ASTV ผู้จัดการรายวัน - รัฐบาลเล็งงัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคง คุมม็อบเสื้อแดง “อภิสิทธิ์” ระบุได้รับรายงานมีบางกลุ่มเจตนาทำให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อให้กระทบต่อเศรษฐกิจและสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน สั่ง “สุเทพ-ประวิตร” วางแผนรับมือ “เทพเทือก” เผยกำลังชั่งใจใช้ กม.ฉบับไหนดี ก่อนนำเข้า ครม.วันนี้ เสธ.ทบ.ยันไม่มีปฏิบัติ เช่นเดียวกับบิ๊กบัง ยังไม่เห็นเงื่อนไขอะไรจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงนอก รธน.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (24 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุม เวลา 08.45 น. นายอภิสิทธิ์ ได้เรียกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมมา หารือราว 5 นาที จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้หารือกับนายสุเทพสองต่อสอง เป็นเวลา 20 นาทีด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า การนัดชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค.ได้รับทราบว่ามีบางกลุ่ม เจตนาจะให้เกิดความวุ่นวาย จนมีเหตุการณ์ที่จะกระทบต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ฉะนั้นได้หารือกันทั้งในส่วนของนายสุเทพ และพล.อ.ประวิตร ว่า แผนในการที่จะรับมือการชุมนุมต้องมีประสิทธิภาพมีความรัดกุม ทั้งสองท่านจะไปดูแง่รูปแบบวิธีการที่จะดำเนินการ ส่วนจะให้ทหารเข้ามาร่วมดูแลด้วยหรือไม่นั้น คงต้องประเมินกัน และให้ นายสุเทพ และ พล.อ.ประวิตรไปพิจารณาว่าจะทำในรูปแบบไหนเป้าหมายคือต้องไม่มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย เกิดเหตุการณ์วุ่นวายและต้องการให้การบริหารงานต่างๆ เป็นไปอย่างปกติ และข้าราชการต้องเข้ามาทำงานในทำเนียบฯ ได้ตามปกติ
มีเจตนาของบางกลุ่มที่อยากให้เป็นการชุมนุมที่ยืดเยื้อ แต่หากจะชุมนุมยืดเยื้อ ก็ไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าไม่เป็นแบบเดือนเมษายน คือกลับไปสู่การสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองและกระทบกับประชาชนคงไม่ได้ หากมาใช้สิทธิแล้วลุกลามบานปลายเราต้องแก้ไข ซึ่งจริงๆ แล้วกระบวนการทางกฎหมายมีหลายอย่างที่ต้องดู เพราะหลายคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องขณะนี้ความจริงยังมีคดีจากคราวที่แล้วและที่ให้ประกันตัวกันออกมามีเงื่อนไขชัดเจนว่าจะต้องไม่มาก่อความวุ่นวายส่วนตำรวจจะขอต่อศาลให้ยกเลิกการประกันตัวหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของ ตำรวจที่จะต้องมีส่วนในการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ละฝ่ายมีสิทธิ แต่การปิดล้อมทำเนียบฯกระทำได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ศาลได้วินิจฉัยไปแล้วว่าจะมาขัดขวางการเข้ามาทำงานไม่ได้ เมื่อถามว่านอกจากทำเนียบฯมีรายงานจะไปชุมนุมที่อื่นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังติดตามอยู่ เพราะจริงๆแล้ว แม้แต่ความคิดในหมู่ของพวกเขาเองก็ยังไม่ลงตัว ส่วนรัฐบาลก็ไม่ได้เตรียมสถานที่ไว้รองรับหากเกิดมีการยึดทำเนียบฯ
ถามป่วนเพื่ออะไร
นายอภิสิทธิ์ยอมรับว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงคงจะกระทบต่อการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หากฝ่ายที่เขาอขากให้เกิดความวุ่นวายก็ต้องการให้กระทบให้ภาพลักษณ์ประเทศ ซึ่งจะกระทบความเชื่อมั่น
“ผมต้องถามว่า คนที่คิดอย่างนี้ต้องการอะไร เพราะคนที่สูญเสียที่สุดคือประชาชนทั่วไป หากประเทศเสียภาพลักษณ์ หากเราไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ ปัญหาเศรษฐกิจก็แก้ไม่ได้”
ส่วนแนวคิดจะเจรจากับแกนนำคนเสื้อแดงนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่า เขาจะคุยแล้วมีความหมายอะไร เพราะขนาดสิ่งที่เขาประกาศเอง เช่น เมื่อถวายฎีกา แล้วจะยุติการชุมนุม เขาก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มันเป็นเรื่องอื่นอย่างที่ตนได้ย้ำมา แต่ต้นว่ามีบางคน บางกลุ่ม มีเป้าหมายแอบแฝงชัดเจน เขาต้องพยายามเดินไปจุดนั้น ซึ่งเสียหายกับบ้านเมืองมาก
จ่อใช้ กม.ความมั่นคงคุมม็อบแดง
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 30 ส.ค.นี้จะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงดูแลสถานการณ์ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นทางเลือกหนึ่ง ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการ พิจารณา โดยจะดูจากข้อเท็จจริงและการข่าวที่จะมีการรายงานเข้ามา อย่างไรก็ตาม ต้องผ่านการพิจารณาของที่ประชุม ครม.ในวันที่ 25 ส.ค.ก่อนที่จะมีการประกาศใช้
