xs
xsm
sm
md
lg

ติดอาวุธความคิดทฤษฎี (2)

เผยแพร่:   โดย: สันติ ตั้งรพีพากร

2. ไม่จำนนปัจจุบัน

เมื่อเราชาวพันธมิตรฯ ที่มองเห็นอดีตแบบเห็นสายน้ำทั้งสาย ตั้งแต่ต้นจนปลาย ย่อมสามารถวิเคราะห์เห็นกระแสน้ำในแต่ละวังแต่ละคุ้งได้ไม่ยาก ทำให้รู้ว่าร่องน้ำใดเหมาะแก่การแล่นเรือมากที่สุด

การต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยของชาวพันธมิตรฯ ก็เช่นเดียวกับการแล่นเรือ เมื่อถึงคุ้งน้ำใดก็ย่อมจะต้องวิเคราะห์ดูว่า กระแสน้ำ ณ คุ้งน้ำนั้นเป็นอย่างไร แล้วจึงเลือกที่จะแล่นไปตามร่องน้ำที่ส่งให้เรือของเราแล่นผ่านไปได้ดีที่สุด

วิธีการวิเคราะห์ของเราในทางการเมือง ก็ด้วยการเริ่มจากปรากฏการณ์ที่เป็นอยู่ ซึ่งเราจะรับรู้จากประสบการณ์ตรงได้ในทันที ว่ามีตัวแปรสำคัญอะไรบ้างที่กำหนดทิศทางพัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทย แล้วจึงลงลึกไปว่า ตัวแปรเหล่านั้นสัมพันธ์และโยงใยกันอย่างไรบ้าง และตัวแปรใดมีบทบาทเป็นตัวกำหนดหลัก

ตัวกำหนดหลักนี้ หากแสดงบทบาทในทางสร้างสรรค์ ย่อมทำให้การเมืองของประเทศไทยพัฒนาไปในทางที่ดี เราก็ย่อมให้การสนับสนุนและเข้าไปมีส่วนร่วม แต่หากตรงกันข้าม เราก็จำเป็นต้องคัดค้าน ต่อต้าน และหาทางเปลี่ยนแปลง

ด้วยวิธีการเช่นนี้ ปัจจุบันเราได้คำตอบชัดเจนว่า การเมืองน้ำเน่าคือตัวแปรหลักกำหนดให้การเมืองประเทศไทยตกต่ำ นักการเมืองผู้ได้อำนาจมาจากการซื้อเสียง มุ่งแต่แสวงประโยชน์ส่วนตน ใช้อำนาจสร้างเงิน ใช้เงินสร้างอำนาจ เกิดเป็นวงจรอุบาทว์ขัดขวางพัฒนาการของสังคมไทย ยังผลให้ประเทศไทยไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร ประชาชนชาวไทยตกทุกข์ได้ยากเกินเหตุ

การเข้าถึงปมปัญหาทำให้เราเกิดความคิดที่จะแก้ไขปัญหา ด้วยเหตุนี้ พวกเราชาวพันธมิตรฯ จึงพร้อมใจกันลุกขึ้นมาต่อต้านการแสวงประโยชน์ของนักการเมืองน้ำเน่า

อนึ่ง ด้วยวิธีการมองเห็นทั้งหมด ทั้งอดีตและปัจจุบัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เรา “ตาสว่าง” มองเห็นโลกทั้งโลก รู้ว่าในอดีตโลกเป็นอย่างไร ปัจจุบันเป็นอย่างไร อะไรคือตัวแปรหลักที่กำหนดทิศทางการพัฒนาของสังคมมนุษยชาติ

ในกรณีนักการเมืองน้ำเน่า ที่เป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศ สร้างความทุกข์ยากให้แก่ประชาชนนั้น ในต่างประเทศก็มี และกำลังประสบชะตากรรมคล้ายคลึงกัน เช่น นายฟูจิ โมริ อดีตประธานาธิบดีเปรู ถูกจับขึ้นศาล ศาลพิพากษาติดคุกมากกว่า 30 ปี อีกคนหนึ่งคือนายเฉินสุ่ยเปี่ยน อดีตผู้นำไต้หวัน มีคดีทุจริต ยักยอกเงินหลวง กำลังจะถูกพิพากษาติดคุกตลอดชีวิต

นั่นแสดงว่า ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ต้องการนักการเมืองมือสะอาดบริหารประเทศ ประเทศไทยยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้อำนาจบริหารประเทศจึงอยู่ไม่ยืด และเมื่อเขาตกจากอำนาจไปแล้ว ถูกเปิดโปงพฤติกรรมฉ้อฉลต่างๆมากมาย กระทั่งศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ต้องหนีซมซานไปอยู่ต่างแดน และหากเดินทางกลับเข้าประเทศ ก็ต้องถูกจับส่งตัวเข้าคุก และดำเนินคดีอื่นๆ เพิ่มอีก ชะตากรรมของเขาก็จะไม่ต่างไปจากนายฟูจิ โมริ และนายเฉินสุ่ยเปี่ยนแต่ประการใด

