ASTVผู้จัดการรายวัน- ครม.มีมติใช้ กม.ความมั่นคง คุมม็อบเสื้อแดง ช่วง 29 ส.ค.-1 ก.ย. ในพื้นที่เขตดุสิต หวั่นมือที่ 3 ฉวยโอกาสป่วน สร้างเงื่อนไขล้มรัฐบาล ตั้ง"เทพเทือก" อำนวยการ สนธิกำลังทหาร-ตำรวจ คุมสถานการณ์ ลั่นห้ามปิดล้อมทำเนียบฯ และสถานที่ราชการสำคัญ
นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมครม.เมื่อวานนี้(25 ส.ค.) ว่า ครม.ได้อนุมัติให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 เพื่อควบคุมพื้นที่เขตดุสิต กทม. ในวันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย. โดยมอบให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ดำเนินการ พร้อมทั้งได้แต่งตั้งให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็น ผอ.ศูนย์อำนวยการสถานการณ์ โดยในวันศุกร์ที่ 28 ส.ค.นี้ กอ.รมน.จะมีการประชุม เพื่อออกข้อกำหนดตาม มาตรา18 ของ พ.ร.บ. ความมั่นคง ว่าจะมีการตรวจค้นอาวุธ หรือกำหนดเส้นทางคมนาคมในจุดใดบ้าง ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.ระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษ พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ร.บ.การควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ร.บ.การป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาและการใช้เครื่องขยายเสียง พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิ และสมาคม ประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
"การใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงจะรวบเอาอำนาจของกฎหมายต่างๆ เข้ามาเพื่อให้เกิดการบริหารจัดการให้พื้นที่เขตดุสิต เมื่อมีการกำหนด ผอ.ก็จะกำหนดเจ้าหน้าที่สำนักงานเพื่อปฎิบัติตามกฎหมายดังกล่าว และจะออกข้อกำหนดเรื่องการควบคุมการคมนาคม บางพื้นที่ ควบคุมการเข้าออก การใช้อาวุธ หรือ การใช้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ หรือควบคุมการใช้อาคารสถานที่ต่างๆ ทั้งนี้ ในวันศุกร์ที่ 28 ส.ค. จะมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า จะใช้มาตรการที่อ่อนที่สุดเพื่อให้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้น้อยที่สุด"โฆษกรัฐบาลกล่าว
นายปณิธาน ยืนยันว่า การประกาศใช้พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย เมื่อรัฐบาลได้รับข่าวว่าจะมีสถานการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคง ก็จะต้องดำเนินการป้องกัน ดังนั้นหากเรารู้ข่าว แต่ไม่ทำอะไรเลย ก็อาจจะผิดกฎหมาย ทั้งนี้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ได้ออกแบบมาให้ดูแลสิทธิผู้ชุมนุม หากเจ้าหน้าที่ทำผิด ก็สามารถฟ้องร้องได้ ขณะที่รัฐบาลเองก็ต้องกลับมารายงานผลการใช้ พ.ร.บ.ต่อครม. และสภาทั้ง 2 แห่งรับทราบต่อไป
** "มาร์ค"ระบุมือที่3จ้องป่วน
นายปณิธาน เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.มีรัฐมนตรีหลายคนได้แสดงความคิดเห็น และสอบถามนายกฯ ถึงการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งนายกฯได้ชี้แจงว่า ได้รับข้อมูลทางด้านการข่าวว่า ผู้ที่มาชุมนุมส่วนใหญ่ มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ในคนหมู่มากมีบางกลุ่มต้องการเคลื่อนไหวมีแนวโน้มนำไปสู่ความรุนแรง ท่านายกฯใช้คำว่า เป็นกลุ่มคนมือที่สาม ที่ต้องการให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ ซึ่งตรงนี้รัฐบาลจะต้องไม่ประมาท จึงต้องมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง
ส่วนที่นายกฯตั้งนายสุเทพ เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน โดยที่ไมได้แต่งตั้งฝ่ายทหารนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน อย่างการประชุม รมต.อาเซียน ที่จ.ภูเก็ต แต่งตั้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นผอ.ศูนย์ฯ เพื่อความสะดวกในการโยกย้ายกำลังพลลงไปในพื้นที่ หรือเมื่อครั้งที่แต่งตั้งพล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. ก็เป็นไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากสถานการณ์รุนแรงกว่า
"แต่ครั้งนี้มีประเด็นทางการเมืองเยอะ และไม่ได้ส่งกำลังลงพื้นที่ ไม่ได้มีการเคลื่อนกำลังลงไปไหน จึงเห็นว่า ควรแต่งตั้งรองนายกฯสุเทพ ทำหน้าที่ และสาเหตุที่นายกฯ ต้องประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพราะต้องการให้การทำหน่วยงานราชการ และทำเนียบฯ เดินหน้าปกติ เพราะไม่ต้องการให้ปิดล้อมทำเนียบจนเกิดความเดือดร้อนกับประชาชน" นายปณิธาน กล่าว