นายอภิสิทธิ์เชื่อว่าการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงคงไม่กระทบต่อการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่ค้าในระหว่างวันที่ 23-25 ส.ค. ที่ ที่อ.ชะอำ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพราะเราได้ใช้จากการประชุมที่ภูเก็ต ก็เท่ากับเป็นการทำความเข้าใจ กับต่างประเทศไปในตัวอยู่แล้วว่ากฎหมายนี้มีไว้เพื่อใช้ป้องกัน ฉะนั้นไม่ได้แปลว่า มีเหตุร้ายแรง แต่ใช้เป็นเครื่องมือป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ
ทั้งนี้ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ อ.ชะอำ และ อ.หัวหิน ก็จะมีการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงดูแลสถานการณ์ความเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุเทพ และพล.อ.ประวิตร ให้ความมั่นใจในการดูแล สถานการณ์อย่างไร นายอภสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นความรับผิดชอบของพวกเราทุกคน อยู่แล้ว มั่นใจว่าจะเรียบร้อย เมื่อถามว่าการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงจะเป็นพื้นที่ กทม.อย่างเดียว หรือปริมณฑลด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ทั้งนี้เรื่องการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงจะต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง เพราะตามกฎหมาย ต้องเลือกสถานที่ประกาศ และจะต้องมีการมอบหมายอำนาจ และจะต้องมีเรื่องการ ใช้อำนาจตามกฎหมายว่าจะประกาศห้ามเรื่องไหน อย่างไรบ้าง ในการประชุมครม.อังคารนี้จะพยายามทำให้เสร็จทัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินมายังร้านก๋วยเตี๋ยว วัดดงมูลเหล็ก นายกฯจะไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวตามคำเชิญในทวิตเตอร์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนชอบกินข้าว พร้อมกับหัวเราะ
ชั่งใจใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-กม.ความมั่นคง
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้เข้าเรียนนายกรรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ให้นายกรัฐมนตรีได้ทราบ และมีความกังวลใจเรื่องการชุมนุม และมีความจำเป็นที่ตนจะต้องตัดสินใจวางแนวทางที่จะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา ดังกล่าว เช่นอาจต้องเตรียมการที่จะประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง หรือ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยตนต้องเรียนนายกฯ ก่อนว่า มีความจำเป็นต้องทำ เพราะต้องรักษาความสงบเอาไว้ให้ได้ โดยตนต้องตัดสินใจทุกอย่างให้ได้ในวันเดียวกันนี้ เพื่อจะได้ทำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมครม.ในวันที่ 25 ส.ค.นี้
จากสถานการณ์และท่าทีของกลุ่มคนที่เสื้อแดงที่ประกาศออกมา เขามีท่าทางที่จะทำอะไร ที่ผมต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจจะนำไปสู่ความยุ่งยาก ในบ้านเมือง เพราะที่กลุ่มคนเสื้อแดงออกมานั้นไม่ใช่เพราะไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลอะไรเลย ถ้าถ้าคนเสื้อแดงออกมาชุมนุมโดยสงบ ไม่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย แสดงออกทางระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องผมก็ไม่ขัดข้อง แต่ถ้ามาแล้วปิดล้อมสถานที่ไม่ให้คนเข้าไปทำงานได้ที่ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา หรือไปล้อมสถานที่ราชการต่างๆ ถือว่าไม่ใช่การแสดงออกทางประชาธิปไตยที่ถูกต้อง สิ่งที่กลุ่มเสื้อแดงเรียกร้องมาผมยังไม่เคยไปต่อต้านขัดขืนอะไรเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่าในทางข่าวกลุ่มคนเสื้อแดงมีเป้าหมายอะไร นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าพูดไปเดี๋ยวจะกลายเป็นการไปกล่าวหา เอาเป็นว่าตนไม่ประมาท พยายามจะดูแลให้รอบคอบเอาไว้ก่อน ต้องการปกป้องบ้านเมือง ภาพพจน์ของประชาชนและต้องการดูแลให้บ้านเมืองเรียบร้อย
ต่อข้อถามว่า มีสัญญาณหรือไม่ว่าอาจจะมีบางกลุ่มแอบอ้างเข้ามาผสมโรง ทำให้บานปลายจนต้องใช้กฎหมายพิเศษมาดูแล นายสุเทพ กล่าวว่า จะพยายามติดตาม ทั้งนี้การจะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯหรือกฎหมายความมั่นคงจะใช้นานเท่าใด ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยตนคิดทุกมุม ตั้งใจให้เกิดความเรียบร้อย และให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนที่ไม่ใช่การเจรจาเพราะใช้ไปบ้างแล้ว แต่ไม่ค่อยได้ผล ทางฝ่ายเสื้อแดงเขามีเป้าหมายชัดเจน
ติงไม่สมควรแต่งดำวันเกิดป๋า
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางกลุ่มเสื้อแดงมีการโจมตีกลุ่มอำมาตย์อย่างต่อเนื่อง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนบังเอิญไม่ใช่อำมาตย์กับเขาเสียด้วย แต่มีหน้าที่รักษาบ้านเมือง ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังไม่ยอมหยุดยังนัดเสื้อแดงไปรวมตัวพูดคุยกันที่ร้านเกี๋ยวเตี๋ยวเนื้อนั้น ตนไม่พูดจาอะไรก็กระทบกระเทือนใจหรือท้าทายกัน แต่พูดแทนพี่น้องประชาชนไทยได้ว่าไม่ต้องการเห็นกลุ่มเสื้อแดงออกมาทำอะไรให้บ้านเมืองวุ่นวาย อยากให้กลุ่มเสื้อแดงตระหนักด้วย
