xs
xsm
sm
md
lg

“วัชระ ตันตรานนท์”นำ วี.กรุ๊ปลงทุนจีน จับมือKingLandขึ้นรีสอร์ทหรู-คุ้มขันโตกริมโขง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวัชระ ตันตรานนท์ นักพัฒนาที่ดินรายใหญ่ของเชียงใหม่ กับ King Land Tourism Investment Group สิบสองปันนา ได้มีการลงนามร่วมกันเมื่อ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าฯเชียงใหม่ และนางเตา หลินอิน ผู้ว่าฯสิบสองปันนา ร่วมเป็นสักขีพยาน
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – “วัชระ ตันตรานนท์” นำ “วี.กรุ๊ป” จับมือทุนจีน ขึ้นรีสอร์ต 5 ดาว พร้อม “คุ้มขันโตก” ริมฝั่งแม่น้ำโขง สิบสองปันนา นำวิถีล้านนา-ไทลื้อ เป็นจุดขาย คาดใช้เงินไม่น้อยกว่า 400-500 ล้านบาท เล็งขยายการลงทุนพัฒนาที่ดินเข้าจีนต่อหากมีช่องทาง หลังเห็นทุนจีนทำคอนโดฯไม่พอขาย ตั้งโต๊ะรับจองแค่ 7 วันขายกันเกลี้ยงโครงการ


ระหว่างที่นางเตา หลินอิน ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองชนชาติไต สิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน สาธารณรัฐประชาชนจีน นำคณะตัวแทนรัฐ-เอกชนจีน เยือนเชียงราย เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และภูเก็ต อย่างเป็นทางการเพื่อโรดโชว์โครงการส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ ของสิบสองปันนา ตั้งแต่วันที่ 23-30 สิงหาคม 2552 ได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมลงทุนระหว่างภาคเอกชนไทย-จีน ที่เห็นเป็นรูปธรรมเกิดขึ้นแล้ว

ทั้งนี้ เป็นการลงนามระหว่าง Thai Lanna Food & Cultural Center Company Limited เครือกลุ่มบริษัท วี.กรุ๊ป จำกัด ของนายวัชระ ตันตรานนท์ นักพัฒนาที่ดินรายใหญ่ของเชียงใหม่ กับ King Land Tourism Investment Group สิบสองปันนา โดยมีการลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าฯเชียงใหม่ และนางเตา หลินอิน ผู้ว่าฯสิบสองปันนา ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายวัชระ กล่าวว่า กลุ่ม King Land ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจีน ที่ได้รับอนุมัติให้พัฒนาที่งอกริมฝั่งแม่น้ำโขง ห่างจากตัวเมืองจิ่งหง (เชียงรุ่ง) ประมาณ 4-5 กิโลเมตร (ติดกับที่ตั้งกระเช้าข้ามแม่น้ำโขง สิบสองปันนา) เนื้อที่ทั้งหมด 480 ไร่ สนใจรูปแบบการให้บริการของ “คุ้มขันโตก” และรีสอร์ตของบริษัท ที่คงเอกลักษณ์ความเป็นล้านนา จึงได้เชิญเข้าไปร่วมลงทุนพัฒนาพื้นที่ส่วนหนึ่งของโครงการดังกล่าว แต่ยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียดว่า จะร่วมทุนในสัดส่วนเท่าใด มีเพียงการตกลงในเบื้องต้นว่า จะนำ “คุ้มขันโตก-รีสอร์ต” ของ วี.กรุ๊ป เข้าไปเปิดให้บริการเท่านั้น โดยเขาจะเข้าไปดูพื้นที่ และหารือแนวทางการร่วมทุนในเร็ว ๆ นี้

นายวัชระ บอกว่า อย่างไรก็ตามเท่าที่คุยกับนายโจ คุน กรรมการผู้บริการกลุ่มKing Land แล้ว คาดว่าจะใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งที่ติดกับแม่น้ำโขง ประมาณ 30-40 ไร่ ในการทำ “คุ้มขันโตก สาขาจิ่งหง - รีสอร์ต” เงินลงทุนประมาณ 400-500 ล้านบาท โดยจะนำเอาการแสดง เชฟ ตลอดจนพนักงานจากไทยเข้าไปให้บริการ ส่วนรีสอร์ตจะเป็นรีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว ในเครือข่ายของบริษัท ซึ่งใช้เชนญี่ปุ่น คือ “เชบู” ที่มีห้องพักในญี่ปุ่นไม่น้อยกว่า 33,000 ห้อง 56 โรงแรมทั่วญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน มาบริหารอยู่แล้ว

นอกจากการลงทุนเปิดสาขาคุ้มขันโตก – รีสอร์ตดังกล่าวแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ที่ วี.กรุ๊ป จะขยายการลงทุนเข้าไปในจีน เกี่ยวกับธุรกิจพัฒนาที่ดิน โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ที่สร้างเท่าไหร่ก็ไม่พอขายสำหรับตลาดจีน หลายโครงการที่เขาเคยเห็น แค่ 7 วันก็ขายหมดทั้งโครงการแล้ว จึงอาจเป็นไปได้ว่า อนาคตอาจจะเข้าไปลงทุนหากเงื่อนไขต่าง ๆ เอื้ออำนวย

สำหรับพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน (ไทย พม่า ลาว จีน) เขามองว่า เป็นพื้นที่การลงทุนที่จะขยายตัวอีกมากในอนาคต ถ้าหากรัฐบาลผ่อนคลายกฎระเบียบให้การเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกันทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกรณีการเปิดให้คนจีนเดินทางเข้ามาในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือของไทย โดยไม่ต้องใช้พาสปอร์ต – วีซ่า โดยอาจจะใช้เพียงบอร์เดอร์พาสต์เท่านั้น ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาไทยมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ไม่เพียงเท่านั้นพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตอนบน หรือสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ยังสามารถขายโปรแกรมท่องเที่ยว “1 วันเที่ยว 4 ประเทศ” คือ ไทย พม่า ลาว จีน ได้อีกด้วย

สำหรับกลุ่มKing Land Tourism Investment Group ร่วมกับ Haicheng Group ในนาม “เก้าจวงสิบสองจิ่ง” หรือโครงการเก้าท่า สิบสองเมือง บนพื้นที่งอกริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่ประกาศเป็นเขตศูนย์กลางใหม่ช้างเจียง ในสิบสองปันนา ซึ่งมีเป้าหมายพัฒนาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในย่านลุ่มน้ำโขงตอนบน ศูนย์กลางการท่องเที่ยวในเขตร้อนชื้น ศูนย์กลางของแม่น้ำโขง ที่จะสัมผัสถึงวัฒนธรรมชนเผ่าไทลื้อ แหล่งชอปปิ้งริมน้ำโขง ศูนย์รวมโรงละครใหญ่แม่น้ำโขงสิบสองปันนา ฯลฯ นอกจากนี้กลุ่ม King Land ยังมีโครงการลงทุนในเครือข่ายทั้งในพม่า ลาว ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น