้กับคอกม้ารุ่งโรจน์ รุ่งพัชร ของ พล.ต.อ.พัชรวาท ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริง จาก พ.ต.อ.สุทธิวัชร์ ศักดาวงศ์วัชร์ ผกก.สภ.แก่งคอย โดย พ.ต.อ.สุทธิวัชร์ เปิดเผยว่า ไม่ใช่เป็นการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลคอกม้าดังกล่าวเป็นพิเศษ ซึ่งพื้นที่โดยรอบตรงนั้นเป็นพื้นที่เปลี่ยวและเป็นเส้นทางขึ้นภูเขา ซึ่งทำให้ผู้ลักลอบค้าเสพติด ยาบ้าใช้เป็นเส้นทางหลบหนีง่าย อีกทั้งมีการลักลอบตัดไม้ป่ากันมาก และมีการลักทรัพย์เกิดขึ้นบ่อย โดยทรัพย์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกเครื่องจักรทำไร่ทำการเกษตรกรรม เครื่องสูบน้ำ เครื่องปั๊มน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะมีประจำป้อมเพียง 1 นาย คอยดูแลความเรียบร้อย โดยนานๆ ครั้งจะตั้งด่านตรวจสักครั้ง เพื่อให้เกิดความอุ่นใจต่อชาวบ้านในละแวกดังกล่าวเนื่องจากมีหลายหมู่บ้าน และเป็นเส้นทางผ่านไปยังหมู่บ้านจัดสรรคนเข้าไปอยู่เยอะด้วย
พ.ต.อ.สุทธิวัชร์ กล่าวต่อไปว่า การจัดตำรวจดูแลในพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่เอื้อประโยชน์ต่อคอกม้า แต่เป็นการดูแลรักษาความเรียบร้อยให้กับประชาชนตามท้องถิ่น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพวกโจรผู้ร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีได้ง่าย เพราะจะหนีขึ้นเขา
“เส้นทางที่ตั้งป้อมตำรวจคอยดูแลมันเป็นทางเปลี่ยวเป็นทางสามแพ่ง มันมีขโมยพวกลักทรัพย์กันมาก ก็ลักพวกเครื่องสูบน้ำ เครื่องปั้มน้ำ เราก็จะมีสายตรวจคอยตระเวนดูด้วย ที่ป้อมมีตำรวจนายเดียวดูแล ต้องคอยสอดส่องพวกค้ายาหนีขึ้นเขา และเส้นทางนี้มันมีบ้านอยู่หลายหมู่บ้าน กระจายกันอยู่เป็นจุด ๆ และมีพวกลักลอบเลื่อยไม้ป่าขนมาตามเส้นทางนี้ ด้วยจึงต้องระวัง มันไม่ใช่ไปเฝ้าคอกม้า ตำรวจเราไม่มีนอกมีในอยู่แล้วทำตามหน้าที่เท่านั้น” พ.ต.อ.สุทธิวัชร์ กล่าว
รอง ผกก.ไม่ทราบมีคอกม้า
ทางด้าน พ.ต.ท.กิตติ์คุณ บุญเสรฐ รอง ผกก.(ป) ซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลเจ้าหน้าที่ตำรวจในป้อมยามดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีคอกม้า ของ พล.ต.อ.พัชรวาท ซึ่งเมื่อตนย้ายมาประจำที่ สภ.แก่งคอย ก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลความเรียบร้อยในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งเส้นทางนี้จะค่อนข้างเปลี่ยวเจ้าหน้าที่ก็เฝ้าสังเกตการณ์ตามปกติ แต่ไม่ใช่ไปเฝ้าดูความเรียบร้อยให้กับคอกม้า โดยเฉพาะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลรอบนอกดูแลทั่วถึงตามเส้นทางของหมู่บ้านละแวกมีคนอาศัยอยู่ โดยตั้งแต่เข้าไปดูแลก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรที่แปลก และรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งทำตามหน้าที่ปกติ
“ผมไม่รู้เป็นคอกม้าใครด้วยซ้ำ ไม่เคยรู้เป็นของ พล.ต.อ.พัชรวาท ย้ายมาก็ได้มอบหมายให้ทำหน้าที่ดูแลตรงนี้ ที่เป็นทางค่อนข้างเปลี่ยว ก็ไม่ค่อยมีเหตุร้ายอะไรนะ ถนนเงียบ แต่ที่ต้องดูแลเพราะมันเป็นเส้นทางเปลี่ยว เป็นทางที่คนร้ายอาจใช้หนีขึ้นเขาได้” พ.ต.ท.กิตติ์คุณกล่าว