ส่วนในวันที่ 26 ส.ค.กลุ่มคนเสื้อแดงนัดแต่งชุดดำนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า คนจะแต่งเสื้อสีอะไรคงไปห้ามเขาไม่ได้ แต่ถ้าถามความเห็นคิดว่าไม่สมควรเพราะไม่อยากให้เกิดความรู้สึกอะไรที่ไม่ดีไม่งามขึ้นในบ้านเมือง คนไทยไม่ทำกันอย่างนั้น อย่างไรก็ตามตนกังวลใจเรื่องวันที่ 30ส.ค.มากกว่า เหตุการณ์วันที่ 26 ส.ค. แต่พยายามจะดูแลให้เต็มที่และไม่ประมาท
กองทัพเชื่อคุมม็อบเสื้อแดงได้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลความสงบ เรียบร้อยวันที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดูแลและกลุ่มผู้ชุมนุมก็จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้วย
พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รองผบ.ทบ.กล่าวว่า พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้สั่งการทุกอย่างไว้หมดแล้ว โดยมาตรการทางทหารจะใช้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ส่วนจะใช้ทหารออกมาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ 21 กองร้อยเหมือนเดิมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ทั้งนี้เป็นห่วงสถานการณ์เหมือนกันหากเกิดเหตุอะไรที่ไม่เรียบร้อย แต่คิดว่าคงไม่มีอะไรที่รุนแรง
พล.อ.ประยุทธ์ เสนาธิการทหารบก กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ ได้มอบหมายให้ พล.อ.จิรเดช และตนช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยระหว่างที่ ผบ.ทบ.เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจหากเกิดความรุนแรง ส่วนหากมีม็อบเคลื่อนขบวนมาบ้านสีเสาเทเวศน์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ก็มีกำลังตำรวจดูแลหน้าบ้านอยู่แล้ว คงห้ามไม่ให้เคลื่อนไหวมาไม่ได้ แต่เราจะดูแลความสงบเรียบร้อยฃ ไม่ให้เกิดความรุนแรงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การชุมนุมสามารถทำได้ แต่ต้องไม่ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย และจะต้องยึดหลักตามกฎกติกาของบ้านเมือง
การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองต้องทำความเข้าใจและพูดคุยกันของทุกฝ่าย เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้น แต่อยู่ที่จะเข้าใจสถานการณ์หรือไม่ ขณะนี้อยากให้ทุกฝ่ายลดทิฐิ และหันหน้ามาพูดคุยกัน ทั้งนี้การดูแลความสงบ เรียบร้อยจะใช้แผนรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตกรุงเทพมหานาคร โดยการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ตามปกติ
ส่วนกระแสข่าวการปฏิวัติรัฐประหารเพื่อคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีปฏิวัติ เรื่องการปฏิวัติไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะสถานการณ์ไม่ถึงขนาดนั้น ทั้งนี้การแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองไม่จำเป็นจะต้องแก้ไขปัญหาด้วยการทำปฏิวัติ แต่การแก้ไขจะต้องใช้กลไกของบ้านเมืองมากกว่า การทำปฏิวัติรัฐประหารไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร
บช.น.ฝึกรับมือม็อบ-รวบตัวแกนนำ
วันเดียวกันเวลา เวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ทำการปล่อยแถวกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วรุ่นที่ 4 จำนวน 100 นายจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 4-6 ระดับชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวนที่มีร่างกายแข็งแรงบึกบึน เข้ารับการฝึกอบรม ภาคปฏิบัติดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยเตรียมพร้อมรับมือการชุมนุม ของกลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 30 ส.ค.
โดยการฝึกภาคปฏิบัติจะอยู่ภายในบริเวณค่ายพระราม 6 อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ระยะเวลา 6 วันระหว่างวันที่ 24-30 ส.ค. โดยเน้นการฝึกการควบคุมฝูงชน การการป้องกันการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมและการ จู่โจมเข้าควบคุมตัวแกนนำผู้ชุมนุม กรณีสถานการณ์รุนแรงภาวะฉุกเฉินทำหน้าที่ เป็นหน่วยจู่โจมเคลื่อนที่เร็วภาคสนาม โดยหลังเสร็จสิ้นการอบรมจะเข้าร่วม ปฏิบัติหน้าที่กับชุดเคลื่อนที่เร็วหน่วยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลความมั่นคงในพื้นที่รวม 300 นาย
