“คุณหญิงพรทิพย์” สวน “เป็ดเหลิม” ทันควัน หลังพาดพิงกลางสภาไม่น่าเชื่อถือ พิสูจน์คลิปเสียงนายกฯ ชี้คำพูดสะท้อนสติปัญญา ดีแต่พูดลับหลัง ท้าแน่จริงเจอตัวต่อตัว ยันนิติวิทยาศาสตร์ทำได้ทุกเรื่อง
คลิกที่จอภาพเพื่อรับชม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (3 ก.ย.) พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบัน นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวตอบโต้กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวพาดพิงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยอ้างว่าตนมีหน้าที่พิสูจน์ศพ ไม่รู้เรื่องการพิสูจน์คลิปเสียงนายกรัฐมนตรีว่า คำพูดของคนสะท้อนสติปัญญาของตัวเอง เพิ่งรู้ว่าคนเรียนปริญญาเอกพูดได้แค่นี้ มีคนมาบอกหมอเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว พอได้ยินหมอก็หัวเราะ และรู้สึกเฉยๆ หากเป็นคนที่มีความเจริญแล้วต้องกลัวอะไรที่จะพูดต่อหน้า ไม่ใช่มาพูดลับหลัง ทำให้เสียหายอย่างนี้ เมื่อถามว่าจะฟ้องร้องหรือไม่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ไม่ฟ้อง เพราะกรรมใดใครก่อก็ได้อย่างนั้น
“อยากให้มาเจอตัวต่อตัวหน่อย ดูซิว่าจะกล้าพูดไหม หมอรู้ดีว่านิติวิทยาศาสตร์มีอำนาจหน้าที่แค่ไหน แล้ว ร.ต.อ.เฉลิม ไม่รู้เลยหรือว่าความจริงแล้วนิติวิทยาศาสตร์ทำได้หมดหากมีใครร้องขอ และเรื่องนี้ทางสำนักนายกรัฐมนตรีก็เป็นคนร้องขอมา แล้วเราทำไมจะไม่ทำ พูดแค่นี้ร.ต.อ.เฉลิม คงเข้าใจนะ” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว
ต่อมาแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมในรายการ News Hour ทางเอเอสทีวี ว่า เมื่อฟัง ร.ต.อ.เฉลิม พูดในสภาแล้วรู้สึกขำ ซึ่งคำพูดนั้นบอกสติปัญญาของคนพูดได้เป็นอย่างดี และถ้าหากเป็นคนกวาดถนนที่ไม่มีความรู้ตนก็จะไม่ว่า แต่นี่คนพูดเป็นถึงดอกเตอร์ ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่รู้ แสดงว่าเจตนาของคนพูดเป็นอย่างไร
"คนพวกนี้ เป็นคนไม่เจริญ เพราะคนที่เจริญแล้วเขาจะพูดกันต่อหน้า แต่นี่ไม่กล้าเจอกันต่อหน้า ไปพูดออกทีวีลับหลัง หวังให้เราอับอายขายหน้าไปทั่ว แต่ไม่เป็นไร เพราะเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดอยู่แล้ว มีแต่คนพูดนั่นแหละที่โดนเอง"แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์กล่าว
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์กล่าวอีกว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เกิดขึ้นเพราะเรามีปัญหาขาดแลคนผู้เชี่ยวชาญ เพราะตำรวจไม่สามารถที่จะไปขอความเห็นจากหน่วยงานอื่นได้ทุกเรื่อง จึงต้องมีสถาบันขึ้นมา
สำหรับคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีนั้น แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ยืนยันว่า มาจากรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 19 และ 26 เม.ย.เป็นหลัก