**มาร์คหวั่นเหตุบานปลายฉุดศก.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ได้มีการพิจารณาการเตรียมรับมือสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค.นี้ แม้แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมจะยืนยันว่า เป็นการชุมนุมที่จะไม่เกิดความวุ่นวายเหมือนเมื่อเดืนเม.ย.ที่ผ่านมา แต่มีรายงานด้านการข่าวที่ทำให้ไม่อาจวางใจได้ เพราะอาจจะมีมือที่ 3 หรือ อุบัติเหตุการเมืองต่างๆ เกิดขึ้น ฉะนั้นเราไม่ต้องการให้มีเหตุการณ์ลุกลามบานปลายออกไป แล้วมาแก้ไขเหมือนเมื่อเดือนเม.ย. เหตุผลสำคัญที่สุดคือ การประเมินสภาวะเศรษฐกิจเดือนนี้ ทางสภาพัฒน์ ก็พูดชัดเจนว่า ถ้าการเมืองไม่สดุด การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในขณะนี้เดินหน้าได้แน่นอน เพราะว่าปัจจัยทั้งภายในและภายนอกที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจเอื้อต่อการฟื้นตัว แต่ถ้ามีเหตุการณ์ความวุ่นวายในทางการเมืองหรืออื่นๆในไทย จะเป็นตัวที่สร้างปัญหาต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นรัฐบาลจึงได้ตัดสินใจว่า จะใช้กฎหมายความมั่นคงเข้ามาดำเนินการ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น
**ลั่นห้ามปิดล้อมทำเนียบฯ
ทั้งนี้ กฎหมายความมั่นคง เป็นคนละเรื่องกับพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะในส่วนของพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นกฎหมายที่เกิดเหตุร้ายแรงแล้วใช้อำนาจพิเศษ แต่พ.ร.บ.ความมั่นคง แม้สถานการณ์ยังไม่เกิด เพียงแต่ว่า มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นได้ รัฐบาลก็สามารถประกาศพื้นที่ และห้วงเวลาได้
"รัฐบาลก็ประกาศเขตดุสิต เป็นเขตพื้นที่ความมั่นคง ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.จนถึง 1 ก.ย. ก็จะเป็นห้วงเวลาที่เราสามารถบริหารจัดการให้เรียบร้อยในพื้นที่เขตดุสิต นั่นก็คือเราป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในเรื่องของทำเนียบฯ และหน่วยงานราชการ อาจจะเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ผู้อำนวยการที่จะมาดูแลในเรื่องของการบูรณาการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ตามกฎหมายความมั่นคงในรอบนี้ก็คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ส่วนอำนาจที่จะใช้ตามกฎหมายความมั่นคง ก็จะดูตามสถานการณ์ ซึ่งรองนายกฯ สุเทพ จะดูอีกครั้งหนึ่ง" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ากฎหมายนี้เคยใช้มาแล้วที่ จ.ภูเก็ตในช่วงที่มีการจัดการประชุมรมต.ต่างประเทศอาเซียน หากดูโดยรวมแล้วไม่ได้กระทบสิทธิ และเสรีภาพ แต่ในแง่มาตรการป้องกัน ควบคุม ตรวจตราอาวุธ อาจจะมีความเข้มข้นมากขึ้นบ้าง อาจมีความไม่สะดวกบ้าง แต่ก็ขอความเข้าใจจากประชาชนพื้นที่เขตดุสิตว่า มีความจำเป็นรักษาบรรยากาศของบ้านเมือง และไม่ให้กระทบจากเหตุการณ์ที่เราไม่ปรารถนา ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบที่เกิดขึ้นในแง่ของเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นก็ย้ำว่า รัฐบาลเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่ก็มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย แต่ก็ขอความร่วมมือทุกฝ่ายที่จะช่วยกันดูแลไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย เพื่อที่จะให้บรรยากาศของบ้านเมืองเอื้อต่อการที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่อไป
"จะมีการบูรณาการกันหมด ทั้งทหาร และตำรวจ อยู่ที่ศูนย์อำนวยการจะเป็นผู้กำหนดในการมอบหมายหน้าที่อีกที และไม่มีการห้ามชุมนุม เป็นเพียงการเคลื่อนไหว การใช้เส้นทางก็จะมาดูกัน สามารถชุมนุมโดยสงบที่สนามหลวงได้ และในแง่การดูแลพื้นที่ เนื่องจากศาลมีคำพิพากษาอยู่แล้วว่า การชุมนุมต้องไม่เป็นปัญหาอุปสรรคที่ไม่ว่า จะเป็นข้าราชการการเมือง หรือข้าราชการประจำ เข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลได้ เราก็เพียงแต่ดูแลว่าให้เป็นไปตามเงื่อนไขนี้" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วกลุ่มคนเสื้อแดงสามารถเคลื่อนขบวนมาปิดทำเนียบฯได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นอีก เพราะจะมีผลกระทบ และมีความสุ่มเสี่ยงต่อการลุกลามของเหตุการณ์ การใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง จะเข้มข้นก็ต่อเมื่อการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงมีความเข้มข้นขึ้น ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี ก็ไม่ต้องใช้อำนาจอะไร ซึ่งการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง ก็เพื่อต้องการให้เคารพ และเป็นไปตามแนวทางของศาล ว่าทุกคนต้องเข้ามาทำงานได้