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า นอกจากการฝึกภาคปฏิบัติในพื้นที่แล้วยังมีการฝึกการพัฒนาทางด้านจิตใจการใช้ ชีวิตอยู่ร่วมกันสร้างความสมานสามัคคี เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนำตำรวจแต่ละหน่วยที่ไม่เคยรู้จักกันมาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน ปลูกจิตสำนึกการทำงานเป็นทีมเวิร์กในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เชื่อมั่นว่าชุดปฏิบัติการดังกล่าวจะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็งหนักแน่น เพราะบางสถานการณ์การชุมนุมนั้นมีสิ่งที่ตำรวจคาดไม่ถึงเกิดขึ้นเสมอ จึงต้องเตรียมพร้อมไว้ รวมถึงการเข้าควบคุมตัวแกนนำที่สั่งการยั่วยุต่างๆ ด้วย เราจำเป็นต้องเรียนรู้การปฏิบัติไว้เพื่อรับมือสถานการณือย่างเต็มที่ในทุกรูปแบบ
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า การชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค.นี้ เชื่อว่าตำรวจจะสามารถดูแลสถานการณ์ได้ แต่เพื่อความพร้อมเพรียงได้นัดหมายนายตำรวจระดับรอง ผบช.น.ทุกนายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง งานจราจรและการควบคุมฝูงชน รวมถึงระดับ ผบก.ทุกหน่วยประชุมประเมินสถานการณ์วางแนวทางการปฏิบัติร่วมกันเพื่อความชัดเจนมากขึ้น พร้อมจัดเตรียมกำลังตำรวจในการทำหน้าที่โดยยึดหลักความละมุนละม่อมไม่ใช้ความรุนแรง เน้นการเจรจาดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ไม่มีเหตุบ่งชี้ความรุนแรง แต่อาจชุมนุมยืดเยื้อเพราะมีเงื่อนไขต่อรองทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และเพื่อความไม่ประมาทได้สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมกำลังพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ ส่วนการชุมนุมแต่งชุดดำหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ วันที่ 26 ส.ค.คงไม่มีอะไรรุนแรง มีการวางกำลังตำรวจดูแลความปลอดภัยอย่างแน่นหนาตามมาตรการอยู่แล้ว ไม่น่าเป็นห่วง
“บิ๊กบัง” มั่นใจไม่มีการปฏิวัติ
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่น่ากังวล สบายใจได้ คิดว่านายกรัฐมนตรี สามารถแก้ไขปัญหาได้ และเชื่อว่าไม่น่าจะมีอำนาจนอกกฎหมายแทรกซ้อนเข้ามา เพราะระบบของกฎหมายและมาตรการการใช้กฎหมายเข้มแข็งอยู่แล้ว จึงเชื่อว่า ไม่น่าจะบานปลาย อีกทั้งมาตรการต่าง ๆ และบทเรียนมีพอในการที่ใครจะปฏิบัติอะไรก็แล้วแต่ จะต้องระมัดระวัง
“ผมเชื่อว่าไม่มีเงื่อนไขอะไรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรที่นอกรัฐธรรมนูญ ท่านนายกฯมั่นใจในการบริหารประเทศ และผมเชื่อว่า ไม่น่าจะมีเรื่องกองทัพทำอะไรนอกรัฐธรรมนูญ ผมมั่นใจ เพราะผมดูคนออก ผมเชื่อว่าไม่มี”
ผู้สื่อข่าวถามว่าบ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า อย่าไปคิดอย่างนั้น เพราะถ้าคิดอย่างนั้นจะกระเทือนไปหลายอย่าง
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรียังเคลื่อนไหวโฟนอินเข้ามาล่าสุดนัดคนไปรวมตัวกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อดงมูลเหล็ก จะบอกอะไรถึงพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คงต้องให้สื่อช่วยบอก เพราะเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณฟังสื่อมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนเสื้อแดงนัดแต่งชุดดำวันที่ 26 ส.ค. พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมชาติที่ใครจะทำอะไรก็ได้ อย่าไปคิดอะไรมาก และเชื่อว่าไม่น่าจะนำไปสู่ความรุนแรง เพราะมีกฎหมายควบคุมดูแลอยู่ จึงเชื่อว่าคนเสื้อแดง คงไม่ทำให้เกิดความรุนแรง
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองขณะนี้เป็นเพราะตกค้างจากการที่ คมช.ทำไม่จบหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่าไม่ใช่ และต้องสาวต่อไปให้ดี ๆ ซึ่งที่ผ่านมา ตนแก้ปัญหาไปเยอะแล้ว ไม่เช่นนั้นจะแย่ยิ่งกว่านี้ อย่างไรก็ตามเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาล ดำเนินการพยายามแก้ไขปัญหาขณะนี้ถือว่าถูกต้อง เพียงแต่ภาคประชาชน และสื่อต่าง ๆ จะต้องร่วมมือกัน
ส่วนที่ชาวต่างชาติและธนาคารจากสวิสเซอร์แลนด์ระบุว่าปัจจัยที่ทำให้ประเทศชาติเดินไปทางไหนคือพ.ต.ท.ทักษิณนั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่าไม่น่าจะใช่ เพราะปัจจัยในการแก้ไขปัญหากับปัญหาบ้านเมืองนั้น ขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาหลาย ๆ ตัวพร้อม ๆ กัน โดยสิ่งที่สำคัญคือการเมือง หากการเมืองนิ่ง ทุกอย่างจะดีหมด แต่ขณะนี้การเมืองยังไม่นิ่ง บ้านเมืองจึงเป็นอย่างนี้ ดังนั้นพวกเราจะต้องช่วยกัน
“นช.แม้ว” กินก๋วยเตี๋ยวสร้างข่าว
วันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้นัดกลุ่มคนเสื้อแดงนรับประทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และหมูสะเต๊ะฟรี ที่ร้าน ต.โภชนา ก๋วยเตี๋ยวเนื้อดมมูลเหล็ก พระราม 7 พร้อมฟังโฟนอินปลุกระดมในเวลา 12.00 น.