ในสายตาของเรา ณ วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หมดโอกาสที่จะหวนคืนสู่อำนาจอีกครั้งอย่างแน่นอน ไม่ใช่เพราะเราเท่านั้นที่ “ไม่เอา” เขา แต่โลกทั้งโลกก็จะไม่เอาเขาเช่นเดียวกัน เพราะเขาเคยใช้อำนาจแสวงประโยชน์ส่วนตน เป็นนักการเมืองน้ำเน่าแบบเก่า ผิดยุคผิดสมัย ไม่เป็นที่ต้องการของประชาชนชาวไทยและชาวโลกโดยรวม

อีกไม่นานนักหรอก คนไทยเราส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วน ที่เคยศรัทธาในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ด้วยเหตุนี้ ชาวพันธมิตรฯ จึงมีสายตายาวไกล มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีทัศนคติที่ถูกต้อง และมีอุดมการณ์สูงส่งกว่ากลุ่มการเมืองอื่นใดทั้งหมด

จึงมองเห็นปัญหาและมีวิธีแก้ไขปัญหาในทุกขั้นตอน ไม่มีวันจนมุม

3. ยึดมั่นอนาคต

ด้วยความมีสายตายาวไกล วิสัยทัศน์กว้างไกล ทัศนคติถูกต้อง และอุดมการณ์สูงส่ง ทำให้ชาวพันธมิตรฯ เป็นผู้มองเห็นอนาคตได้ชัดเจน ว่าถึงที่สุดแล้ว ด้วยความพยายามร่วมกันของมวลมหาชนชาวไทย ประเทศไทยก็จะหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์ คนไทยจะสามารถร่วมกันสร้างชีวิตใหม่ได้

ด้วยการเมืองใหม่ ประเทศไทยจะเริ่มประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ความมีเสถียรภาพจะเกิดขึ้น ความสมานฉันท์จะปรากฏ เศรษฐกิจจะเข้าที่เข้าทาง สังคมจะร่มเย็น คนไทยจะมีความเป็นอิสระ มีเสรีภาพในการสร้างชีวิตได้มากและดีกว่าทุกยุคทุกสมัย

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ ลูกหลานไทยจะปลอดพ้นจากการครอบงำของค่านิยมผิดๆ คนดีจะได้รับการสรรเสริญ

แต่ทั้งหมดนั้น จะไม่บังเกิดขึ้นแบบเป็นไปเอง แต่จะค่อยๆ ถักทอต่อเชื่อมกันขึ้นมาจากความร่วมแรงร่วมใจกันของคนส่วนใหญ่ ซึ่งหนีไม่พ้นที่จะต้องเริ่มจากพวกเราชาวพันธมิตรฯ

เริ่มตรงไหน?

เริ่มที่พวกเราชาวพันธมิตรฯ ต้องปรับตัวและพัฒนาตนเองในทุกๆ ด้าน ในท่ามกลางการปฏิบัติภารกิจร่วมกัน เสริมสร้างจิตใจที่เสียสละ กล้าหาญ ซื่อสัตย์ อดทน ปลูกฝังอุดมการณ์และความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเมืองใหม่ สร้างสังคมอุดมธรรม ปรับปรุงท่วงทำนองวิธีคิดวิธีการทำงานอยู่เสมอ

อีกนัยหนึ่ง พวกเราชาวพันธมิตรฯ ต้องสำนึกอยู่เสมอว่า การสร้างการเมืองใหม่ การสร้างสังคมใหม่และชีวิตใหม่ จะสำเร็จได้ด้วยความร่วมแรงร่วมใจกันของมวลมหาชนชาวไทยเท่านั้น

นี่คือเงื่อนไขหรือข้อแม้เบื้องต้นที่ประวัติศาสตร์กำหนด

โดยนัยนี้ พวกเราชาวพันธมิตรฯ จึงมีหน้าที่ที่จะต้องพยายามปรับปรุงแก้ไขตนเองตลอดเวลา เพื่อให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่นและทรงประสิทธิภาพยิ่ง

ปัจจุบัน เรามักจะได้พบเห็นเป็นประจำถึงข้อขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน ซึ่งในบางกรณีก็เป็นเรื่องหยุมหยิม ไม่ใช่เรื่องหลักการ สาเหตุเพราะยังไม่มีการปรับปรุงวิธีคิดวิธีการทำงาน ขาดจิตใจเสียสละ ไม่กล้าที่จะเสียสละ และหลงลืมอุดมการณ์

เวลามีปัญหาแก้ไม่ตก ก็จะรู้สึกหงุดหงิด เศร้าหมอง ท้อแท้ ร้อนถึงคนอื่นหรือแกนนำต้องวิ่งวุ่นแก้ไข ไม่ต่างจากการจับปูใส่กระด้ง ต่างพากันสับสนวุ่นวาย วกวน ไม่เป็นผลดีต่องาน

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาหยุมหยิมที่มักจะมีอยู่เสมอ ชาวพันธมิตรฯ จะต้องฝึกฝนตนเอง ในการแยกแยะปัญหา ใช้ปัญญาแทนอารมณ์ วิธีการยึดมั่นอนาคต มองเห็นอนาคต นับเป็นสิ่งแรกๆ ที่เราสามารถทำได้ไม่ยาก

ความยึดมั่นอนาคต เชิดชูอุดมการณ์ จะทำให้เรามองข้ามปัญหาหยุมหยิมได้ สามารถพาตนเองหลุดพ้นจากกับดักต่างๆ ที่มีอยู่ตลอดเส้นทางของการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่ประเทศไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น