**ไม่สนสีเสื้อ ใครทำผิดจับ
เมื่อถามว่า จะแยกแยะประชาชนที่ใส่เสื้อประจำวันที่ใส่เสื้อสีแดง และคนกลุ่มเสื้อแดง อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราไม่ต้องแยก และไม่ต้องดูสีเสื้อ เพราะใครมาแล้วไม่ทำผิดกฎหมาย ก็มาได้ ใครมาทำผิดกฎหมาย ใส่เสื้อสีอะไรก็ต้องดำเนินการอยู่แล้ว ฉะนั้นมันไมได้มีความสำคัญอะไร และตนไม่ได้สนใจว่า ใส่เสื้อสีอะไร เป็นสมาชิกทางการหรือไม่เป็นทางการหรือไม่ หน้าที่รัฐบาลคือ ดูแลไม่ให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะโดยใคร
เมื่อถามว่า แนวโน้มจะมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แนวปฏิบัติของเราชัดอยู่แล้วว่า ไม่ต้องการให้มีการปะทะกัน ฉะนั้นจะใช้มาตรการในลักษณะป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่จะเป็นเงื่อนไขในการปะทะกัน
**จวก"แม้ว"หยุดบั่นทอนประเทศ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มคนเสื้อแดงยุติการเคลื่อนไหวเพื่อเห็นแก่ประเทศชาติ เพราะแผนทั้งหมดของคนเสื้อแดงดำเนินการไปตามแผนตากสิน 1 และ 2 แม้ว่าใครจะไม่เชื่อ แต่แนวทางทั้งหมดสอดคล้องกับแผนตากสิน รัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่จะต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อเป็นการป้องกันหรือป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง
"ถ้าไปดูบทวิเคราะห์ของสื่อต่างชาติ โดยเฉพาะรอยเตอร์ ก็พูดชัดเจนว่า การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นตัวบั่นทอนทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พยายามใช้การโฟนอินทุกวิถีทาง ทั้งงานเลี้ยง เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ก็โฟนอินไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ พรุ่งนี้คงเป็นร้านข้าวแกง ร้านโชว์ห่วย เป็นการโฟนอินที่เลอะเทอะไร้สาระ เป็นเพียงการสร้างกระแสข่าวให้คนเสื้อแดง" นายเทพไทกล่าว และว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ยุติ ไม่เพียงแต่รัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่จะไม่ยอม แต่คนไทยทั้งประเทศก็จะไม่ยอม
**แฉ"แม้ว"ต้องการเห็นเลือดอีก
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาล มีหน้าที่ต้องชี้แจง และทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งในวันที่ 26 ส.ค. ตนจะประชุมร่วมกับเครือข่ายสื่อภาครัฐ ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยจะมีการคุยกับสมาคมเคเบิลทีวี ดาวเทียม รวมถึงวิทยุชุมชน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ยืนยันว่ารัฐบาลกังวลในเรื่องของการชุมนุม นายกรัฐมนตรี ได้หยิบยกเรื่องความมั่นคงมาหารือ เพราะเกรงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยากจะเห็นเหตุการณ์ความวุ่นวาย เหมือนกับเดือนเม.ย. แต่รัฐบาลจึงไม่อยากให้มีภาพเช่นนั้นเกิดขึ้นอีก เพราะจะส่งผลกระทบต่อการบริหารประเทศ
**คาดม็อบเสื้อแดงไม่เกิน 2,000 คน
วานนี้ (25 ส.ค.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เรียกประชุมนายตำรวจระดับ รองผบช.น. ที่รับผิดชอบงานความมั่นคง งานด้านการจราจร งานกิจการพิเศษดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยพื้นที่ กทม. สถานที่ราชการ บ้านพักบุคคลสำคัญ พร้อมด้วยผู้บังคับการตำรวจนครบาล ( ผบก.น.1 – 9) ผู้บังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (ผบก. ตปพ.) ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก. จร.) และ ผู้บังคับการอำนวยการ ( ผบก. อก.) ในฐานะผู้ควบคุมกำลังพล วางแนวทางปฏิบัติซักซ้อมทำความเข้าใจแผนปฏิบัติดูแล ความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยการชุมนุมของกลุม นปช. ที่นัดรวมพล แต่งดำในวันนี้ ( 26 ส.ค.) และการชุมนุมเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลในวันที่ 30 ส.ค. เพื่อประเมินสถานการณ์ผู้เข้าร่วมชุมนุม วางกำลังตำรวจดูแลพื้นที่ต่างๆ ซักซ้อมทำความเข้าใจแผนปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า จากการประชุมสรุปสถานการณ์ ทางการข่าวรายงานว่ากลุ่มเสื้อแดง น่าจะมีจำนวนไม่มาก สูงสุดไม่เกิน 2,000 คน โดยจะนัดรวมตัวกันที่สนามหลวงก่อนในช่วงกลางวัน และจะมีการนัดเคลื่อนขบวนมาที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ในเวลา 23.00 น.
อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ตำรวจนครบาล จัดเตรียมกำลังเพื่อรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสิ้น 4 กองร้อย ให้ประจำที่หอประชุมกองทัพบก 2 กองร้อย โดยรอบสนามหลวง 1 กองร้อย และกองร้อยสนับสนุนประจำที่ตั้งใน บช.น.อีก 1 กองร้อย ส่วนการปิดถนน หากมีการเคลื่อนขบวนนั้นคงไม่มีการดำเนินการ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จะใช้กำลังประจำจุด เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยแทน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง น่าจะชุมนุมไม่ยืดเยื้อ และอยู่ไม่เกินวันที่ 28 ส.ค.