โดย พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินว่า ที่ผ่านมาได้เล่าอะะไรมาเยอะแล้ว ตอนนี้จะรอพูดอีกครั้งผ่านคลื่นวิทยุทางอินเตอร์เน็ต อาจพอเป็นแนวทางให้คนไทยปรับปรุงแก้ไขให้ทำมาหากินได้ โดยจะออนแอร์วันแรกวันที่ 1 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ตน ต้องเดินทาง แต่จะจัดรายการด้วยการโทรศัพท์จากเครื่องบินเหมือนที่เคยทำมา หากรัฐบาลมีใจเป็นกลาง อาจช่วยเป็นข้อคิดได้
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ช่วงนี้ไปแอฟริกาบ่อย เพราะต้องทำธุรกิจหาเลี้ยงตัวเอง เพราะเงินที่ทำมาหากินมาทั้งชีวิตถูกอายัด คำว่าคอร์รัปชันหมายถึงเอาเงินรัฐใส่กระเป๋า แต่ตอนนี้เงินของครอบครัวตนกลับถูกหลวงคอร์รัปชัน รอศาลเมตตา
“ขอยืนยันว่าครอบครัวของผมมีฐานะแล้วจึงรับใช้ชาติ แต่กลับถูกรังแกจนต้องทำมาหากินกันใหม่ ไม่คำนึงถึงประเทศชาติกลับมากลั่นแกล้งกัน บางชีวิตเกิดมาต้องสู้ บางช่วงมีวิบากกกรรมต้องสู้ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานทุกอย่าง คงสว่างขึ้น เมื่อพ้นช่วงนี้ไปคงมีลู่ทางให้มีความสุขได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (24 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุม เวลา 08.45 น. นายอภิสิทธิ์ ได้เรียกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมมา หารือราว 5 นาที จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้หารือกับนายสุเทพสองต่อสอง เป็นเวลา 20 นาทีด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า การนัดชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค.ได้รับทราบว่ามีบางกลุ่ม เจตนาจะให้เกิดความวุ่นวาย จนมีเหตุการณ์ที่จะกระทบต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ฉะนั้นได้หารือกันทั้งในส่วนของนายสุเทพ และพล.อ.ประวิตร ว่า แผนในการที่จะรับมือการชุมนุมต้องมีประสิทธิภาพมีความรัดกุม ทั้งสองท่านจะไปดูแง่รูปแบบวิธีการที่จะดำเนินการ ส่วนจะให้ทหารเข้ามาร่วมดูแลด้วยหรือไม่นั้น คงต้องประเมินกัน และให้ นายสุเทพ และ พล.อ.ประวิตรไปพิจารณาว่าจะทำในรูปแบบไหนเป้าหมายคือต้องไม่มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย เกิดเหตุการณ์วุ่นวายและต้องการให้การบริหารงานต่างๆ เป็นไปอย่างปกติ และข้าราชการต้องเข้ามาทำงานในทำเนียบฯ ได้ตามปกติ
มีเจตนาของบางกลุ่มที่อยากให้เป็นการชุมนุมที่ยืดเยื้อ แต่หากจะชุมนุมยืดเยื้อ ก็ไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าไม่เป็นแบบเดือนเมษายน คือกลับไปสู่การสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองและกระทบกับประชาชนคงไม่ได้ หากมาใช้สิทธิแล้วลุกลามบานปลายเราต้องแก้ไข ซึ่งจริงๆ แล้วกระบวนการทางกฎหมายมีหลายอย่างที่ต้องดู เพราะหลายคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องขณะนี้ความจริงยังมีคดีจากคราวที่แล้วและที่ให้ประกันตัวกันออกมามีเงื่อนไขชัดเจนว่าจะต้องไม่มาก่อความวุ่นวายส่วนตำรวจจะขอต่อศาลให้ยกเลิกการประกันตัวหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของ ตำรวจที่จะต้องมีส่วนในการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ละฝ่ายมีสิทธิ แต่การปิดล้อมทำเนียบฯกระทำได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ศาลได้วินิจฉัยไปแล้วว่าจะมาขัดขวางการเข้ามาทำงานไม่ได้ เมื่อถามว่านอกจากทำเนียบฯมีรายงานจะไปชุมนุมที่อื่นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังติดตามอยู่ เพราะจริงๆแล้ว แม้แต่ความคิดในหมู่ของพวกเขาเองก็ยังไม่ลงตัว ส่วนรัฐบาลก็ไม่ได้เตรียมสถานที่ไว้รองรับหากเกิดมีการยึดทำเนียบฯ
ถามป่วนเพื่ออะไร
นายอภิสิทธิ์ยอมรับว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงคงจะกระทบต่อการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หากฝ่ายที่เขาอขากให้เกิดความวุ่นวายก็ต้องการให้กระทบให้ภาพลักษณ์ประเทศ ซึ่งจะกระทบความเชื่อมั่น
“ผมต้องถามว่า คนที่คิดอย่างนี้ต้องการอะไร เพราะคนที่สูญเสียที่สุดคือประชาชนทั่วไป หากประเทศเสียภาพลักษณ์ หากเราไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ ปัญหาเศรษฐกิจก็แก้ไม่ได้”
ส่วนแนวคิดจะเจรจากับแกนนำคนเสื้อแดงนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่า เขาจะคุยแล้วมีความหมายอะไร เพราะขนาดสิ่งที่เขาประกาศเอง เช่น เมื่อถวายฎีกา แล้วจะยุติการชุมนุม เขาก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มันเป็นเรื่องอื่นอย่างที่ตนได้ย้ำมา แต่ต้นว่ามีบางคน บางกลุ่ม มีเป้าหมายแอบแฝงชัดเจน เขาต้องพยายามเดินไปจุดนั้น ซึ่งเสียหายกับบ้านเมืองมาก
จ่อใช้ กม.ความมั่นคงคุมม็อบแดง
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 30 ส.ค.นี้จะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงดูแลสถานการณ์ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นทางเลือกหนึ่ง ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการ พิจารณา โดยจะดูจากข้อเท็จจริงและการข่าวที่จะมีการรายงานเข้ามา อย่างไรก็ตาม ต้องผ่านการพิจารณาของที่ประชุม ครม.ในวันที่ 25 ส.ค.ก่อนที่จะมีการประกาศใช้
