ASTVผู้จัดการรายวัน - บสก. โชว์ผลงาน 7 เดือนแรกปีนี้ ทำรายได้ 6 พันล้านบาท คิดเป็นกำไรกว่าพันล้านบาท แม้มีปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจ การเมือง คาดทั้งปีทำรายได้เข้าเป้า 1.16 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2 พันล้านบาท
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วง 7 เดือนว่า บสก. มีรายได้จากการปรับโครงสร้างหนี้และจำหน่ายทรัพย์รวมทั้งสิ้น 6.2 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 1.16 พันล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะสามารถทำรายได้ตามเป้าหมาย 1.16 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ ถึงแม้จะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ และการเมืองในช่วงที่ผ่านมา แต่ บสก.ได้ใช้กลยุทธ์ส่งเสริมกิจกรรมการขายทุกรูปแบบเพื่อกระตุ้นยอดขายทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมออกบูทในงานมหกรรมอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ รวมถึงการออกบูทของ บสก. เอง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยมีเป้าหมายการออกบูธจำหน่ายทรัพย์ในปีนี้จำนวน 100 ครั้ง ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดขายทรัพย์เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดย ณ มิถุนายน 2552 มียอดจำหน่ายทรัพย์รวมทั้งสิ้น 1.1 พันล้านบาท
ส่วนทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งมีผลจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจของประเทศมีการปรับตัวที่ดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากมาตรการภาครัฐที่ออกมามีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อาทิ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่จะหมดลงในช่วงสิ้นปี 2552 จะช่วยเร่งการตัดสินใจของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อที่อยู่อาศัยระหว่างสถาบันการเงิน จะช่วยสร้างอำนาจการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
“ถึงแม้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ คือ ด้านการท่องเที่ยวมีแนวโน้มการชะลอตัวอย่างมากในปีนี้ และแนวโน้มการฟื้นตัวจะช้าตามภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงปัญหาความไม่สงบทางการเมืองของประเทศไทยเองด้วย”
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วง 7 เดือนว่า บสก. มีรายได้จากการปรับโครงสร้างหนี้และจำหน่ายทรัพย์รวมทั้งสิ้น 6.2 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 1.16 พันล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะสามารถทำรายได้ตามเป้าหมาย 1.16 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ ถึงแม้จะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ และการเมืองในช่วงที่ผ่านมา แต่ บสก.ได้ใช้กลยุทธ์ส่งเสริมกิจกรรมการขายทุกรูปแบบเพื่อกระตุ้นยอดขายทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมออกบูทในงานมหกรรมอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ รวมถึงการออกบูทของ บสก. เอง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยมีเป้าหมายการออกบูธจำหน่ายทรัพย์ในปีนี้จำนวน 100 ครั้ง ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดขายทรัพย์เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดย ณ มิถุนายน 2552 มียอดจำหน่ายทรัพย์รวมทั้งสิ้น 1.1 พันล้านบาท
ส่วนทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งมีผลจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจของประเทศมีการปรับตัวที่ดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากมาตรการภาครัฐที่ออกมามีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อาทิ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่จะหมดลงในช่วงสิ้นปี 2552 จะช่วยเร่งการตัดสินใจของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อที่อยู่อาศัยระหว่างสถาบันการเงิน จะช่วยสร้างอำนาจการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
“ถึงแม้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ คือ ด้านการท่องเที่ยวมีแนวโน้มการชะลอตัวอย่างมากในปีนี้ และแนวโน้มการฟื้นตัวจะช้าตามภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงปัญหาความไม่สงบทางการเมืองของประเทศไทยเองด้วย”