ส่วนกรณีที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในพื้นที่เขตดุสิต ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.- 1 ก.ย. เพื่อป้องกันเหตุผู้ชุมนุมเสื้อแดง ที่จะรวมตัวขับไล่รัฐบาลในวันที่ 30 ส.ค.นั้น ต้องรอการสั่งการจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ (กอ.รมน.) ก่อนเพราะตำรวจเป็นเพียงกองกำลังสนับสนุน ต้องรอคำสั่ง และการประเมินสถานการณ์ว่าใช้กำลังเท่าไร และที่ใดบ้าง
**งัดแผนกรกฎ 48 คุมม็อบแดง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การดูแลความสงบเรียบร้อยกลุ่มผู้ชุมนุมครั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลยังคง ใช้แผนปฏิบัติเดิมคือ "กรกฎ 48 " จัดกำลังตำรวจนครบาล 1 ตำรวจนครบาล 1-9 ตำรวจปราบจลาจลทั้งชาย หญิง ตำรวจ 191 พร้อมขอกำลังสนับสนุน ณ ที่ตั้งดูแลโดยรอบสถานที่ทีมีการชุมนุม รวมถึงดูแลความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ใช้กำลังรวมกว่า 1,000 นาย ดูแลทั้งด้านนอกด้านในอย่างเข้มงวดพร้อมตรึงกำลังตำรวจบางส่วนประจำจุดรอบเส้นทางที่มีการ เคลื่อนไหวไปทำเนียบรัฐบาล และพื้นที่เป้าหมาย ตั้งจุดตรวจค้นคุมเข้มผู้เข้าร่วมชุมนุมไม่ให้มีการพกพาอาวุธและทำ ผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ยังมอบหมายให้นายตำรวจระดับ รอง ผบช.น. ควบคุมสั่งการปฏิบัติดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามแผน ปฏิบัติอย่างใกล้ชิด และให้ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทำหน้าที่ควบคุมสั่งการกำลังตำรวจปราบจลาจล ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามจากการประเมินสถานการณ์ ในที่ประชุมเชื่อมั่นว่า จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อาจยืดเยื้อต่อเนื่องหลายวัน ซึ่งการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จะทำอย่างละมุนละม่อม เน้นการเจรจาต่อรองเป็นหลัก และให้จับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือที่ 3 ที่อาจสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้น
**"ไอ้ตู่"เย้ยขี้ขลาดใช้กม.ความมั่นคง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่ ครม.มีมติประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง รับมือการชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค.ว่า ขอยืนยันว่า การชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค. จะเป็นไปโดยสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ แต่รัฐบาลชุดนี้บ้าอำนาจ และ ขี้ขลาดตาขาว เข้าใจผิดคิดว่า พ.ร.บ.นี้จะทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เหมือนครั้งประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วการประชุมครั้งนั้นที่ราบรื่นก็เพราะ กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้ไป ถ้านายกรัฐมนตรี ยังแก้ปัญหาประเทศด้วยวิธีเด็กๆแบบนี้ ต่อไปก็คงต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงทุกวัน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการปรากาศใช้พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่สร้างความหวั่นเกรงให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง และยืนยันที่จะชุมนุมตามกำหนดการเดิม โดยแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จะประชุมกันในเวลา 10.00 น. วันนี้ (26ส.ค.) และจะแถลงข่าวในเวลา 13.00 น.
นายจตุพร กล่าวอีกว่า กลุ่มคนเสื้อแดง จะเคลื่อนไหวไปตามแผน เมื่อเรียบร้อยทุกอย่างก็จบ แต่ถ้าหากมีเหตุการณ์แบบหมาลอบกัด สร้างสถานการณ์ ใช้ทหารมาใส่เสื้อแดง ใช้ตำรวจมาใส่เสื้อน้ำเงิน รวมทั้งทำร้ายกลุ่มคนเสื้อแดง ก็จะเป็นเงื่อนไขให้ต้องมีการชุมนุมยืดเยื้อแน่
**เหน็บมาร์คโมโหพรรคร่วมแล้วพาล
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ครม.มีมติใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเป็นเรื่องน่าแปลก เพราะรัฐบาลที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำพูดมาตลอดว่า ยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย ยึดมั่นระบบรัฐสภา แต่กลับไม่อนุญาตให้มีการชุมนุม ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญมาตรา 63 ระบุชัดเจนว่าสามารถชุมนุมได้โดยปราศจากอาวุธ และไม่สร้างความวุ่นวาย
การประกาศใช้พ.ร.บ.ดังกล่าว ถือว่ามีศักดิ์ศรีเล็กกว่ารัฐธรรมนูญ และถือเป็นการขัดรัฐธรรมนูญจึงไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย เมื่อเป็นแบบนี้ก็งานเข้าแน่ พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดแน่นอน รัฐบาลชุดนี้ทำตัวเจ้าอารมณ์ ใครจะชุมนุมหรือทำอะไรไม่ได้เลย แต่เมื่อก่อนอีกกลุ่มหนึ่งมาชุมนุมก็ไปกับเขาทั้งพรรค เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล ที่เกิดอาการพาล อารมณ์เสีย ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงออกมาก็เพื่อความสะใจ แต่จะเกิดผลเสียแก่ประเทศ เพราะทำให้ต่างชาติไม่มาเที่ยว ไม่มาลงทุน อีกทั้งเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนด้วย