นายอภิสิทธิ์เชื่อว่าการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงคงไม่กระทบต่อการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่ค้าในระหว่างวันที่ 23-25 ส.ค. ที่ ที่อ.ชะอำ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพราะเราได้ใช้จากการประชุมที่ภูเก็ต ก็เท่ากับเป็นการทำความเข้าใจ กับต่างประเทศไปในตัวอยู่แล้วว่ากฎหมายนี้มีไว้เพื่อใช้ป้องกัน ฉะนั้นไม่ได้แปลว่า มีเหตุร้ายแรง แต่ใช้เป็นเครื่องมือป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ
ทั้งนี้ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ อ.ชะอำ และ อ.หัวหิน ก็จะมีการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงดูแลสถานการณ์ความเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุเทพ และพล.อ.ประวิตร ให้ความมั่นใจในการดูแล สถานการณ์อย่างไร นายอภสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นความรับผิดชอบของพวกเราทุกคน อยู่แล้ว มั่นใจว่าจะเรียบร้อย เมื่อถามว่าการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงจะเป็นพื้นที่ กทม.อย่างเดียว หรือปริมณฑลด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ทั้งนี้เรื่องการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงจะต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง เพราะตามกฎหมาย ต้องเลือกสถานที่ประกาศ และจะต้องมีการมอบหมายอำนาจ และจะต้องมีเรื่องการ ใช้อำนาจตามกฎหมายว่าจะประกาศห้ามเรื่องไหน อย่างไรบ้าง ในการประชุมครม.อังคารนี้จะพยายามทำให้เสร็จทัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินมายังร้านก๋วยเตี๋ยว วัดดงมูลเหล็ก นายกฯจะไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวตามคำเชิญในทวิตเตอร์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนชอบกินข้าว พร้อมกับหัวเราะ
ชั่งใจใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-กม.ความมั่นคง
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้เข้าเรียนนายกรรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ให้นายกรัฐมนตรีได้ทราบ และมีความกังวลใจเรื่องการชุมนุม และมีความจำเป็นที่ตนจะต้องตัดสินใจวางแนวทางที่จะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา ดังกล่าว เช่นอาจต้องเตรียมการที่จะประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง หรือ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยตนต้องเรียนนายกฯ ก่อนว่า มีความจำเป็นต้องทำ เพราะต้องรักษาความสงบเอาไว้ให้ได้ โดยตนต้องตัดสินใจทุกอย่างให้ได้ในวันเดียวกันนี้ เพื่อจะได้ทำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมครม.ในวันที่ 25 ส.ค.นี้
จากสถานการณ์และท่าทีของกลุ่มคนที่เสื้อแดงที่ประกาศออกมา เขามีท่าทางที่จะทำอะไร ที่ผมต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจจะนำไปสู่ความยุ่งยาก ในบ้านเมือง เพราะที่กลุ่มคนเสื้อแดงออกมานั้นไม่ใช่เพราะไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลอะไรเลย ถ้าถ้าคนเสื้อแดงออกมาชุมนุมโดยสงบ ไม่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย แสดงออกทางระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องผมก็ไม่ขัดข้อง แต่ถ้ามาแล้วปิดล้อมสถานที่ไม่ให้คนเข้าไปทำงานได้ที่ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา หรือไปล้อมสถานที่ราชการต่างๆ ถือว่าไม่ใช่การแสดงออกทางประชาธิปไตยที่ถูกต้อง สิ่งที่กลุ่มเสื้อแดงเรียกร้องมาผมยังไม่เคยไปต่อต้านขัดขืนอะไรเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่าในทางข่าวกลุ่มคนเสื้อแดงมีเป้าหมายอะไร นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าพูดไปเดี๋ยวจะกลายเป็นการไปกล่าวหา เอาเป็นว่าตนไม่ประมาท พยายามจะดูแลให้รอบคอบเอาไว้ก่อน ต้องการปกป้องบ้านเมือง ภาพพจน์ของประชาชนและต้องการดูแลให้บ้านเมืองเรียบร้อย
ต่อข้อถามว่า มีสัญญาณหรือไม่ว่าอาจจะมีบางกลุ่มแอบอ้างเข้ามาผสมโรง ทำให้บานปลายจนต้องใช้กฎหมายพิเศษมาดูแล นายสุเทพ กล่าวว่า จะพยายามติดตาม ทั้งนี้การจะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯหรือกฎหมายความมั่นคงจะใช้นานเท่าใด ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยตนคิดทุกมุม ตั้งใจให้เกิดความเรียบร้อย และให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนที่ไม่ใช่การเจรจาเพราะใช้ไปบ้างแล้ว แต่ไม่ค่อยได้ผล ทางฝ่ายเสื้อแดงเขามีเป้าหมายชัดเจน
ติงไม่สมควรแต่งดำวันเกิดป๋า
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางกลุ่มเสื้อแดงมีการโจมตีกลุ่มอำมาตย์อย่างต่อเนื่อง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนบังเอิญไม่ใช่อำมาตย์กับเขาเสียด้วย แต่มีหน้าที่รักษาบ้านเมือง ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังไม่ยอมหยุดยังนัดเสื้อแดงไปรวมตัวพูดคุยกันที่ร้านเกี๋ยวเตี๋ยวเนื้อนั้น ตนไม่พูดจาอะไรก็กระทบกระเทือนใจหรือท้าทายกัน แต่พูดแทนพี่น้องประชาชนไทยได้ว่าไม่ต้องการเห็นกลุ่มเสื้อแดงออกมาทำอะไรให้บ้านเมืองวุ่นวาย อยากให้กลุ่มเสื้อแดงตระหนักด้วย
