ผบช.น. ระบุ ใช้แผนกรกฎ 48 และกำลัง 4 กองร้อย เตรียมรับมือเสื้อแดงชุมนุมใหญ่ เคลื่อนพลหน้าบ้าน "ป๋า"
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่กองบัญชาการนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 12.30 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงนัดแต่งชุดดำ เคลื่อนพลไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (26 ส.ค.) ว่า มีการตรวจสอบติดตามประเมินสถานการณ์ความเคลื่อนไหวตลอดเวลา จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงาน หรือมีเหตุบ่งชี้ว่าจะเกิดความรุนแรง และยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการรวมตัวกันจริงหรือไม่ เนื่องจากแหล่งข่าวจากผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายคือฝ่ายเสื้อแดงและฝ่ายเสื้อเหลืองต่างให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน อีกฝ่ายบอกว่าไม่มีการรวมตัวกัน แต่อีกฝ่ายคาดว่าจะมีการรวมตัวกันประมาณ 2,000 คน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันนี้ (25 ส.ค.) จะมีการนัดประชุมสรุปยืนยันอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร แต่หากมีการรวมตัวกันจริงนครบาลก็จัดเตรียมกำลังตำรวจรองรับมาตรการปฏิบัติในเรื่องนี้อยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่หากรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในเขตดุสิต-พระนคร ในการนัดรวมพลของกลุ่มเสื้อแดง เพื่อขับไล่รัฐบาล วันที่ 30 ส.ค.นี้ พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า เมื่อประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.ร.ม.น.) ก็จะเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลผู้ชุมนุม ซึ่งก็มีการประสานขอกำลังทหารไปแล้ว โดยตำรวจทำหน้าที่สนับสนุนในการดูแลความสงบในการชุมนุมเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.วรพงษ์ มีหนังสือเรียกประชุม เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ประกอบด้วย รอง ผบช.น.ทุกนาย ผบก.น.1 ตปพ. และ จร., รอง ผกก.ศส., ผกก.ศดส.บช.น., หน.ศปข.น. และ ผบก.อก.บช.น. ในวันนี้( 25 ส.ค.) เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมปารุสกวัน 1 เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ตามที่การข่าวกรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระดมมวลชนจำนวนมากเข้าร่วมชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 30 ส.ค.
หนังสือระบุ บช.น.ในฐานะรับผิดชอบดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยดังกล่าวได้กำหนดแนวทางขั้นตอนในการปฏิบัติ รวมทั้งการจัดกำลัง ปจ. เพื่อปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และขอรับการสนับสนุนกำลังจากหน่วยต่างๆ ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความเข้าใจตรงกันของผู้ปฏิบัติ จึงขอเชิญเข้าร่วมประชุมสรุปแนวทางการปฏิบัติภารกิจในวันเวลาดังกล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมนายตำรวจทุกระดับ เพื่อเตรียมพร้อมแผนรับมือกับสถานการณ์กลุ่มเสื้อแดงในวันดังกล่าวว่า จากการประชุมสรุปสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงในวันพรุ่งนี้(26 ส.ค.) ทางการข่าวรายงานว่าน่าจะมีจำนวนไม่มาก จำนวนสูงสุดไม่เกิน 2,000 คนโดยจะนัดรวมตัวกันที่สนามหลวงก่อนในช่วงกลางวัน และจะมีการนัดเคลื่อนขบวนมาที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ในเวลา 23.00น.
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ตำรวจนครบาลจัดเตรียมกำลังเพื่อรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสิ้น 4 กองร้อย ให้ประจำที่หอประชุมกองทัพบก 2 กองร้อย โดยรอบสนามหลวง 1 กองร้อย และกองร้อยสนับสนุนประจำที่ตั้งใน บช.น.อีก 1 กองร้อย ส่วนการปิดถนนหากมีการเคลื่อนขบวนนั้นคงไม่มีการดำเนินการ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จะใช้กำลังประจำจุด เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยแทน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงน่าจะชุมนุมไม่ยืดเยื้อ และอยู่ไม่เกินวันที่ 28 ส.ค.
ส่วนกรณีที่รัฐบาลประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคงในพื้นที่เขตดุสิต-พระนคร ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.- 1 ก.ย. เพื่อป้องกันเหตุผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่จะรวมตัวขับไล่รัฐบาลในวันที่ 30 ส.ค.ก่อความไม่สงบนั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า เมื่อมีการประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคง ต้องรอการสั่งการจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ(กอ.รมน.) ก่อนเพราะตำรวจเป็นเพียงกองกำลังสนับสนุน ต้องรอคำสั่งและการประเมินสถานการณ์ว่าใช้กำลังเท่าไร และที่ใดบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การดูแลความสงบเรียบร้อยกลุ่มผู้ชุมนุมครั้งนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาลยังคง ใช้แผนปฏิบัติเดิมคือ “ กรกฎ 48 “ จัดกำลังตำรวจนครบาล 1 ตำรวจนครบาล 1-9 ตำรวจปราบจราจลทั้งชายหญิง ตำรวจ 191 พร้อมขอกำลังสนับสนุน ณ ที่ตั้งดูแลโดยรอบสถานที่ทีมีการชุมนุมรวมถึงดูแลความปลอดภัเยทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ใช้กำลังรวมกว่า 1,000 นาย ดูแลทั้งด้านนอกด้านในอย่างเข้มงวดพร้อมตรึงกำลังตำรวจบางส่วนประจำจุดรอบเส้นทางที่มีการ เคลื่อนไหวไปทำเนียบรัฐบาลและพื้นที่เป้าหมาย ตั้งจุดตรวจค้นคุมเข้มผู้เข้าร่วมชุมนุมไม่ให้มีการพกพาอาวุธและทำ ผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ยังมอบหมายให้นายตำรวจระดับ รอง ผบช.น. ควบคุมสั่งการปฏิบัติดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามแผน ปฏิบัติอย่างใกล้ชิด และให้ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทำหน้าที่ควบคุมสั่งการกำลังตำรวจปราบจลาจล ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ในที่ประชุมเชื่อมั่นว่า จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่อาจยืดเยื้อต่อเนื่องหลายวันซึ่งมีการจัดกำลังตำรวจผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ ได้เน้นย้ำทำความเข้าใจกับนายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาที่ควบคุมการปฏิบัติ ว่า ให้ดำเนินการอย่างละมุนละม่อมไม่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด เน้นการเจรจาต่อรองเป็นหลัก และให้จับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือที่สามที่อาจสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้น
