ASTVผู้จัดการรายวัน - กสิกรไทยออกโครงการ"ประกันอนาคตเรา อนาคตลูก" เปิดตัว 2 กรมธรรม์ใหม่ ให้ความคุ้มครองประกันชีวิตพ่วงการออมที่ให้ผลตอบแทนสูง ระบุเป็นทางเลือกในการออมยุคดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ
นายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK)เปิดเผยว่า จากภาวะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคมองหาช่องทางการออมในรูปแบบอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่จูงใจและมีความมั่นคง โดยลูกค้าเริ่มให้ความสนใจในการทำประกันชีวิตควบการออมเงิน ที่ได้ผลตอบแทนจากการออมและได้รับการคุ้มครองชีวิตพร้อมกันมากขึ้น ดังนั้นธนาคารกสิกรไทย จึงได้ร่วมกับบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ออกโครงการประกันอนาคตเรา อนาคตลูก เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการออมเพื่ออนาคตที่ให้ผลตอบแทนสูง 2 แบบ ได้แก่
บริการประกันเพื่ออนาคตการศึกษาบุตร (Pro Education A22/A15) เป็นกรมธรรม์แบบสะสมทรัพย์ เน้นการวางแผนการออมเงินเพื่อให้เป็นทุนการศึกษาของบุตรในอนาคตไปพร้อมความคุ้มครองชีวิต ที่ผู้ปกครองทำให้บุตรที่มีอายุตั้งแต่ 1 เดือนถึง 10 ปี ระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันถึงอายุ 15 ปี ให้ความคุ้มครองจนอายุครบ 22 ปี โดยจะให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามอายุของผู้เอาประกันสูงสุดถึง 230% ของทุนประกัน
สำหรับผลประโยชน์ที่จะได้รับเป็นเงินคืนทุกปี เพื่อให้ผู้ปกครองนำไปเป็นทุนการศึกษาของบุตรตั้งแต่อายุครบ 15 ปีจนถึงอายุครบ 22 ปี รวมทั้งสิ้น 250% ของทุนประกัน โดยอายุ 15-17 ปี ได้เงินคืนปีละ 10% รวมเป็น 30% อายุ 18-21 ปี ได้เงินคืนปีละ 30% รวม 120% และเมื่ออายุครบ 22 ปี จะมีเงินคืนอีก 100% ของทุนประกัน
และประกันเพื่ออนาคตวัยเกษียณ (Pro Retirement A85/A55) เป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ เน้นการวางแผนการออมเงินในระยะยาวเพื่อเป็นเงินเก็บยามเกษียณอายุ ซึ่งผู้ทำประกันต้องมีอายุตั้งแต่ 20-45 ปี ระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันถึงอายุครบ 55 ปี แต่ให้ความคุ้มครองจนอายุครบ 85 ปี ผู้ทำประกันจะได้รับผลประโยชน์เป็นเงินคืนทุกปีรวมทั้งสิ้น 700% ของทุนประกัน โดยอายุ 55-69 ปี ได้เงินคืนปีละ 20% รวมเป็น 300% อายุ 70-85 ปี ได้คืนปีละ 25% รวม 400% ส่วนความคุ้มครองกรณีการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นตามปีกรมธรรม์สูงสุดถึง 600% ของทุนประกัน ตั้งแต่ปีที่ 10 เป็นต้นไปจนครบสัญญา
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีกรมธรรม์ประกันชีวิตคุ้มครองสุขภาพ ที่เน้นวางแผนการออมเงินพร้อมกับความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ สำหรับผู้ขอเอาประกันที่มีอายุตั้งแต่ 20-50 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันชีวิต 6 ปี หรือ 10 ปี แต่ให้ความคุ้มครองสุขภาพ 14 ปี พร้อมความคุ้มครองโรคร้ายแรงสูงสุด 30 โรค ด้วยวงเงิน 2 เท่าของทุนประกันชีวิต และสามารถเบิกค่าชดเชยกรณีรักษาตัวได้สูงสุด 3,000 บาทต่อวัน ได้นานถึง 365 วัน
นายศีลวัต กล่าวว่า ธนาคารได้ตั้งเป้าเบี้ยกรมธรรม์ประกันเพื่ออนาคตการศึกษาของบุตรภายในปีนี้ไว้ไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท และประกันเพื่ออนาคตวัยเกษียณไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท และประกันชีวิตคุ้มครองสุขภาพ ไม่ต่ำกว่า 20,000 ราย คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท ขณะที่เบี้ยประกันของธนาคารกสิกรไทยในครึ่งปีแรกปีนี้อยู่ที่ 4,961 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยมีส่วนแบ่งตลาดเบี้ยประกันชีวิตผ่านช่องทางธนาคาร (bancassurance) คิดเป็น 16% ของธุรกิจประกันผ่านช่องทางธนาคาร
นายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK)เปิดเผยว่า จากภาวะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคมองหาช่องทางการออมในรูปแบบอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่จูงใจและมีความมั่นคง โดยลูกค้าเริ่มให้ความสนใจในการทำประกันชีวิตควบการออมเงิน ที่ได้ผลตอบแทนจากการออมและได้รับการคุ้มครองชีวิตพร้อมกันมากขึ้น ดังนั้นธนาคารกสิกรไทย จึงได้ร่วมกับบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ออกโครงการประกันอนาคตเรา อนาคตลูก เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการออมเพื่ออนาคตที่ให้ผลตอบแทนสูง 2 แบบ ได้แก่
บริการประกันเพื่ออนาคตการศึกษาบุตร (Pro Education A22/A15) เป็นกรมธรรม์แบบสะสมทรัพย์ เน้นการวางแผนการออมเงินเพื่อให้เป็นทุนการศึกษาของบุตรในอนาคตไปพร้อมความคุ้มครองชีวิต ที่ผู้ปกครองทำให้บุตรที่มีอายุตั้งแต่ 1 เดือนถึง 10 ปี ระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันถึงอายุ 15 ปี ให้ความคุ้มครองจนอายุครบ 22 ปี โดยจะให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามอายุของผู้เอาประกันสูงสุดถึง 230% ของทุนประกัน
สำหรับผลประโยชน์ที่จะได้รับเป็นเงินคืนทุกปี เพื่อให้ผู้ปกครองนำไปเป็นทุนการศึกษาของบุตรตั้งแต่อายุครบ 15 ปีจนถึงอายุครบ 22 ปี รวมทั้งสิ้น 250% ของทุนประกัน โดยอายุ 15-17 ปี ได้เงินคืนปีละ 10% รวมเป็น 30% อายุ 18-21 ปี ได้เงินคืนปีละ 30% รวม 120% และเมื่ออายุครบ 22 ปี จะมีเงินคืนอีก 100% ของทุนประกัน
และประกันเพื่ออนาคตวัยเกษียณ (Pro Retirement A85/A55) เป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ เน้นการวางแผนการออมเงินในระยะยาวเพื่อเป็นเงินเก็บยามเกษียณอายุ ซึ่งผู้ทำประกันต้องมีอายุตั้งแต่ 20-45 ปี ระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันถึงอายุครบ 55 ปี แต่ให้ความคุ้มครองจนอายุครบ 85 ปี ผู้ทำประกันจะได้รับผลประโยชน์เป็นเงินคืนทุกปีรวมทั้งสิ้น 700% ของทุนประกัน โดยอายุ 55-69 ปี ได้เงินคืนปีละ 20% รวมเป็น 300% อายุ 70-85 ปี ได้คืนปีละ 25% รวม 400% ส่วนความคุ้มครองกรณีการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นตามปีกรมธรรม์สูงสุดถึง 600% ของทุนประกัน ตั้งแต่ปีที่ 10 เป็นต้นไปจนครบสัญญา
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีกรมธรรม์ประกันชีวิตคุ้มครองสุขภาพ ที่เน้นวางแผนการออมเงินพร้อมกับความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ สำหรับผู้ขอเอาประกันที่มีอายุตั้งแต่ 20-50 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันชีวิต 6 ปี หรือ 10 ปี แต่ให้ความคุ้มครองสุขภาพ 14 ปี พร้อมความคุ้มครองโรคร้ายแรงสูงสุด 30 โรค ด้วยวงเงิน 2 เท่าของทุนประกันชีวิต และสามารถเบิกค่าชดเชยกรณีรักษาตัวได้สูงสุด 3,000 บาทต่อวัน ได้นานถึง 365 วัน
นายศีลวัต กล่าวว่า ธนาคารได้ตั้งเป้าเบี้ยกรมธรรม์ประกันเพื่ออนาคตการศึกษาของบุตรภายในปีนี้ไว้ไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท และประกันเพื่ออนาคตวัยเกษียณไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท และประกันชีวิตคุ้มครองสุขภาพ ไม่ต่ำกว่า 20,000 ราย คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท ขณะที่เบี้ยประกันของธนาคารกสิกรไทยในครึ่งปีแรกปีนี้อยู่ที่ 4,961 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยมีส่วนแบ่งตลาดเบี้ยประกันชีวิตผ่านช่องทางธนาคาร (bancassurance) คิดเป็น 16% ของธุรกิจประกันผ่านช่องทางธนาคาร