ส่วนในวันที่ 26 ส.ค.กลุ่มคนเสื้อแดงนัดแต่งชุดดำนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า คนจะแต่งเสื้อสีอะไรคงไปห้ามเขาไม่ได้ แต่ถ้าถามความเห็นคิดว่าไม่สมควรเพราะไม่อยากให้เกิดความรู้สึกอะไรที่ไม่ดีไม่งามขึ้นในบ้านเมือง คนไทยไม่ทำกันอย่างนั้น อย่างไรก็ตามตนกังวลใจเรื่องวันที่ 30ส.ค.มากกว่า เหตุการณ์วันที่ 26 ส.ค. แต่พยายามจะดูแลให้เต็มที่และไม่ประมาท
กองทัพเชื่อคุมม็อบเสื้อแดงได้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลความสงบ เรียบร้อยวันที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดูแลและกลุ่มผู้ชุมนุมก็จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้วย
พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รองผบ.ทบ.กล่าวว่า พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้สั่งการทุกอย่างไว้หมดแล้ว โดยมาตรการทางทหารจะใช้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ส่วนจะใช้ทหารออกมาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ 21 กองร้อยเหมือนเดิมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ทั้งนี้เป็นห่วงสถานการณ์เหมือนกันหากเกิดเหตุอะไรที่ไม่เรียบร้อย แต่คิดว่าคงไม่มีอะไรที่รุนแรง
พล.อ.ประยุทธ์ เสนาธิการทหารบก กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ ได้มอบหมายให้ พล.อ.จิรเดช และตนช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยระหว่างที่ ผบ.ทบ.เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจหากเกิดความรุนแรง ส่วนหากมีม็อบเคลื่อนขบวนมาบ้านสีเสาเทเวศน์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ก็มีกำลังตำรวจดูแลหน้าบ้านอยู่แล้ว คงห้ามไม่ให้เคลื่อนไหวมาไม่ได้ แต่เราจะดูแลความสงบเรียบร้อยฃ ไม่ให้เกิดความรุนแรงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การชุมนุมสามารถทำได้ แต่ต้องไม่ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย และจะต้องยึดหลักตามกฎกติกาของบ้านเมือง
การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองต้องทำความเข้าใจและพูดคุยกันของทุกฝ่าย เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้น แต่อยู่ที่จะเข้าใจสถานการณ์หรือไม่ ขณะนี้อยากให้ทุกฝ่ายลดทิฐิ และหันหน้ามาพูดคุยกัน ทั้งนี้การดูแลความสงบ เรียบร้อยจะใช้แผนรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตกรุงเทพมหานาคร โดยการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ตามปกติ
ส่วนกระแสข่าวการปฏิวัติรัฐประหารเพื่อคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีปฏิวัติ เรื่องการปฏิวัติไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะสถานการณ์ไม่ถึงขนาดนั้น ทั้งนี้การแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองไม่จำเป็นจะต้องแก้ไขปัญหาด้วยการทำปฏิวัติ แต่การแก้ไขจะต้องใช้กลไกของบ้านเมืองมากกว่า การทำปฏิวัติรัฐประหารไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร
บช.น.ฝึกรับมือม็อบ-รวบตัวแกนนำ
วันเดียวกันเวลา เวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ทำการปล่อยแถวกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วรุ่นที่ 4 จำนวน 100 นายจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 4-6 ระดับชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวนที่มีร่างกายแข็งแรงบึกบึน เข้ารับการฝึกอบรม ภาคปฏิบัติดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยเตรียมพร้อมรับมือการชุมนุม ของกลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 30 ส.ค.
โดยการฝึกภาคปฏิบัติจะอยู่ภายในบริเวณค่ายพระราม 6 อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ระยะเวลา 6 วันระหว่างวันที่ 24-30 ส.ค. โดยเน้นการฝึกการควบคุมฝูงชน การการป้องกันการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมและการ จู่โจมเข้าควบคุมตัวแกนนำผู้ชุมนุม กรณีสถานการณ์รุนแรงภาวะฉุกเฉินทำหน้าที่ เป็นหน่วยจู่โจมเคลื่อนที่เร็วภาคสนาม โดยหลังเสร็จสิ้นการอบรมจะเข้าร่วม ปฏิบัติหน้าที่กับชุดเคลื่อนที่เร็วหน่วยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลความมั่นคงในพื้นที่รวม 300 นาย
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า นอกจากการฝึกภาคปฏิบัติในพื้นที่แล้วยังมีการฝึกการพัฒนาทางด้านจิตใจการใช้ ชีวิตอยู่ร่วมกันสร้างความสมานสามัคคี เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนำตำรวจแต่ละหน่วยที่ไม่เคยรู้จักกันมาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน ปลูกจิตสำนึกการทำงานเป็นทีมเวิร์กในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เชื่อมั่นว่าชุดปฏิบัติการดังกล่าวจะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็งหนักแน่น เพราะบางสถานการณ์การชุมนุมนั้นมีสิ่งที่ตำรวจคาดไม่ถึงเกิดขึ้นเสมอ จึงต้องเตรียมพร้อมไว้ รวมถึงการเข้าควบคุมตัวแกนนำที่สั่งการยั่วยุต่างๆ ด้วย เราจำเป็นต้องเรียนรู้การปฏิบัติไว้เพื่อรับมือสถานการณือย่างเต็มที่ในทุกรูปแบบ