" พ.ร.บ.ความมั่นคงเขาจะประกาศใช้เมื่อมีเหตุ แต่นี่ประกาศกันไปก่อน ตกใจเกินเหตุ เหมือนยังไม่ทันนอน แต่คุยแล้วว่าคืนนี้จะฝันอะไร ถ้ากลัวนักก็ประกาศใช้ พ.ร.บ.นี้ตลอดไป จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ไปเลย ขอแนะนำนายอภิสิทธิ์ว่า ถ้ากลัวมาก ก็ลาออกไปเลยดีกว่า" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมครม.เมื่อวานนี้(25 ส.ค.) ว่า ครม.ได้อนุมัติให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 เพื่อควบคุมพื้นที่เขตดุสิต กทม. ในวันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย. โดยมอบให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ดำเนินการ พร้อมทั้งได้แต่งตั้งให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็น ผอ.ศูนย์อำนวยการสถานการณ์ โดยในวันศุกร์ที่ 28 ส.ค.นี้ กอ.รมน.จะมีการประชุม เพื่อออกข้อกำหนดตาม มาตรา18 ของ พ.ร.บ. ความมั่นคง ว่าจะมีการตรวจค้นอาวุธ หรือกำหนดเส้นทางคมนาคมในจุดใดบ้าง ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.ระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษ พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ร.บ.การควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ร.บ.การป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาและการใช้เครื่องขยายเสียง พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิ และสมาคม ประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
"การใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงจะรวบเอาอำนาจของกฎหมายต่างๆ เข้ามาเพื่อให้เกิดการบริหารจัดการให้พื้นที่เขตดุสิต เมื่อมีการกำหนด ผอ.ก็จะกำหนดเจ้าหน้าที่สำนักงานเพื่อปฎิบัติตามกฎหมายดังกล่าว และจะออกข้อกำหนดเรื่องการควบคุมการคมนาคม บางพื้นที่ ควบคุมการเข้าออก การใช้อาวุธ หรือ การใช้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ หรือควบคุมการใช้อาคารสถานที่ต่างๆ ทั้งนี้ ในวันศุกร์ที่ 28 ส.ค. จะมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า จะใช้มาตรการที่อ่อนที่สุดเพื่อให้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้น้อยที่สุด"โฆษกรัฐบาลกล่าว
นายปณิธาน ยืนยันว่า การประกาศใช้พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย เมื่อรัฐบาลได้รับข่าวว่าจะมีสถานการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคง ก็จะต้องดำเนินการป้องกัน ดังนั้นหากเรารู้ข่าว แต่ไม่ทำอะไรเลย ก็อาจจะผิดกฎหมาย ทั้งนี้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ได้ออกแบบมาให้ดูแลสิทธิผู้ชุมนุม หากเจ้าหน้าที่ทำผิด ก็สามารถฟ้องร้องได้ ขณะที่รัฐบาลเองก็ต้องกลับมารายงานผลการใช้ พ.ร.บ.ต่อครม. และสภาทั้ง 2 แห่งรับทราบต่อไป
** "มาร์ค"ระบุมือที่3จ้องป่วน
นายปณิธาน เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.มีรัฐมนตรีหลายคนได้แสดงความคิดเห็น และสอบถามนายกฯ ถึงการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งนายกฯได้ชี้แจงว่า ได้รับข้อมูลทางด้านการข่าวว่า ผู้ที่มาชุมนุมส่วนใหญ่ มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ในคนหมู่มากมีบางกลุ่มต้องการเคลื่อนไหวมีแนวโน้มนำไปสู่ความรุนแรง ท่านายกฯใช้คำว่า เป็นกลุ่มคนมือที่สาม ที่ต้องการให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ ซึ่งตรงนี้รัฐบาลจะต้องไม่ประมาท จึงต้องมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง
ส่วนที่นายกฯตั้งนายสุเทพ เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน โดยที่ไมได้แต่งตั้งฝ่ายทหารนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน อย่างการประชุม รมต.อาเซียน ที่จ.ภูเก็ต แต่งตั้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นผอ.ศูนย์ฯ เพื่อความสะดวกในการโยกย้ายกำลังพลลงไปในพื้นที่ หรือเมื่อครั้งที่แต่งตั้งพล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. ก็เป็นไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากสถานการณ์รุนแรงกว่า
"แต่ครั้งนี้มีประเด็นทางการเมืองเยอะ และไม่ได้ส่งกำลังลงพื้นที่ ไม่ได้มีการเคลื่อนกำลังลงไปไหน จึงเห็นว่า ควรแต่งตั้งรองนายกฯสุเทพ ทำหน้าที่ และสาเหตุที่นายกฯ ต้องประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพราะต้องการให้การทำหน่วยงานราชการ และทำเนียบฯ เดินหน้าปกติ เพราะไม่ต้องการให้ปิดล้อมทำเนียบจนเกิดความเดือดร้อนกับประชาชน" นายปณิธาน กล่าว
