ASTVผู้จัดการรายวัน - สาลี่ พริ้นท์ติ้งเปิดทาง พาโก้ โฮลดิ้ง เข้าถือหุ้น 30 % หวังต่อยอดธุรกิจ ยกระดับผู้นำการผลิตพิมพ์ฉลากผลิตภัณฑ์ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เบิกฤกษ์รุกตลาดเวียดนาม พม่า และลาว คาดดันรายได้ปี 53 เพิ่ม 50% ส่วนรายได้ของกลุ่มขยายตัว 5-10 % จากสัญญาณธุรกิจฮาร์ทดิสฟื้นตัว
นายเศวต นราธิปกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SALEE) เปิดเผยว่าการร่วมมือกับ บริษัท พาโก้ โฮลดิ้ง เอ จี (PAGO) จากสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตฉลากผลิตภัณฑ์และเครื่องติดฉลากชั้นนำของโลก เพื่อก้าวสู่ความเป็นที่หนึ่งในธุรกิจการพิมพ์ฉลากผลิตภัณฑ์ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดย พาโก้ จะเข้ามาถือหุ้น 30% ในบริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง ภายใต้ชื่อบริษัทใหม่ว่า "บริษัท พาโก้ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด"
สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 310 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่ทำได้ 233 ล้านบาท หรือ 30% สำหรับในปี 53 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 40-50% จากปีนี้ผลจากการร่วมทุนกับ พาโก้ โดยมีแผนร่วมกันขยายตลาดในเอเชียแปซิฟิก เริ่มจากประเทศเวียดนาม พม่า และ ลาว รวมทั้งขยายสินค้าใหม่ เช่น เครื่องติดฉลากแบบเคลือบ เป็นต้น คาดเริ่มออกสู่ตลาดใน 5-6 เดือนข้างหน้า
"การร่วมมือกับพาโก้ครั้งนี้ถือว่าเป็นต่อยอดธุรกิจที่ดี จะทำให้เราได้รับเทคโนโลยีในการผลิตที่แปลกใหม่และการเรียนรู้ใหม่ๆจากพาโก้ และได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงก้าวไปสู้การทำธุรกิจอย่างเป็นโกลบอลมากขึ้น ส่งผลดีต่อบริษัทในด้านการเติบโตและความแข็งแกร่งทางธุรกิจ " นายเศวตกล่าว
สำหรับการขายหุ้นให้พาโก้ คาดได้รับเงินประมาณ 130-140 ล้านบาท เบื้องต้นจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และ 50% จะจ่ายให้ SALEE จากการซื้อหุ้นเดิม และอีก 50% จะจ่ายให้แก่ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง สำหรับค่าหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่
นายสุพจน์ สุนทรินคะ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์และพัฒนาธุรกิจ SALEE เปิดเผยว่าปีนี้ตั้งเป้ารายได้ขยายตัว 5-10% หรือใกล้เคียงปีก่อนที่ทำได้ 929 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาสแรก บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมฮาร์ทดิสก์ที่หดตัว แต่กำไรน่าจะดีขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 40.73 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 2 นี้อุตสาหกรรมฮาร์ทดิสเริ่มกลับมาฟื้นตัวและมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะคำสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทโตชิบาที่ให้ผลิตฮาร์ทดิสก์เพิ่มขึ้นเป็น 500,000 ชิ้นต่อเดือน ซึ่งจากเดิมผลิตอยู่ที่ 300,000 ชิ้นต่อเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ ส่งผลให้ต้องเตรียมเช่าเครื่องจักรเพิ่ม เพื่อให้มีกำลังการผลิตที่เพียงพอกับคำสั่งซื้อใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่ม
"ไตรมาสแรกยอมรับว่าได้รับผลกระทบหนัก แนวโน้มอุตสาหกรรมไม่ดียอดหดแรงมาก แต่ไตรมาส 2 เรามองว่ากลุ่มฮาร์ทดิสก์กำลังกลับมาอีกครั้ง จากออเดอร์ที่เราได้รับด้วยที่เป็นตัวยืนยัน แล้วก็ทำให้เราต้องมีการเพิ่มเครื่องจักร เพื่อให้เพียงพอกับกำลังการผลิต ซึ่งเราจะใช้วิธีการเช่า ซึ่งค่าเช่าอยู่ที่ 5-10% ของรายได้ที่จะเพิ่มมาจากการผลิตฮาร์ดดิสก์ " นายสุพจน์ กล่าว