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า การชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค.นี้ เชื่อว่าตำรวจจะสามารถดูแลสถานการณ์ได้ แต่เพื่อความพร้อมเพรียงได้นัดหมายนายตำรวจระดับรอง ผบช.น.ทุกนายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง งานจราจรและการควบคุมฝูงชน รวมถึงระดับ ผบก.ทุกหน่วยประชุมประเมินสถานการณ์วางแนวทางการปฏิบัติร่วมกันเพื่อความชัดเจนมากขึ้น พร้อมจัดเตรียมกำลังตำรวจในการทำหน้าที่โดยยึดหลักความละมุนละม่อมไม่ใช้ความรุนแรง เน้นการเจรจาดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ไม่มีเหตุบ่งชี้ความรุนแรง แต่อาจชุมนุมยืดเยื้อเพราะมีเงื่อนไขต่อรองทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และเพื่อความไม่ประมาทได้สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมกำลังพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ ส่วนการชุมนุมแต่งชุดดำหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ วันที่ 26 ส.ค.คงไม่มีอะไรรุนแรง มีการวางกำลังตำรวจดูแลความปลอดภัยอย่างแน่นหนาตามมาตรการอยู่แล้ว ไม่น่าเป็นห่วง
“บิ๊กบัง” มั่นใจไม่มีการปฏิวัติ
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่น่ากังวล สบายใจได้ คิดว่านายกรัฐมนตรี สามารถแก้ไขปัญหาได้ และเชื่อว่าไม่น่าจะมีอำนาจนอกกฎหมายแทรกซ้อนเข้ามา เพราะระบบของกฎหมายและมาตรการการใช้กฎหมายเข้มแข็งอยู่แล้ว จึงเชื่อว่า ไม่น่าจะบานปลาย อีกทั้งมาตรการต่าง ๆ และบทเรียนมีพอในการที่ใครจะปฏิบัติอะไรก็แล้วแต่ จะต้องระมัดระวัง
“ผมเชื่อว่าไม่มีเงื่อนไขอะไรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรที่นอกรัฐธรรมนูญ ท่านนายกฯมั่นใจในการบริหารประเทศ และผมเชื่อว่า ไม่น่าจะมีเรื่องกองทัพทำอะไรนอกรัฐธรรมนูญ ผมมั่นใจ เพราะผมดูคนออก ผมเชื่อว่าไม่มี”
ผู้สื่อข่าวถามว่าบ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า อย่าไปคิดอย่างนั้น เพราะถ้าคิดอย่างนั้นจะกระเทือนไปหลายอย่าง
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรียังเคลื่อนไหวโฟนอินเข้ามาล่าสุดนัดคนไปรวมตัวกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อดงมูลเหล็ก จะบอกอะไรถึงพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คงต้องให้สื่อช่วยบอก เพราะเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณฟังสื่อมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนเสื้อแดงนัดแต่งชุดดำวันที่ 26 ส.ค. พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมชาติที่ใครจะทำอะไรก็ได้ อย่าไปคิดอะไรมาก และเชื่อว่าไม่น่าจะนำไปสู่ความรุนแรง เพราะมีกฎหมายควบคุมดูแลอยู่ จึงเชื่อว่าคนเสื้อแดง คงไม่ทำให้เกิดความรุนแรง
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองขณะนี้เป็นเพราะตกค้างจากการที่ คมช.ทำไม่จบหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่าไม่ใช่ และต้องสาวต่อไปให้ดี ๆ ซึ่งที่ผ่านมา ตนแก้ปัญหาไปเยอะแล้ว ไม่เช่นนั้นจะแย่ยิ่งกว่านี้ อย่างไรก็ตามเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาล ดำเนินการพยายามแก้ไขปัญหาขณะนี้ถือว่าถูกต้อง เพียงแต่ภาคประชาชน และสื่อต่าง ๆ จะต้องร่วมมือกัน
ส่วนที่ชาวต่างชาติและธนาคารจากสวิสเซอร์แลนด์ระบุว่าปัจจัยที่ทำให้ประเทศชาติเดินไปทางไหนคือพ.ต.ท.ทักษิณนั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่าไม่น่าจะใช่ เพราะปัจจัยในการแก้ไขปัญหากับปัญหาบ้านเมืองนั้น ขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาหลาย ๆ ตัวพร้อม ๆ กัน โดยสิ่งที่สำคัญคือการเมือง หากการเมืองนิ่ง ทุกอย่างจะดีหมด แต่ขณะนี้การเมืองยังไม่นิ่ง บ้านเมืองจึงเป็นอย่างนี้ ดังนั้นพวกเราจะต้องช่วยกัน
“นช.แม้ว” กินก๋วยเตี๋ยวสร้างข่าว
วันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้นัดกลุ่มคนเสื้อแดงนรับประทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และหมูสะเต๊ะฟรี ที่ร้าน ต.โภชนา ก๋วยเตี๋ยวเนื้อดมมูลเหล็ก พระราม 7 พร้อมฟังโฟนอินปลุกระดมในเวลา 12.00 น.
โดย พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินว่า ที่ผ่านมาได้เล่าอะะไรมาเยอะแล้ว ตอนนี้จะรอพูดอีกครั้งผ่านคลื่นวิทยุทางอินเตอร์เน็ต อาจพอเป็นแนวทางให้คนไทยปรับปรุงแก้ไขให้ทำมาหากินได้ โดยจะออนแอร์วันแรกวันที่ 1 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ตน ต้องเดินทาง แต่จะจัดรายการด้วยการโทรศัพท์จากเครื่องบินเหมือนที่เคยทำมา หากรัฐบาลมีใจเป็นกลาง อาจช่วยเป็นข้อคิดได้
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ช่วงนี้ไปแอฟริกาบ่อย เพราะต้องทำธุรกิจหาเลี้ยงตัวเอง เพราะเงินที่ทำมาหากินมาทั้งชีวิตถูกอายัด คำว่าคอร์รัปชันหมายถึงเอาเงินรัฐใส่กระเป๋า แต่ตอนนี้เงินของครอบครัวตนกลับถูกหลวงคอร์รัปชัน รอศาลเมตตา
“ขอยืนยันว่าครอบครัวของผมมีฐานะแล้วจึงรับใช้ชาติ แต่กลับถูกรังแกจนต้องทำมาหากินกันใหม่ ไม่คำนึงถึงประเทศชาติกลับมากลั่นแกล้งกัน บางชีวิตเกิดมาต้องสู้ บางช่วงมีวิบากกกรรมต้องสู้ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานทุกอย่าง คงสว่างขึ้น เมื่อพ้นช่วงนี้ไปคงมีลู่ทางให้มีความสุขได้”