**มาร์คหวั่นเหตุบานปลายฉุดศก.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ได้มีการพิจารณาการเตรียมรับมือสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค.นี้ แม้แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมจะยืนยันว่า เป็นการชุมนุมที่จะไม่เกิดความวุ่นวายเหมือนเมื่อเดืนเม.ย.ที่ผ่านมา แต่มีรายงานด้านการข่าวที่ทำให้ไม่อาจวางใจได้ เพราะอาจจะมีมือที่ 3 หรือ อุบัติเหตุการเมืองต่างๆ เกิดขึ้น ฉะนั้นเราไม่ต้องการให้มีเหตุการณ์ลุกลามบานปลายออกไป แล้วมาแก้ไขเหมือนเมื่อเดือนเม.ย. เหตุผลสำคัญที่สุดคือ การประเมินสภาวะเศรษฐกิจเดือนนี้ ทางสภาพัฒน์ ก็พูดชัดเจนว่า ถ้าการเมืองไม่สดุด การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในขณะนี้เดินหน้าได้แน่นอน เพราะว่าปัจจัยทั้งภายในและภายนอกที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจเอื้อต่อการฟื้นตัว แต่ถ้ามีเหตุการณ์ความวุ่นวายในทางการเมืองหรืออื่นๆในไทย จะเป็นตัวที่สร้างปัญหาต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นรัฐบาลจึงได้ตัดสินใจว่า จะใช้กฎหมายความมั่นคงเข้ามาดำเนินการ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น
**ลั่นห้ามปิดล้อมทำเนียบฯ
ทั้งนี้ กฎหมายความมั่นคง เป็นคนละเรื่องกับพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะในส่วนของพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นกฎหมายที่เกิดเหตุร้ายแรงแล้วใช้อำนาจพิเศษ แต่พ.ร.บ.ความมั่นคง แม้สถานการณ์ยังไม่เกิด เพียงแต่ว่า มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นได้ รัฐบาลก็สามารถประกาศพื้นที่ และห้วงเวลาได้
"รัฐบาลก็ประกาศเขตดุสิต เป็นเขตพื้นที่ความมั่นคง ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.จนถึง 1 ก.ย. ก็จะเป็นห้วงเวลาที่เราสามารถบริหารจัดการให้เรียบร้อยในพื้นที่เขตดุสิต นั่นก็คือเราป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในเรื่องของทำเนียบฯ และหน่วยงานราชการ อาจจะเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ผู้อำนวยการที่จะมาดูแลในเรื่องของการบูรณาการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ตามกฎหมายความมั่นคงในรอบนี้ก็คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ส่วนอำนาจที่จะใช้ตามกฎหมายความมั่นคง ก็จะดูตามสถานการณ์ ซึ่งรองนายกฯ สุเทพ จะดูอีกครั้งหนึ่ง" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ากฎหมายนี้เคยใช้มาแล้วที่ จ.ภูเก็ตในช่วงที่มีการจัดการประชุมรมต.ต่างประเทศอาเซียน หากดูโดยรวมแล้วไม่ได้กระทบสิทธิ และเสรีภาพ แต่ในแง่มาตรการป้องกัน ควบคุม ตรวจตราอาวุธ อาจจะมีความเข้มข้นมากขึ้นบ้าง อาจมีความไม่สะดวกบ้าง แต่ก็ขอความเข้าใจจากประชาชนพื้นที่เขตดุสิตว่า มีความจำเป็นรักษาบรรยากาศของบ้านเมือง และไม่ให้กระทบจากเหตุการณ์ที่เราไม่ปรารถนา ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบที่เกิดขึ้นในแง่ของเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นก็ย้ำว่า รัฐบาลเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่ก็มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย แต่ก็ขอความร่วมมือทุกฝ่ายที่จะช่วยกันดูแลไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย เพื่อที่จะให้บรรยากาศของบ้านเมืองเอื้อต่อการที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่อไป
"จะมีการบูรณาการกันหมด ทั้งทหาร และตำรวจ อยู่ที่ศูนย์อำนวยการจะเป็นผู้กำหนดในการมอบหมายหน้าที่อีกที และไม่มีการห้ามชุมนุม เป็นเพียงการเคลื่อนไหว การใช้เส้นทางก็จะมาดูกัน สามารถชุมนุมโดยสงบที่สนามหลวงได้ และในแง่การดูแลพื้นที่ เนื่องจากศาลมีคำพิพากษาอยู่แล้วว่า การชุมนุมต้องไม่เป็นปัญหาอุปสรรคที่ไม่ว่า จะเป็นข้าราชการการเมือง หรือข้าราชการประจำ เข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลได้ เราก็เพียงแต่ดูแลว่าให้เป็นไปตามเงื่อนไขนี้" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วกลุ่มคนเสื้อแดงสามารถเคลื่อนขบวนมาปิดทำเนียบฯได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นอีก เพราะจะมีผลกระทบ และมีความสุ่มเสี่ยงต่อการลุกลามของเหตุการณ์ การใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง จะเข้มข้นก็ต่อเมื่อการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงมีความเข้มข้นขึ้น ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี ก็ไม่ต้องใช้อำนาจอะไร ซึ่งการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง ก็เพื่อต้องการให้เคารพ และเป็นไปตามแนวทางของศาล ว่าทุกคนต้องเข้ามาทำงานได้
