xs
xsm
sm
md
lg

แม็คโครยุค5รุกเซกเมนต์เตชั่นโอดครึ่งปีแรกรายได้โตแค่2%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แม็คโครเตรียมรุกธุรกิจสู่ยุคที่ 5 งัดกลยุทธ์ทำตลาดเจาะลึกเซกเมนต์เตชั่น แต่ละกลุ่มลูกค้าตามสาขา ลั่นหากได้พื้นที่เหมาะสมทำเลดีเปิดสาขาแน่ เพราะเม็ดเงินพร้อม ชี้เศรษฐกิจยังไม่นิ่ง ครึ่งปีแรกเติบโตแค่ 2%

นางสุชาดา  อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม็คโคร  เตรียมเข้าสู่ธุรกิจในยุคที่ 5 ในอีกประมาณ 2 ปีจากนี้ คือกลยุทธ์การทำตลาดแบบเจาะเป็นรายเซกเมนต์เตชั่นอย่างชัดเจน  ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสาขา การจัดวางสินค้า การนำเสนอสินค้า ในแต่ละสาขาแต่ละพื้นที่เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มมากที่สุดซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นการทำตลาดลงลึกไปอีก แม้ว่าจากทุกวันนี้จะทำตลาดชัดเจนกับกลุ่มเป้าหมายแล้วก็ตาม  

ปัจจุบันแม็คโครมีลูกค้า 3 กลุ่มหลักคือ  1.โชห่วย ร้านค้าปลีกย่อย  สัดส่วน 55%  2.กลุ่มโฮเรก้าหรือ ภัตตาคาร ร้านอาหาร โรงแรม สัดส่วน 15% แต่มีการเติบโตมากที่สุด  และ 3.กลุ่มทั่วไป เช่น ออฟฟิศ หน่วยงานต่างๆ ที่ไม่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร และคนทั่วไป  สัดส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยมีจำนวนสมาชิกที่จดทะเบียนจำนวน 2 ล้านราย และสมาชิกร้านโชห่วยกว่า 500,000 รายทั่วประเทศ

นางสุชาดากล่าวยกตัวอย่างว่า ที่สาขาภูเก็ต ซึ่งเปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2004 เป็นรูปแบบปกติ  แต่ปัจจุบันพบว่ากลุ่มลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้า เป็นกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารมากถึง 40% ซึ่งมากกว่าสาขาทั่วไปที่มีประมารณ 15%  ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะเจาะให้ชัดเจนและลงรากลึกมากขึ้น

ส่วนแผนการลงทุนสาขาใหม่นั้นยังมีอยู่ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่า ขนาดพื้นที่และทำเลที่ได้มานั้นมีความเหมาะสมเปิดได้หรือไม่อย่างไร และติดขัดเรื่องกฎหมายหรือไม่ แต่ในส่วนของบริษัทฯเองมีความพร้อมอยู่แล้วที่จะลงทุน ซึ่งล่าสุดเปิดสาขาที่อุดรธานี และปลายปีจะเปิดที่พัทยา ขณะนี้มีเปิดบริการแล้ว 43 สาขา อยู่ในกรุงเทพฯ 9 สาขาซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วเปิดปีละประมาณ 2 สาขา  แต่มีบางปีเช่นปี 2550 ที่สามารถเปิดได้มากถึง 12 สาขา

สำหรับผลประกอบการของบริษัทในช่วง 7 เดือนแรกปี 2552 นี้  มีอัตราการเติบโตด้านรายได้ 2%  ขณะที่จีดีพีติดลบ 6 แต่มีกำไรบ้างแต่ไม่มากนัก เพราะเน้นการขายปริมาณที่มาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก  บรรยากาศการเมืองยังเป็นปัจจัยสำคัญ  อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในครึ่งปีหลังสถานการณ์น่าจะดีขึ้น เพราะเป็นช่วงไตรมาสที่สี่ที่เป็นหน้าขายของค้าปลีกอยู่แล้ว ซึ่งคาดว่าปีนี้น่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 70,000 กว่าล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 60,000 กว่าล้านบาท

นางสุชาดา กล่าวด้วยว่า ในปีนี้แม็คโครประเทศไทยครบรอบ 20 ปี จึงได้จัดโครงการ “ตลาดนัดโชวห่วย” ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ที่ใหญ่กว่าเดิม วันที่ 11-13 กันยายนนี้ที่อิมแพ็คอารีน่าเมืองทองธานี ซึ่งจะใหญ่กว่าครั้งแรกที่จัดที่สาขาลาดพร้าว โดยมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการสนับสนุนโชวห่วยไทยให้มีความแข็งแกร่ง  ให้การแนะแนวทางการดำเนินงานธุรกิจค้าปลีกแบบครบวงจร โดยคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้ามาร่วมงานกว่า 10,000 คน  โดยใช้งบประมาณจัดงานรวม 15 ล้านบาท  อีกทั้งจะยังมีการเปิดตัว ช่องทางการทำธุรกิจค้าปลีก 7 โมเดลให้กับผู้ประกอบการรายย่อย และผู้ที่สนใจด้วย เช่น การใช้พื้นที่หน้าบ้านทำธุรกิจได้อย่างไร  การใช้มอเตอร์ไซค์เปิดข้างทำธุรกิจอย่างไร  เป็นต้น

ทั้งนี้การจัดงานครั้งแรกมีผู้ที่สนใจและติดต่อเพื่อเข้าร่วมโครงการมิตรแท้โชวห่วยมากกว่า 200 ราย   ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ปัญหาที่ผู้ประกอบการพบมากที่สุดคือ การจัดการร้านค้าทั้งการวางสินค้า การซื้อสินค้าเข้าร้าน การจัดสินค้าคงคลัง  ซึ่งหลังจากที่ได้มีการปรับปรุงและจัดการกันใหม่แล้ว พบว่า ส่วนใหญ่มียอดขายเพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น