ASTVผู้จัดการรายวัน-กรมทางหลวงดีเดย์ 9ก.ย.เซ็นสัญญาผู้รับเหมาซ่อมบำรุงทางหลวงทั่วประเทศจังหวัดๆ ละ 1สัญญาประเดิมงบไทยเข้มแข็ง ปี 53 วงเงิน12,497 ล้านบาท คาดสิ้นปี เบิกจ่ายได้กว่า 10,000 ล้านบาท กระจายรายได้ตามนโยบายงบกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน 23,626 ล้านบาทภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งปี 2555 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (sp 2) ล็อตแรกจำนวน 200,000 ล้านบาทเพื่อดำเนินโครงการที่อยู่ในการดูแลตามสาขาการขนส่งทางถนนในปี 2552-2553 โดยงานหลักที่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ งานซ่อมบำรุงรักษาทางหลวงทั่วประเทศซึ่งทางสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เห็นว่า เป็นโครงการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีโดยงบประมาณดังกล่าวจะนำมาใช้ในงานซ่อมบำรุงทางหลวงทั่วประ เทศ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. 2552 นี้ จะเริ่มลงนามสัญญาก่อสร้างพร้อมกันทั่วประเทศอย่างน้อยจังหวัดละ 1 สัญญา มูลค่าสัญญาละประมาณ 20-30 ล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างประมาณ 4-6 เดือน
สำหรับโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งปี 2555 นั้น กระทรวงคม ได้รับจัดสรรเงินงบประมาณรวมทั้งหมด 39,900 ล้านบาท โดยในส่วนของกรมทางหลวงได้รับงบประมาณจำนวน 23,626 ล้านบาท แบ่งเป็น ในปี 2552 จำนวน 12,497 ล้านบาท และในปี 2553 จำนวน 11,128 ล้านบาท ซึ่งคาดว่างบในปี 2552 จะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท ภายในสิ้นเดือนธ.ค. 2552 จากวงเงินทั้งหมดที่ได้รับ
ทั้งนี้โครงการที่ ทล.จะเริ่มดำเนินการในปี 2552-2553 ประกอบด้วย โครงการบำรุงรักษาทางหลวงทั่วประเทศ ระยะทาง 63,384 กิโลเมตร วงเงิน 13,534 ล้านบาท แบ่งเป็นในปี 2552 จำนวน 10,147 ล้านบาท และในปี 2553 จำนวน 3,387 ล้านบาท , โครงการบูรณะทางสายหลัก โดยจะบูรณะทางหลวงสายหลักและโครงข่ายต่อเนื่องจำนวน 22 โครงการ ระยะทาง 291.142 กิโลเมตร วงเงิน 1,565 ล้านบาท แบ่งเป็นในปี 2552 จำนวน 353 ล้านบาท และในปี 2553 จำนวน 1,212 ล้านบาท
โครงการเพื่อประสิทธิภาพทางหลวง 27 จังหวัด รวม 36 โครงการ วงเงิน 2,127 ล้านบาท , งานด้านความปลอดภัย ทั่วประเทศ วงเงินรวม 3,300 ล้านบาท แบ่งเป็นในปี 2552 จำนวน 500 ล้านบาท และในปี 2553 จำนวน 2,800 ล้านบาท ,งานพัฒนาทางหลวง ที่เป็นโครงการย่อย 73 จังหวัด 170 โครงการ วงเงิน 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็นในปี 2552 จำนวน 1,499 ล้านบาท และในปี 2553 จำนวน 1,100 ล้านบาท ซึ่งจะปรับปรุงทางหลวงที่ผ่านย่านชุมชน แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และดำเนินการก่อสร้างทางเดิมที่เป็นทางลูกรัง ทางลำลอง และทางลาดยางเดิมที่ชำรุดเสียหาย ให้มีสภาพพร้อมใช้งานได้
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน 23,626 ล้านบาทภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งปี 2555 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (sp 2) ล็อตแรกจำนวน 200,000 ล้านบาทเพื่อดำเนินโครงการที่อยู่ในการดูแลตามสาขาการขนส่งทางถนนในปี 2552-2553 โดยงานหลักที่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ งานซ่อมบำรุงรักษาทางหลวงทั่วประเทศซึ่งทางสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เห็นว่า เป็นโครงการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีโดยงบประมาณดังกล่าวจะนำมาใช้ในงานซ่อมบำรุงทางหลวงทั่วประ เทศ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. 2552 นี้ จะเริ่มลงนามสัญญาก่อสร้างพร้อมกันทั่วประเทศอย่างน้อยจังหวัดละ 1 สัญญา มูลค่าสัญญาละประมาณ 20-30 ล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างประมาณ 4-6 เดือน
สำหรับโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งปี 2555 นั้น กระทรวงคม ได้รับจัดสรรเงินงบประมาณรวมทั้งหมด 39,900 ล้านบาท โดยในส่วนของกรมทางหลวงได้รับงบประมาณจำนวน 23,626 ล้านบาท แบ่งเป็น ในปี 2552 จำนวน 12,497 ล้านบาท และในปี 2553 จำนวน 11,128 ล้านบาท ซึ่งคาดว่างบในปี 2552 จะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท ภายในสิ้นเดือนธ.ค. 2552 จากวงเงินทั้งหมดที่ได้รับ
ทั้งนี้โครงการที่ ทล.จะเริ่มดำเนินการในปี 2552-2553 ประกอบด้วย โครงการบำรุงรักษาทางหลวงทั่วประเทศ ระยะทาง 63,384 กิโลเมตร วงเงิน 13,534 ล้านบาท แบ่งเป็นในปี 2552 จำนวน 10,147 ล้านบาท และในปี 2553 จำนวน 3,387 ล้านบาท , โครงการบูรณะทางสายหลัก โดยจะบูรณะทางหลวงสายหลักและโครงข่ายต่อเนื่องจำนวน 22 โครงการ ระยะทาง 291.142 กิโลเมตร วงเงิน 1,565 ล้านบาท แบ่งเป็นในปี 2552 จำนวน 353 ล้านบาท และในปี 2553 จำนวน 1,212 ล้านบาท
โครงการเพื่อประสิทธิภาพทางหลวง 27 จังหวัด รวม 36 โครงการ วงเงิน 2,127 ล้านบาท , งานด้านความปลอดภัย ทั่วประเทศ วงเงินรวม 3,300 ล้านบาท แบ่งเป็นในปี 2552 จำนวน 500 ล้านบาท และในปี 2553 จำนวน 2,800 ล้านบาท ,งานพัฒนาทางหลวง ที่เป็นโครงการย่อย 73 จังหวัด 170 โครงการ วงเงิน 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็นในปี 2552 จำนวน 1,499 ล้านบาท และในปี 2553 จำนวน 1,100 ล้านบาท ซึ่งจะปรับปรุงทางหลวงที่ผ่านย่านชุมชน แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และดำเนินการก่อสร้างทางเดิมที่เป็นทางลูกรัง ทางลำลอง และทางลาดยางเดิมที่ชำรุดเสียหาย ให้มีสภาพพร้อมใช้งานได้