**ไม่สนสีเสื้อ ใครทำผิดจับ
เมื่อถามว่า จะแยกแยะประชาชนที่ใส่เสื้อประจำวันที่ใส่เสื้อสีแดง และคนกลุ่มเสื้อแดง อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราไม่ต้องแยก และไม่ต้องดูสีเสื้อ เพราะใครมาแล้วไม่ทำผิดกฎหมาย ก็มาได้ ใครมาทำผิดกฎหมาย ใส่เสื้อสีอะไรก็ต้องดำเนินการอยู่แล้ว ฉะนั้นมันไมได้มีความสำคัญอะไร และตนไม่ได้สนใจว่า ใส่เสื้อสีอะไร เป็นสมาชิกทางการหรือไม่เป็นทางการหรือไม่ หน้าที่รัฐบาลคือ ดูแลไม่ให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะโดยใคร
เมื่อถามว่า แนวโน้มจะมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แนวปฏิบัติของเราชัดอยู่แล้วว่า ไม่ต้องการให้มีการปะทะกัน ฉะนั้นจะใช้มาตรการในลักษณะป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่จะเป็นเงื่อนไขในการปะทะกัน
**จวก"แม้ว"หยุดบั่นทอนประเทศ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มคนเสื้อแดงยุติการเคลื่อนไหวเพื่อเห็นแก่ประเทศชาติ เพราะแผนทั้งหมดของคนเสื้อแดงดำเนินการไปตามแผนตากสิน 1 และ 2 แม้ว่าใครจะไม่เชื่อ แต่แนวทางทั้งหมดสอดคล้องกับแผนตากสิน รัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่จะต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อเป็นการป้องกันหรือป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง
"ถ้าไปดูบทวิเคราะห์ของสื่อต่างชาติ โดยเฉพาะรอยเตอร์ ก็พูดชัดเจนว่า การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นตัวบั่นทอนทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พยายามใช้การโฟนอินทุกวิถีทาง ทั้งงานเลี้ยง เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ก็โฟนอินไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ พรุ่งนี้คงเป็นร้านข้าวแกง ร้านโชว์ห่วย เป็นการโฟนอินที่เลอะเทอะไร้สาระ เป็นเพียงการสร้างกระแสข่าวให้คนเสื้อแดง" นายเทพไทกล่าว และว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ยุติ ไม่เพียงแต่รัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่จะไม่ยอม แต่คนไทยทั้งประเทศก็จะไม่ยอม
**แฉ"แม้ว"ต้องการเห็นเลือดอีก
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาล มีหน้าที่ต้องชี้แจง และทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งในวันที่ 26 ส.ค. ตนจะประชุมร่วมกับเครือข่ายสื่อภาครัฐ ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยจะมีการคุยกับสมาคมเคเบิลทีวี ดาวเทียม รวมถึงวิทยุชุมชน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ยืนยันว่ารัฐบาลกังวลในเรื่องของการชุมนุม นายกรัฐมนตรี ได้หยิบยกเรื่องความมั่นคงมาหารือ เพราะเกรงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยากจะเห็นเหตุการณ์ความวุ่นวาย เหมือนกับเดือนเม.ย. แต่รัฐบาลจึงไม่อยากให้มีภาพเช่นนั้นเกิดขึ้นอีก เพราะจะส่งผลกระทบต่อการบริหารประเทศ
**คาดม็อบเสื้อแดงไม่เกิน 2,000 คน
วานนี้ (25 ส.ค.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เรียกประชุมนายตำรวจระดับ รองผบช.น. ที่รับผิดชอบงานความมั่นคง งานด้านการจราจร งานกิจการพิเศษดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยพื้นที่ กทม. สถานที่ราชการ บ้านพักบุคคลสำคัญ พร้อมด้วยผู้บังคับการตำรวจนครบาล ( ผบก.น.1 – 9) ผู้บังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (ผบก. ตปพ.) ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก. จร.) และ ผู้บังคับการอำนวยการ ( ผบก. อก.) ในฐานะผู้ควบคุมกำลังพล วางแนวทางปฏิบัติซักซ้อมทำความเข้าใจแผนปฏิบัติดูแล ความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยการชุมนุมของกลุม นปช. ที่นัดรวมพล แต่งดำในวันนี้ ( 26 ส.ค.) และการชุมนุมเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลในวันที่ 30 ส.ค. เพื่อประเมินสถานการณ์ผู้เข้าร่วมชุมนุม วางกำลังตำรวจดูแลพื้นที่ต่างๆ ซักซ้อมทำความเข้าใจแผนปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า จากการประชุมสรุปสถานการณ์ ทางการข่าวรายงานว่ากลุ่มเสื้อแดง น่าจะมีจำนวนไม่มาก สูงสุดไม่เกิน 2,000 คน โดยจะนัดรวมตัวกันที่สนามหลวงก่อนในช่วงกลางวัน และจะมีการนัดเคลื่อนขบวนมาที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ในเวลา 23.00 น.
อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ตำรวจนครบาล จัดเตรียมกำลังเพื่อรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสิ้น 4 กองร้อย ให้ประจำที่หอประชุมกองทัพบก 2 กองร้อย โดยรอบสนามหลวง 1 กองร้อย และกองร้อยสนับสนุนประจำที่ตั้งใน บช.น.อีก 1 กองร้อย ส่วนการปิดถนน หากมีการเคลื่อนขบวนนั้นคงไม่มีการดำเนินการ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จะใช้กำลังประจำจุด เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยแทน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง น่าจะชุมนุมไม่ยืดเยื้อ และอยู่ไม่เกินวันที่ 28 ส.ค.
