ASTVผู้จัดการรายวัน - ชิน คอร์ปอเรชั่น ย้ำไม่ถอนหุ้นออกจากตลาดฯ แม้จะมีฟรีโฟลทต่ำกว่าเกณฑ์อยู่ที่ 3% เผยอยู่ระหว่างหาวิธีแก้ไข อ้างรอข้อสรุปจากผู้ถือหุ้น แจงไม่ปิดกั้นการลงทุนทั้งในและต่างประเทศชี้รอจังหวะเหมาะสม
นางสาวทมยันตี คงพูลศิลป์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN เปิดเผยกรณีที่บริษัทฯ มีการกระจายการถือหุ้นรายย่อย (ฟรีโฟลท) ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กำหนดไว้ที่ 15% ขณะปัจจุบันบริษัทฯมีฟรีโฟลตที่ 3% ซึ่งผู้ถือหุ้นได้มีนโยบายการเพิ่มฟรีโฟลทของหุ้นบริษัทฯในอนาคต แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ เนื่องจากจะต้องพิจารณาภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงภาวะโดยรวมของตลาดหุ้น ซึ่งหากมีความเหมาะสมก็มีโอกาสที่ผู้ถือหุ้นจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนออกมา
ทั้งนี้ ตลท.ได้ผ่อนผันหลักเกณฑ์กรณีที่บริษัทจดทะเบียนมีฟรีโฟลตต่ำกว่าเกณฑ์ โดยจะยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มเป็นการชั่วคราว เพื่อลดภาระด้านค่าใช้จ่ายของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ให้ลดต่ำลง และให้เวลากับบริษัทจดทะเบียนในการปรับตัว และถึงแม้ว่าบริษัทฯ จะมีฟรีโฟลตที่ต่ำกว่าเกณฑ์ แต่ก็ไม่มีแผนที่จะถอนหุ้นออกจากตลท.
"การลงทุนใหม่ตอนนี้คงยังบอกไม่ได้ว่าจะมีหรือไม่ แต่เราก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองอยู่แล้ว ยังคงเปิดกว้างที่จะมองหาการลงทุนอยู่เสมอทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเน้นธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมและมีเดีย ที่เรามีความรู้ความสามารถและเคยทำมาในอดีต ซึ่งก็ต้องใช้เวลาในการเลือกและตัดสินใจบนพื้นฐานของธุรกิจที่บริษัทมีความชำนาญ" นางสาวทมยันตี กล่าว
สำหรับรายได้ไม่รวมค่าเชื่อมโยงเครือข่ายในไตรมาส 2/52 อยู่ที่ 19,932 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงโลซีซั่นของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อที่กอปรกับมีปัญหาเศรษฐกิจโลก การเมืองในประเทศ และการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ส่งผลให้รายได้ของการใช้บริการโทรข้ามประเทศ (Inter roaming) ลดลง ทั้งนี้ บริษัทยังคงรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยที่ยังเติบโต
นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้จากธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมในต่างประเทศ อย่าง เอ็มโฟน โดยขณะนี้ให้บริการในประเทศกัมพูชา ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ที่ 27% มีลูกค้ากว่า 9 แสนราย และมีแผนจะขยายลูกค้าเพิ่มเติม เนื่องจากอัตราการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในกัมพูชายังอยู่ในระดับต่ำ ประมาณ 25% รวมถึงการบริหารงานในลาวเทเลคอม ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ที่ 60% มีลูกค้ามากกว่า 1 ล้านรายและมีแผนที่จะเพิ่มลูกค้าในส่วนของโทรศัพท์พื้นฐาน และอินเตอร์เน็ต และการโทรข้ามประเทศ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีกระแสเงินสดในมือที่เข้มแข็ง โดยอัตรากระแสเงินสด ณ สิ้นไตรมาส2/52 อยู่ที่ 3,600 ล้านบาทและปลอดหนี้สิน
นางสาวทมยันตี คงพูลศิลป์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN เปิดเผยกรณีที่บริษัทฯ มีการกระจายการถือหุ้นรายย่อย (ฟรีโฟลท) ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กำหนดไว้ที่ 15% ขณะปัจจุบันบริษัทฯมีฟรีโฟลตที่ 3% ซึ่งผู้ถือหุ้นได้มีนโยบายการเพิ่มฟรีโฟลทของหุ้นบริษัทฯในอนาคต แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ เนื่องจากจะต้องพิจารณาภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงภาวะโดยรวมของตลาดหุ้น ซึ่งหากมีความเหมาะสมก็มีโอกาสที่ผู้ถือหุ้นจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนออกมา
ทั้งนี้ ตลท.ได้ผ่อนผันหลักเกณฑ์กรณีที่บริษัทจดทะเบียนมีฟรีโฟลตต่ำกว่าเกณฑ์ โดยจะยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มเป็นการชั่วคราว เพื่อลดภาระด้านค่าใช้จ่ายของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ให้ลดต่ำลง และให้เวลากับบริษัทจดทะเบียนในการปรับตัว และถึงแม้ว่าบริษัทฯ จะมีฟรีโฟลตที่ต่ำกว่าเกณฑ์ แต่ก็ไม่มีแผนที่จะถอนหุ้นออกจากตลท.
"การลงทุนใหม่ตอนนี้คงยังบอกไม่ได้ว่าจะมีหรือไม่ แต่เราก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองอยู่แล้ว ยังคงเปิดกว้างที่จะมองหาการลงทุนอยู่เสมอทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเน้นธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมและมีเดีย ที่เรามีความรู้ความสามารถและเคยทำมาในอดีต ซึ่งก็ต้องใช้เวลาในการเลือกและตัดสินใจบนพื้นฐานของธุรกิจที่บริษัทมีความชำนาญ" นางสาวทมยันตี กล่าว
สำหรับรายได้ไม่รวมค่าเชื่อมโยงเครือข่ายในไตรมาส 2/52 อยู่ที่ 19,932 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงโลซีซั่นของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อที่กอปรกับมีปัญหาเศรษฐกิจโลก การเมืองในประเทศ และการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ส่งผลให้รายได้ของการใช้บริการโทรข้ามประเทศ (Inter roaming) ลดลง ทั้งนี้ บริษัทยังคงรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยที่ยังเติบโต
นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้จากธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมในต่างประเทศ อย่าง เอ็มโฟน โดยขณะนี้ให้บริการในประเทศกัมพูชา ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ที่ 27% มีลูกค้ากว่า 9 แสนราย และมีแผนจะขยายลูกค้าเพิ่มเติม เนื่องจากอัตราการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในกัมพูชายังอยู่ในระดับต่ำ ประมาณ 25% รวมถึงการบริหารงานในลาวเทเลคอม ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ที่ 60% มีลูกค้ามากกว่า 1 ล้านรายและมีแผนที่จะเพิ่มลูกค้าในส่วนของโทรศัพท์พื้นฐาน และอินเตอร์เน็ต และการโทรข้ามประเทศ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีกระแสเงินสดในมือที่เข้มแข็ง โดยอัตรากระแสเงินสด ณ สิ้นไตรมาส2/52 อยู่ที่ 3,600 ล้านบาทและปลอดหนี้สิน