นอกจากนี้ SALEE ยังมีแผนนำ บริษัท สาลี่ คัลเลอร์ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ซึ่งปัจจุบันได้ยื่นแบบแสดงข้อมูลการขอซื้อขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว รอเพียงการอนุมัติเท่านั้นซึ่ง SALEE ถือหุ้น 12% และจะไดรูทเหลือ10% หลังจากเข้าตลาด
นายเศวต นราธิปกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SALEE) เปิดเผยว่าการร่วมมือกับ บริษัท พาโก้ โฮลดิ้ง เอ จี (PAGO) จากสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตฉลากผลิตภัณฑ์และเครื่องติดฉลากชั้นนำของโลก เพื่อก้าวสู่ความเป็นที่หนึ่งในธุรกิจการพิมพ์ฉลากผลิตภัณฑ์ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดย พาโก้ จะเข้ามาถือหุ้น 30% ในบริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง ภายใต้ชื่อบริษัทใหม่ว่า "บริษัท พาโก้ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด"
สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 310 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่ทำได้ 233 ล้านบาท หรือ 30% สำหรับในปี 53 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 40-50% จากปีนี้ผลจากการร่วมทุนกับ พาโก้ โดยมีแผนร่วมกันขยายตลาดในเอเชียแปซิฟิก เริ่มจากประเทศเวียดนาม พม่า และ ลาว รวมทั้งขยายสินค้าใหม่ เช่น เครื่องติดฉลากแบบเคลือบ เป็นต้น คาดเริ่มออกสู่ตลาดใน 5-6 เดือนข้างหน้า
"การร่วมมือกับพาโก้ครั้งนี้ถือว่าเป็นต่อยอดธุรกิจที่ดี จะทำให้เราได้รับเทคโนโลยีในการผลิตที่แปลกใหม่และการเรียนรู้ใหม่ๆจากพาโก้ และได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงก้าวไปสู้การทำธุรกิจอย่างเป็นโกลบอลมากขึ้น ส่งผลดีต่อบริษัทในด้านการเติบโตและความแข็งแกร่งทางธุรกิจ " นายเศวตกล่าว
สำหรับการขายหุ้นให้พาโก้ คาดได้รับเงินประมาณ 130-140 ล้านบาท เบื้องต้นจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และ 50% จะจ่ายให้ SALEE จากการซื้อหุ้นเดิม และอีก 50% จะจ่ายให้แก่ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง สำหรับค่าหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่
นายสุพจน์ สุนทรินคะ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์และพัฒนาธุรกิจ SALEE เปิดเผยว่าปีนี้ตั้งเป้ารายได้ขยายตัว 5-10% หรือใกล้เคียงปีก่อนที่ทำได้ 929 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาสแรก บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมฮาร์ทดิสก์ที่หดตัว แต่กำไรน่าจะดีขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 40.73 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 2 นี้อุตสาหกรรมฮาร์ทดิสเริ่มกลับมาฟื้นตัวและมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะคำสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทโตชิบาที่ให้ผลิตฮาร์ทดิสก์เพิ่มขึ้นเป็น 500,000 ชิ้นต่อเดือน ซึ่งจากเดิมผลิตอยู่ที่ 300,000 ชิ้นต่อเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ ส่งผลให้ต้องเตรียมเช่าเครื่องจักรเพิ่ม เพื่อให้มีกำลังการผลิตที่เพียงพอกับคำสั่งซื้อใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่ม
"ไตรมาสแรกยอมรับว่าได้รับผลกระทบหนัก แนวโน้มอุตสาหกรรมไม่ดียอดหดแรงมาก แต่ไตรมาส 2 เรามองว่ากลุ่มฮาร์ทดิสก์กำลังกลับมาอีกครั้ง จากออเดอร์ที่เราได้รับด้วยที่เป็นตัวยืนยัน แล้วก็ทำให้เราต้องมีการเพิ่มเครื่องจักร เพื่อให้เพียงพอกับกำลังการผลิต ซึ่งเราจะใช้วิธีการเช่า ซึ่งค่าเช่าอยู่ที่ 5-10% ของรายได้ที่จะเพิ่มมาจากการผลิตฮาร์ดดิสก์ " นายสุพจน์ กล่าว
นอกจากนี้ SALEE ยังมีแผนนำ บริษัท สาลี่ คัลเลอร์ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ซึ่งปัจจุบันได้ยื่นแบบแสดงข้อมูลการขอซื้อขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว รอเพียงการอนุมัติเท่านั้นซึ่ง SALEE ถือหุ้น 12% และจะไดรูทเหลือ10% หลังจากเข้าตลาด