ส่วนกรณีที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในพื้นที่เขตดุสิต ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.- 1 ก.ย. เพื่อป้องกันเหตุผู้ชุมนุมเสื้อแดง ที่จะรวมตัวขับไล่รัฐบาลในวันที่ 30 ส.ค.นั้น ต้องรอการสั่งการจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ (กอ.รมน.) ก่อนเพราะตำรวจเป็นเพียงกองกำลังสนับสนุน ต้องรอคำสั่ง และการประเมินสถานการณ์ว่าใช้กำลังเท่าไร และที่ใดบ้าง
**งัดแผนกรกฎ 48 คุมม็อบแดง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การดูแลความสงบเรียบร้อยกลุ่มผู้ชุมนุมครั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลยังคง ใช้แผนปฏิบัติเดิมคือ "กรกฎ 48 " จัดกำลังตำรวจนครบาล 1 ตำรวจนครบาล 1-9 ตำรวจปราบจลาจลทั้งชาย หญิง ตำรวจ 191 พร้อมขอกำลังสนับสนุน ณ ที่ตั้งดูแลโดยรอบสถานที่ทีมีการชุมนุม รวมถึงดูแลความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ใช้กำลังรวมกว่า 1,000 นาย ดูแลทั้งด้านนอกด้านในอย่างเข้มงวดพร้อมตรึงกำลังตำรวจบางส่วนประจำจุดรอบเส้นทางที่มีการ เคลื่อนไหวไปทำเนียบรัฐบาล และพื้นที่เป้าหมาย ตั้งจุดตรวจค้นคุมเข้มผู้เข้าร่วมชุมนุมไม่ให้มีการพกพาอาวุธและทำ ผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ยังมอบหมายให้นายตำรวจระดับ รอง ผบช.น. ควบคุมสั่งการปฏิบัติดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามแผน ปฏิบัติอย่างใกล้ชิด และให้ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทำหน้าที่ควบคุมสั่งการกำลังตำรวจปราบจลาจล ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามจากการประเมินสถานการณ์ ในที่ประชุมเชื่อมั่นว่า จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อาจยืดเยื้อต่อเนื่องหลายวัน ซึ่งการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จะทำอย่างละมุนละม่อม เน้นการเจรจาต่อรองเป็นหลัก และให้จับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือที่ 3 ที่อาจสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้น
**"ไอ้ตู่"เย้ยขี้ขลาดใช้กม.ความมั่นคง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่ ครม.มีมติประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง รับมือการชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค.ว่า ขอยืนยันว่า การชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค. จะเป็นไปโดยสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ แต่รัฐบาลชุดนี้บ้าอำนาจ และ ขี้ขลาดตาขาว เข้าใจผิดคิดว่า พ.ร.บ.นี้จะทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เหมือนครั้งประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วการประชุมครั้งนั้นที่ราบรื่นก็เพราะ กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้ไป ถ้านายกรัฐมนตรี ยังแก้ปัญหาประเทศด้วยวิธีเด็กๆแบบนี้ ต่อไปก็คงต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงทุกวัน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการปรากาศใช้พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่สร้างความหวั่นเกรงให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง และยืนยันที่จะชุมนุมตามกำหนดการเดิม โดยแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จะประชุมกันในเวลา 10.00 น. วันนี้ (26ส.ค.) และจะแถลงข่าวในเวลา 13.00 น.
นายจตุพร กล่าวอีกว่า กลุ่มคนเสื้อแดง จะเคลื่อนไหวไปตามแผน เมื่อเรียบร้อยทุกอย่างก็จบ แต่ถ้าหากมีเหตุการณ์แบบหมาลอบกัด สร้างสถานการณ์ ใช้ทหารมาใส่เสื้อแดง ใช้ตำรวจมาใส่เสื้อน้ำเงิน รวมทั้งทำร้ายกลุ่มคนเสื้อแดง ก็จะเป็นเงื่อนไขให้ต้องมีการชุมนุมยืดเยื้อแน่
**เหน็บมาร์คโมโหพรรคร่วมแล้วพาล
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ครม.มีมติใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเป็นเรื่องน่าแปลก เพราะรัฐบาลที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำพูดมาตลอดว่า ยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย ยึดมั่นระบบรัฐสภา แต่กลับไม่อนุญาตให้มีการชุมนุม ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญมาตรา 63 ระบุชัดเจนว่าสามารถชุมนุมได้โดยปราศจากอาวุธ และไม่สร้างความวุ่นวาย
การประกาศใช้พ.ร.บ.ดังกล่าว ถือว่ามีศักดิ์ศรีเล็กกว่ารัฐธรรมนูญ และถือเป็นการขัดรัฐธรรมนูญจึงไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย เมื่อเป็นแบบนี้ก็งานเข้าแน่ พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดแน่นอน รัฐบาลชุดนี้ทำตัวเจ้าอารมณ์ ใครจะชุมนุมหรือทำอะไรไม่ได้เลย แต่เมื่อก่อนอีกกลุ่มหนึ่งมาชุมนุมก็ไปกับเขาทั้งพรรค เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล ที่เกิดอาการพาล อารมณ์เสีย ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงออกมาก็เพื่อความสะใจ แต่จะเกิดผลเสียแก่ประเทศ เพราะทำให้ต่างชาติไม่มาเที่ยว ไม่มาลงทุน อีกทั้งเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนด้วย
" พ.ร.บ.ความมั่นคงเขาจะประกาศใช้เมื่อมีเหตุ แต่นี่ประกาศกันไปก่อน ตกใจเกินเหตุ เหมือนยังไม่ทันนอน แต่คุยแล้วว่าคืนนี้จะฝันอะไร ถ้ากลัวนักก็ประกาศใช้ พ.ร.บ.นี้ตลอดไป จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ไปเลย ขอแนะนำนายอภิสิทธิ์ว่า ถ้ากลัวมาก ก็ลาออกไปเลยดีกว่า" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
